ทริปนี้เกิดจาก เพื่อนลุงมีไปทำงานที่เสียมราฐ เพื่อนก็เลยมาชวนลุงไปเที่ยว นครวัด-นครธม ด้วยกัน เพื่อนบอกว่ามันอาจร้อนหน่อย แต่ช่วงนี้ นทท น้อย ถ่ายรูปสวย ได้นอน Park Hyatt ด้วยนะเธอ…. โอเค ไปก็ไป เขาเอา Park Hyatt มาล่อ เราก็ใจง่าย ก็ตามเขาไปนิ 5555
การเดินทางไป เสียมราฐ จาก กทม สามารถเดินทางไปได้หลายทาง ทั้งทางรถยนต์ และ ทางเครื่องบิน (มีหลายสายการบินเลย) ครั้งนี้ลุงเลือกเดินทางไปกลับ แอร์เอเซีย ฮะ (ขอเรียกว่า AA ล่ะกันเนอะ) ไฟท์ที่บินก็จะมีให้เลือกวันล่ะ 2 ไฟท์ ไปกลับประมาณ 4XXX บาทฮะ ใช่เวลาเดินทางประมาณ 1 ชม เท่านั้น เดินทางจากดอนเมืองฮะ
ใครที่มีโอกาสได้เดินทาง กับ AA ถ้ามีโอกาสได้สั่งอาหารล่วงหน้า ลุงอยากแนะนำ ชานมไข่มุกบุก นะ อร่อยมว้าก ถือเป็นอีกเมนูที่เหมาะกับการบินสั้นๆ เป็นอาหารว่างรองท้อง ส่วนอาหารในทริปนี้ลุงได้ลองก็มี โชกุปัง กับ ลาซานย่าไก่ ฮะ เมนู โชกุปัง อันนี้ลุงสั่งบ่อยนะ โดยเฉพาะถ้าเดินทริปเช้าๆ ราคาดีและเมนูเหมาะกับเป็นอาหารเช้าหรืออาหารว่างฮะ ส่วน ลาซานย่าไก่ ตอนแรกที่เห็นคิดในใจว่าจะได้มั้ยน้ออออ สรุป อร่อยเฉยๆ ใครอยากได้อะไรที่หนักกว่า โชกุปัง ก็แนะนำให้ลอง เมนู ลาซานย่าไก่ ดูฮะ อร่อยแบบไม่อวยนะ
เมื่อมาถึง เสียมราฐ เราจะลงที่สนามบินใหม่ของเขาฮะ เพิ่งจะเปิดได้ไม่นาน สนามบินใหม่ใหญ่โต สวยงามอยู่นะ เพื่อนบอกว่า Duty Free ที่นี่ สินค้าบางอย่างก็มีโปร แอบถูกกว่าที่ King Power นะ (เพื่อนได้ลิปสติกเคาเตอร์แบรนด์ไป บอกว่าถูกกว่าเมืองไทยหลายร้อยอยู่ฮะ)
นครวัด-นครธม มาเสียมราฐ แน่นอนเรา ก็ต้องมาเที่ยว นครวัด-นครธม สิเนอะ จะให้ไปไหนได้ ตอนนี้ค่าเข้าชมแบบเหมารวมต่อวันราคา 37$ / วัน (ลืมพูดเรื่องเรทเงินไป ที่นี่เขาใช้เงินอยู่ 2 สกุล คือ US และ เงิน กัมพูชา ใครสะดวกใช้แบบไหนก็แล้วแต่เลยฮะ ลุงใช้เงิน US เอาฮะ)
ป.ล. ช่วงเวลาที่น่ามาเที่ยวที่นี่ คือช่วงหลัง มิย-มค ช่วงพีคที่อากาศดีที่สุด คือช่วง พย-มค. ช่วงที่ลุงไปเป็นช่วงโลว์ และ ร้อนมากๆ แต่จะเป็นช่วงที่คนเที่ยวน้อยกว่าทุกช่วงฮะ
ช่วงเวลาที่ควรไปเที่ยว นครวัด ส่วนตัวว่า คือ ช่วงเช้าตรู่ๆๆๆๆๆ เลยฮะ เพื่อนลุงลากไปตั้งแต่ตีห้า (นครวัดเปิดตีห้า) เพื่อนบอกว่า นอกจากเราจะได้เห็นพระอาทิตย์ขึ้นสวยๆแล้ว อากาศก็ไม่ร้อนด้วย เที่ยวแบบสบายๆ อันนี้คือเรื่องจริงๆฮะ เที่ยวแบบไม่แผดเผา เที่ยวสบายๆ ช่วงเช้าอากาศเย็นนะ ถึงแม้จะเป็นช่วงหน้าร้อน ก็ยังรู้สึกว่าก่อนแปดโมงเช้าคือเดินเที่ยวได้สบายๆเลย (แต่หลังเก้าโมงเช้าไปก็….)
ป.ล. อยากชมพระอาทิตย์ขึ้นสวยๆแบบนี้ต้อง ไปจองที่ตั้งแต่ ตีห้านิดๆ ฮะ พระอาทิตย์ขึ้น 7.20 น. นี่เพื่อนชวนมาจองที่ตั้งแต่ตีห้าครึ่งเด้อออ 55555 ( ใครไม่สนพระอาทิตย์ขึ้นแถวหน้าสุด ก็มาหลัง 7 โมงก็ได้ฮะลุงว่าก็สวยเหมือนกัน)
นครวัด นครธม คืออะไร
ยอมรับว่า เมื่อก่อนลุงไม่เข้าใจนะ ว่า 2 อย่างนี้มันคืออะไร แต่ตอนนี้เข้าใจล่ะ นครวัด นครธม คือเมืองโบราณที่ถูกสร้างขึ้นเมื่อ 800 ปีก่อนฮะ ( ถ้าเทียบกับไทย ช่วงนั้นน่าจะเป็น อณาจักร สุโขทัย นะ ) นครวัด คือ วิหารที่บูชาเทพ และ เป็นสุสานของพระราชาด้วยฮะ
ส่วน นครธม คือเมืองขนาดใหญ่ ที่อยู่ใกล้ๆกัน ที่มีคนเคยอาศัยอยู่ประมาณ 1 ล้านคน (ฟีล อยุธยาบ้านเรา ก็เคยมีบันทึกว่าคนอาศัยอยู่ถึง 1 ล้านคนเหมือนกัน ) เหมือนเขาไม่ได้สร้างวิหารบูชาเทพไว้ในเมือง แต่แยกออกมาสร้างนอกเมือง ให้เหมือนเป็นเมืองของเทพ ไม่ได้อยู่รวมกับมนุษย์
จุดนี้ถือเป็น ศูนย์กลางของเมือง นครธม ชื่อ ปราสาทบายน ฮะ ถือเป็นอีกจุดที่ลุงว่าสวยนะ
ไกด์ที่ไปกับเราในทริปนี้ชื่อลุงโอมฮะ เป็นไกด์ที่ดังที่สุดของที่นี่เพราะเป็นไกด์ที่ดูแลประสานงานให้กองถ่ายหนังหลายๆเรื่องกับทางรัฐบาลกัมพูชา กองถ่ายของ tomb raider ไกด์โอมก็เป็นคนดูแลฮะ
ส่วนจุดนี้เรียกว่า ปราสาทตาพรหม ถือเป็นจุดที่มีการถ่ายภาพยนต์มากที่สุด tomb raider และ indiana jones ก็มีมาถ่ายทำที่นี่เช่นกันฮะ ( เสน่ห์ของที่นี่จะเป็นปราสาทที่มีรากไม้ขึ้นปกคลุมปราสาท วิหาร ในหลายๆจุด นี่แหละ )
ช่วงที่ไปไกด์เขาให้ความรู้ว่า ไม่ใช่ทุกรูปสลักจะเรียกว่า อัปสรา นะ อัปสรา จะเป็นรูปสลักที่มีการร่ายรำ ถ้าเราเห็นรูปสลักแบบนี้ หรือ แบบที่มีการร่ายรำ เคลื่อนไหว ถึงจะเรียกว่า อัปสรา รูปสลักใดที่ไม่มีการร่ายรำจะเป็นรูปสลักของ เทวดา ฮะ
นอกจากเที่ยว นครวัด นครธม แล้ว เพื่อนลุงก็ชวนไปเที่ยวในเมือง(ช่วงกลางวัน)ฮะ ที่เสียมราฐ เดี๋ยวนี้แอบดูเจริญขึ้นนะเมื่อเทียบกับที่ลุงมาคราวก่อน มีร้าน บาร์ คาเฟ่ เก๋ๆ หลายร้านเลย ถนนหนทางก็ทำใหม่ (ไกด์บอกทำช่วงโควิด) ทำให้เมืองดูสะอาด เจริญขึ้นจริงจัง ฮะ
ทริปนี้ลุงกับเพื่อนมาพักกันที่นี่ฮะ Park Hyatt Siem Reap เพื่อนลุงเขามาทำงานให้ที่นี่ เราก็เลยได้พักที่นี่กันฮะ
Park Hyatt Siem Reap เป็นโรงแรมที่ตั้งอยู่ในเขตกลางเมืองมากๆ ใครที่เคยมาเที่ยว เสียมราฐ แล้ว เวลามาเที่ยวในเมืองเชื่อได้เลยว่า เพื่อนๆน่าจะเดินผ่านหรือเห็นโรงแรมนี้ผ่านตามาบ้างแล้ว ที่นี่เป็นโรงแรมที่ออกแบบโดย Bill Bensley นักออกแบบชื่อดังของวงการโรงแรมฮะ
ก่อนจะเข้าไปโรงแรม ลุงพาไปชมจุดนี้กันก่อน The Glasshouse Deli เป็นร้านคาเฟ่ของโรงแรมฮะ ร้านนี้ใครที่ไม่ได้พักในโรงแรมก็สามารถมาทานขนม เครื่องดื่มและอาหารได้ฮะ ถามว่าแพงมั้ย ถ้าเป็นขนมและ เครื่องดื่ม ไม่แพงฮะ เริ่มต้นที่ 1.5 US (ประมาณ 50 บาท) แต่อาหารราคาเอาเรื่องอยู่นะ
เบอร์เกอรี่มุมนี้จะราคาเท่ากันหมดคือ 1.5 US/ชิ้น (ประมาณ 50 บาท) ใครสายขนมอยากให้ลองแวะกันเข้ามาดูขนมกันก่อนฮะ นอกจากจะขนมจะราคาน่าคบได้แล้ว เราก็ยังสามารถ เดินถ่ายรูปในโรงแรมได้ในบางโซนได้ด้วยฮะ ใครไม่ได้มาพักที่นี่ก็แนะนำมาซื้อขนม และเข้ามาถ่ายรูปเล่นกันได้ฮะ
ส่วนขนมเค้กจะราคา 5 US /ชิ้น กาแฟ เครื่องดื่ม จะราคาประมาณ 6 US ขึ้นไปฮะ ขนมแบบที่ต้องทำสด ก็จะประมาณ 10 US ส่วนอาหารจะตกประมาณ 15-20 US ฮะ
ถ้าเป็นอาหาร ถามว่าอะไรอร่อยสุด ตัวเมนูที่หน้าตาเหมือนเนื้อผัดพริกไทดำโปะไข่ดาวมา เนี้ยะแหละ ลุงว่าอร่อยสุดล่ะ เป็นเมนูอาหารท้องถิ่นของเขมรเขา ส่วนเพื่อนลุงบอก ไก่ทอดเกาหลี กับ บิบิมบับอร่อย 55555
แล้วลุงประทับใจอะไรที่สุดในโรงแรมนี้
คำตอบคืออาหารเช้า เป็นอาหารเช้าโรงแรมในต่างประเทศที่ลุงประทับใจมากๆๆ อาหารเช้าจะจัดเสริฟที่ The Dining Room
อาหารเช้าจะแบ่งเป็นไลน์มินิบุฟเฟ่ต์ และ เมนูอลาคาร์ต ฮะ อาหารที่นี่เลือกใช้ของดี รสชาติอร่อยแบบ อร้อยยยย อร่อย รสชาติจะมาแนวรสชาติที่ กลมกล่อม ลงตัว ไม่จัดจ้าน ฟีล รสผู้ดีกิน อร่อยแทบทุกเมนูเลยก็ว่าได้ อย่าหาว่าลุงอวยนะ สั่งอะไรได้สั่งไปเลยฮะ เอ้กเบเนดิกที่ลุงไม่ชอบยังอร่อยเลยฮะ (ยกเว้นขนมจีนน้ำยา อันนั้นรสอ่อนเกินไป อย่าสั่ง )
เมนูที่ไม่ควรพลาดเลย คือ ข้าวไข่เจียวกุ้ง ข้าวต้มปลา แซลม่อนรมควัน ซุปเนื้อกับขนมปังฝรั่งเศส เอ้กเบเนดิกแซลม่อน ฯ
บริเวณแถวๆห้องอาหารเช้า จะมีกิจกรรมฟรีให้แขกได้ร่วมทำกันด้วยฮะ อันที่ประทับใจเพื่อนลุงสุดๆ คือ นวดคอ บ่า ไหล่ ฟรี 15 นาที เพื่อนบอกว่า นวดดีมากๆ แก ใครมาพักที่นี่อย่าลืมมานวดฟรีกันน้าาาา
นอกจากมีจะมีสอนพับดอกบัว และ สอนสานตระกร้า
The Living Room ห้องรับแขกของโรงแรมฮะ เมื่อเรามาถึง โรงแรมเราก็จะต้องมาที่จุดนี้ก่อน มาทำมั้ยเหรอ ก็มาเช็คอินนี่แหละฮะ ตามชื่อเลย ห้องรับแขก
เวลคัมดริ้งจะมีหลายแบบให้เราเลือกได้ฮะ แถมแต่ล่ะเวลาที่เรามาเช็คอิน เวลคัมดริ้งก็จะเปลี่ยนไปเรื่อยๆด้วย เช่น ช่วงเช้าๆเวลคัมดริ้งอาจเป็นกาแฟ ช่วงเที่ยงๆร้อนๆอาจเป็นน้ำผลไม้เย็น และตอนเย็นอาจเป้นเครื่องดื่มม๊อกเทล อะไรแบบนี้ฮะ
The Living Room เป็นโซนที่ลุงว่าสวยสุดในโรงแรมล่ะ ยิ่งเวลาแสงอ่อนๆสาดลงมา คือสวยมากๆ
อาฟเตอร์นูนท์ แขกส่วนใหญ่ก็เลือกจะทานกันที่นี่ฮะ ( จริงๆแล้ว อาหารในโรงแรม เราสามารถเลือกทานที่ห้องอาหารไหนก็ได้ฮะ เช่น สั่งขนมที่ The Glasshouse Deli แต่อยากทานที่ The Living Room ก็ได้เลยฮะ โรงแรมยินดี )
ช่วงเย็นๆค่ำๆของทุกวัน บริเวณคอร์ทยาทของโรงแรม จะมีกิจกรรมลอยโคมประทีปฮะ เราจะเขียนคำอธิษฐานที่ธงแล้วจุดโคมลงเรือลอยน้ำ คล้ายๆลอยกระทงบ้านเราฮะ ในช่วงกิจกรรมจะมีการแจกเครื่องดื่ม และ อาหารทานเล่นในแขกที่มาร่วมงานด้วยฮะ
หลังจากนั้นจะมีการแสดง ระบำอัปสรา สำหรับแขกที่มาทานอาหารเย็นภายในโรงแรม ส่วนใครที่ไม่ได้ทานอาหารกับทางโรงแรมก็สามาารถมายืนชมได้เช่นกันฮะ การแสดงจะเริ่มตั้งแต่ ทุ่มนึงไป
นอกจากนี้ทางโรงแรมยังมีมื้อคำ แบบ la petite chef ด้วยฮะ เป็นการทานอาหารประกอบแสงสีเสียง บนโต๊ะอาหาร
สระว่ายน้ำของโรงแรมจะถูกแบ่งเป็น 2 สระ สระหลักจะอยู่บนตึกฮะ ถือเป็นสระใหญ่สุดของโรงแรม ในบริเวณสระ ก็จะมีสปา และฟิตเนสรวมอยู่ด้วย
บรรยากาศโดยรวมของบริเวณโซนบนตึกฮะ
โซนที่พักโซนบนตึกก็มีห้องพักหลากหลายรูมแบบเลยฮะ ใครที่อยากพักชั้นเดียวกับสระว่ายน้ำ ขอรีเควสชั้น 1 ฮะลุงขอพาไปชมห้องพัก 2 แบบเนอะ
อันนี้เป็นห้องเริ่มต้น Garden View Room ห้องมีขนาด 35 ตรม ฮะ
อเมนิตี้ที่นี่จะใช้ของ Le Labo – Grasse New York ( แบรนด์นํ้าหอมไฮโซลูกครึ่งจาก ฝรั่งเศส – อเมริกา )
Rooftop Garden Suite ขนาด 152 ตรม
ส่วนอีกสระว่ายน้ำจะอยู่ชั้นล่างด้านหลังคอร์ทยาทฮะ จะเป็นสระน้ำเกลือที่อยู่หน้าห้อง Park Executive Suite (ฟีลพูลวิลล่าฮะ)
Park Executive Suite ขนาด 99 ตรม ฮะ
สรุปปิดท้าย
นครวัด นครธม ถามว่าสวยมั้ย ขนาดเป็นคนไม่อินประวัติศาสตร์ ลุงยังว่าสวย อลังเลย ใครที่อินประวัติศาสตร์น่าจะชอบกันมากๆ แต่ถ้าถามว่าร้อนมั้ย คำตอบคือว่า….ไหม้ (แต่ก่อน 9 โมงโอเคนะ หลังจากนั้น คือ…) ถ้าจะมาเที่ยวกันก็แนะนำช่วง มิย ไปแล้วฮะ ให้ฝนตกลงมาบ้างแล้วน่าจะดีนะ
Park Hyatt Siem Reap โรงแรมดีมั้ย ส่วนตัวว่า ดี๊ดี ต้องชมเลย ไม่รู้จะติอะไรเลย ห้องดี โรงแรมสวย อาหารเช้าอร่อย บริการดี สมเป็นอัลตร้าลักชูฯ เทียบกับ อัลตราลักชูในไทยได้สบายๆเลย เห็นจะมีโปรคนไทย เปิดตัวมาที่ 6,XXX+ฟรีอาฟเตอร์นูนที (เซ็ตล่ะ 2600 บาท) +เช็คอินเออรี่ เช็คเอาท์เลท ด้วยฮะ
ประเด็นดราม่า จากที่สัมผัสมา คนกัมพูชาเขาก็ยิ้มแย้ม พูดคุย ต้อนรับคนไทย ดีนะ ไม่มีดราม่าอะไร ไม่มีใครพูดถึงเรื่องเคลมอะไรเลย คนที่นี่เขาก็ใช้ขีวิตปกตินะ ส่วนตัวมองว่าเรื่องบางเรื่องมันก็อาจเกิดจากการปั่นของสื่อที่อยากได้กระแส บางครั้งเราอาจต้องแยกเรื่องจากในอินเตอร์เน็ตออกจากโลกแห่งความจริงบ้าง คนเคลมก็คงมีแหละฮะ แต่อาจเป็นคนกลุ่มน้อย คนทั่วไปเขาก็ดูไม่ได้สนใจเรื่องพวกนี้นะ