Le Meridien เชียงราย ถือเป็นอีกหนึ่งรีสอร์ทที่ลุงชอบมากๆๆ ถ้าถามถึงรีสอร์ทสำหรับทิ้งตัว มาพักผ่อนไม่ออกไปแรดที่ไหน ที่นี่จะเป็นอีกหนึ่งคำตอบที่ลุงคิดถึงเสมอๆ ถามว่ากลับมาที่นี่บ่อยมั้ย ก็บ่อยอยู่นะ ถ้าถามว่ามีอะไรน่าสนใจ เอาจริงๆตอบแบบไม่อวยเลย ห้องดี ห้องกว้าง เตียงดี อาหารเช้าดี ราคาไม่ได้แพง รีสอร์ทสวย เงียบสงบ ถ้ามาพักผ่อน อยู่แบบทิ้งตัวในรีสอร์ท แล้วรู้สึกสบายใจมากเลยฮะ
จากแผนที่รีสอร์ทตั้งอยู่ระหว่างกึ่งกลางสนามบินกับตัวเมืองเชียงราย ตัวรีสอร์ทอยู่ติดริมน้ำกกเลย
มาตั้งหลายครั้ง ถามว่าในรีสอร์ทมีอะไรเปลี่ยนไปบ้างมั้ย ?
สิ่งที่เปลี่ยนแปลงมากที่สุดคงจะเป็น ห้องอาหารริมแม่น้ำ Favola ฮะ Favola เป็นห้องอาหารอิตาเลี่ยนที่บรรยากาศดีที่สุดของโรงแรมฮะ เปิดบริการตั้งแต่ 11.00 น จนถึง 22.00 น
มื้อกลางวันเป็นฟีลร้านอาหารริมแม่น้ำสไตล์กึ่งคาเฟ่ ร้านเพิ่งเปิดใหม่ได้ไม่นาน หลังจากปิดรีโนเวทใหญ่ไปฮะ โดยรวมห้องอาหารเปลี่ยนแปลงไปหมดเลยทั้งการตกแต่ง บรรยากาศ และ เมนูอาหาร เราไปดูบรรยากาสโดยรวมกันก่อนเนอะ
ช่วงนี้เมนูอาหารกลางวันกับเย็นยังเหมือนกัน เพราะเพิ่งเปิดได้ไม่นาน ขนมและอาหารยังไม่ได้หลากหลายมากนัก ข้อดีของห้องอาหารนี้คือราคาเน็ตแล้วไม่มีบวกเพิ่ม ทางร้านก็เพิ่งมีเซ็ตไฮทีออกมาเนอะ ราคา 700 บาทสำหรับ 2 ท่าน โดยส่วนตัวลุง ลุงว่าไม่ได้ขี้เหร่ฮะ แต่ดูยังไม่ลงตัวเท่าไหร่ ในเซ็ต แถมชาไร่บุญรอดให้ 1 กาฮะ
ส่วนเมนูไหนที่ลุงแนะนำ ลุงว่า ก็คงเป็น พิซซ่า มีหลายหน้าอยู่ อร่อยใช้ได้ แบ่งได้ 8 ชิ้น ราคาไม่แพงฮะ 390 บาท กับชีสเค้ก 250 บาท
-ลาวิโอลี่ลอบเตอร์ 700- ก็ใช้ได้ฮะ แต่ราคาแพงไปนิดนะ ตัวแป้งเป็นแบบโฮมเมด
-ส่วนพาม่าแฮมกับชีสสด Burrata 520- ลุงกินไม่เป็นฮะ แต่เพื่อนที่ไปด้วยบอกอร่อย
-สลัดทะเล 320- รสเหมือนยำไม่ใส่พริก ฝรั่งคงชอบ ส่วนซีฟู้ดสดมาก สดกว่าโรงแรมริมทะเลบางทีอีก
-ทีรามิซุ 250-ที่นี่จะเสริฟเป็นแบบครีมๆฮะ อร่อยดี แต่ชีสเค้กอร่อยกว่านะ 5555 ราคา 250 บาทเท่ากัน
ส่วนบรรยากาศช่วงเย็นลุงว่า เป็นช่วงที่สวยที่สุดของ Favola ใครชอบบรรยากาศชมพระอาทิตย์ตกริมแม่น้ำก็แนะนำใช้มาช่วงเย็นนี่แหละ
ส่วนเมนูมื้อเย็น เอาจริงๆเหมือนกลางวันเลยฮะ ถ้าจะให้แนะนำที่ต่างออกไป ลองดู ซุปทะเล(อาหารทะเลที่นี่สดจริงฮะ) กับ สเต็กแบบต่างๆ (ที่นี่ย่างปลาดีอร่อยเลยฮะ ยังฉ่ำๆนิดๆอยู่)
สลัดเห็ดสไตล์อิตาลี 270 –
ซุปทะเลสไตล์อิตาลีสำหรับทานสองคน 650-
กุ้งอบซอสเผ็ดสไตล์อิตาลี 290-
สเต็กปลากระพง 500-
แพนนาคอตต้า 250-
ส่วนตัวโรงแรมยังไม่ได้ดีการเปลี่ยนแปลงอะไรมากมาย บรรยกาศภายในโรงแรมจะเน้นบรรยากาศธรรมชาติ เน้นอะไรที่มันโล่งๆ โปร่งๆ ต้นไม้ใบหญ้าสีเขียวๆ กับบึงน้ำที่ดูเหมือนว่าจะเชื่อมกับริมน้ำกก ดูแล้วสบายตาสบายใจ เหมาะกับการมาทิ้งตัวแบบไม่ต้องคิดอะไรฮะ
ลอบบี้ออกแบบโดยใช้ ศิลปะไทยล้านนาประยุกต์มาใช้ตกแต่ง ไม่ว่าจะเป็นอูบ(หม้อข้าวหม้อน้ำของชาวล้านนา) หรือ กระจกข้าวหลามตัด ลอบบี้ที่นี่ออกแบบโดยใช้สีดำแปลกตาไปจากหลายๆโรงแรมเนอะ สวยแปลกตาไม่เหมือนใคร
เอาล่ะฮะ เราไปดูห้องพักกันดีกว่า ที่ลุงบอกว่า ห้องดี ห้องกว้าง เตียงดี ราคาไม่ได้แพง ดูแล้วจะได้รู้ว่าดีจริงอย่างที่โม้มั้ย
Deluxe ขนาด 53 ตร.ม. แนะนำว่าให้รีเควสชั้น 4 เพราะเพดานสูงขึ้นอีกเท่าฮะ ทำให้ห้องดูกว้างกว่าความเป็นจริงมากเลย โดยส่วนตัวลุงชอบห้องเริ่มต้นที่นี่นะ กว้าง สวยตั้งแต่ห้องเริ่มต้นเลย ไม่จำเป็นต้องจ่ายแพง ก็รู้สึกพรีเมี่ยมได้
อย่าลืมเก็บคูปองกาแฟฟรีที่เตียงด้วย หลายคนไม่ได้อ่าน
อเมนิตี้ของ เลอ เมอริเดี้ยนช่วงนี้จะใช้แบรนด์ยี่ห้อนี้ฮะ Malin + Goetz เป็นสกินแคร์ของดีราคาแพงจาก New York เลยฮะ
Grande Deluxe ขนาดห้อง 66 ตร.ม. บอกตามตรงห้องนี้ห้องใหญ่ไปนะ คือ กว้างเกินราคาไปมาก ถามว่าชอบห้องนี้มั้ย ก็ชอบนะ จ่ายเพิ่มจาก Deluxe มาแค่ไม่กี่ร้อยแต่ได้ขนาดที่กว้างขึ้นกว่ามาก แนะนำชั้น 4 อีกเหมือนเดิม
Grande Suite ขนาด 132 ตร.ม คือ ใหญ่เกินราคาไปมากห้องนี้ เป็นห้องที่แพงที่สุดของโรงแรม มีแค่ห้องเดียวเท่านั้นฮะ ส่วนตัวลุงว่าใหญ่เกินไปฮะ ถ้าอยู่กัน 2 คน เหงาตายเลย
อาหารเช้าดีมั้ย ?
อาหารเช้าเสริฟที่ห้องอาหาร Latest Recipe ห้องอาหาร หลักของที่นี่ เช้า สาย บ่าย ค่ำ เราสามารถมาหาอะไรทานที่นี่ได้ทั้งวันเลยครับ
โดยรวมแล้วถือว่ายังดี ใช้ได้อยู่ฮะเมื่อเทียบกับราคาห้องที่จ่ายไป อาจมีการเปลี่ยนแปลงไปบ้าง ที่เห็นจะเพิ่มเข้ามาคงเป็นอาหารสุขภาพที่มากขึ้น และที่จากไปคงเป็นไอศครีมฮะ ส่วนตัวชอบที่มีอาหารเหนือแท้ๆอย่างข้าวซอยและ อาหารเหนือฟิวชั่นอย่าง เอ้กเบเนดิกน้ำพริกอ่อง ขนมปังไส้อั่ว ไข่เจียวยัดไส้ และ ขนมปังหน้าลาบคั่ว
ชอบที่โรงแรมมีเครื่องดื่มเบิกเนตร (อายโอเพ่นเนอร์) กินแล้วตื่นทันที รสมะม่วงพริกเกลืออร่อยมาก วิธีกินที่ถูกต้อง คือ ยกกระดกทีเดียวหมดแก้วเลยฮะ
วันที่ลุงไปมีอาหารไทยเป็นผัดซีอิ้วไก่ มัสมั่นไก่ และหมูผัดไข่เค็ม บอกเลยอร่อยทุกอย่างเลยฮะ
ขนมปังแบบกลูเตนฟรีก็มีฮะ
ส่วนมื้ออื่นๆที่นี่เน้นเสริฟอาหารนานาชาติฮะ แต่เน้นอาหารไทยเป็นหลัก โดยรวมรสชาติอาหารไทยที่นี่กลางๆฮะ ไม่ได้แย่ แต่ก็ไม่ได้ว้าวฮะ
-ออเดิฟเมือง (ได้กินหลายอย่างดี มีทั้งน้ำพริกอ่อง แคปหมู ไส้อั่ว แหนมทอด หมูยอ)
-ลาบทอดก็อร่อยดีฮะ เป็นเมนูทานเล่นเรียกน้ำย่อยได้ดีทีเดียว
-ข้าวซอยเนื้อรสกลางๆฮะ ลุงว่าน้ำแกงมันข้นไปนะ ส่วนเนื้อก็นุ่มประมาณนึงแต่ไม่ใช่เนื้อเปื่อยนะ
-แกงฮังเล ไม่ได้ชิมฮะ เพราะไม่ชอบหมูสามชั้น ( ส่วนตัวชอบกินแกงโฮะไม่ชอบแกงฮังเล 555555 )
-ผัดไทยกุ้งสด กุ้งดีงามสดและตัวใหญ่มาก ส่วนตัวผัดไทก็อร่อยใช้ได้ฮะ แต่ไม่ได้รู้สึกพิเศษอะไรฮะ ( อาหารทะเลที่นี่ดีมาก ดีกว่าโรงแรมริมทะเลหลายๆโรงแรมอีกฮะ)
เอาล่ะฮะ เราไปดูพื้นที่ส่วนกลางกันดีกว่า ที่สำคัญที่สุดของรีสอร์ทก็คงจะเป็นสระว่ายน้ำทั้ง 3 สระที่ได้รับการออกแบบมาเป็นอย่างดีเพราะเชื่อมกันหมด ว่ายสนุกมาก แต่ล่ะสระก็ใช้งานต่างกันไป มองๆไปแล้วก็รู้สึกสบายตาสบายใจ เหมือนขอบสระจะบรรจบกับขอบบึงน้ำได้จริงๆ
คิดส์คลับ อยู่ติดกับสระว่ายน้ำเลยฮะ ขนาดไม่ใหญ่มากนัก
Latitude Bar (ละติจูด) ซึ่งที่นี่ใช้ชื่อว่า Latitude 19 ตั้งชื่อจากละติจูดที่ตั้งของโรงแรม เป็นเหมือนลอบบี้บาร์ฮะ อยู่ใกล้ๆกับลอบบี้เลย
ฟิตเนส อยู่ใต้ลอบบี้ฮะ เปิด 24 ชม กว้างใหญ่ อุปกรณ์ทันสมัย น่าใช้งานมาก
ปิดท้ายรีวิวด้วย กิจกรรมใส่บาตรทุกวันศุกร์ฮะ เป็นกิจกรรมฟรี ของทางโรงแรมไม่มีคคิด่าใช้จ่ายเพิ่มแต่อย่างใดฮะ ใครต้องการร่วมกิจกรรมสามารถแจ้งความประสงค์ได้ฟรีฮะ
สรุปโดยรวม
ถือเป็นอีกรีสอร์ทที่ลุงค่อนข้างชอบมาก เหมาะกับการมาทิ้งร่าง นั่งๆ นอนๆ พักสมอง ในรีสอร์ท ไม่ต้องออกไปไหน รีสอร์ทค่อนข้างเงียบสงบเหมาะกับการมาพักผ่อนอย่างที่สุด ห้องพักก็ดีมากๆๆๆๆๆ เมื่อเทียบกับราคาที่จ่ายไป สวยงามอยู่สบาย เตียงก็ดี ส่วนเรื่องบริการ ก็คงต้องขอเอ่ยปากชม ดีมากจริงๆ สมกับที่เป็นแบรนด์ เลอฯ สรุปชอบมาเถอะ มาแล้วอย่าออกไปไหนนะ ทิ้งร่างในรีสอร์ทนี้แหละ แล้วจะรู้ว่าของดีในราคาที่จับต้องได้ยังมีอยู่จริง
ป.ล.ช่วงนี้ฝั่งตรงข้ามโรงแรมแอบมีก่อสร้างทางจักรยานเลียบแม่น้ำ วิวเลยอาจไม่สวยสักนิด คิดว่าไม่นานน่าจะเสร็จ