ถ้าให้พูดถึงเมืองชายทะเล 3 จังหวัดในภาคใต้ ลุงเชื่อว่าจังหวัดกระบี่จะต้องติด 1 ในคำตอบของคำถามข้อนี้อย่างแน่นอน จังหวัดกระบี่มีจุดเด่นเรื่องอะไร ? คำตอบน่าจะเป็นเรื่องการเที่ยวเกาะที่เดินทางใกล้มากๆและไม่แพงฮะ แต่วันนี้ลุงไม่ได้พาไปเที่ยวเกาะเนอะ เพราะมีหลายๆคนถามลุงมาว่า ถ้าอยากจะไปพักผ่อนที่กระบี่ มีรีสอร์ทติดหาดสวยๆมั้ย ถ้าพูดถึงรีสอร์ทที่ติดหาดสวยๆ (ที่สวยมากๆๆๆๆ) คำตอบน่าจะเป็นที่นี่แหละฮะ Dusit Thani Krabi Beach Resort
Dusit Thani Krabi Beach Resort ตั้งอยู่ที่หาดคลองม่วง ลุงๆๆๆ หาดคลองม่วงสวยมั้ย? อยากจะบอกว่าสวยมาก แต่เดี๋ยวจะหาว่าลุงโม้ เอาเป็นว่า จะสวยหรือไม่สวยลุงว่าไปดูภาพจากหาดหน้าโรงแรมกันเลยดีกว่า ( เห็นแล้วนึกว่ารีสอร์ทตั้งอยู่บนเกาะเลย น้ำใสมากๆๆๆ) สำหรับลุง หน้าหาดของโรงแรมคือ จุดขายอันดับ 1 ของโรงแรมแห่งนี้
ที่บริเวณหน้าหาดทางฝั่งปีกขวาก็มีกิจกรรมทางน้ำให้เล่นด้วยนะ ในส่วนของเรือคายัคนั้นแขกทุกคนสามารถเล่นฟรีได้ใน ช.ม. แรก แต่ถ้าเป็นกิจกรรมอื่นๆก็มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมฮะ สามารถเช็คราคากับเคาน์เตอร์กิจกรรมทางน้ำที่บริเวณ Water Sport Area ได้ฮะ
บริเวณชายหาดทางฝั่งขวา ก็มีของดีอีกอย่างที่เพิ่งรีโนเวทเสร็จไปฮะ คิดส์อาร์คิดส์คลับ คิดส์คลับ ของที่นี่ตั้งอยู่บริเวณ ติดกับชายหาดเลย โรงแรมลงทุนมาก ยกคิดส์คลับมาไว้ใกล้ๆหาดเลยมีทั้งพื้นที่ในร่มที่เป็นห้องแอร์ และพื้นที่ส่วนกิจกรรมข้างนอก จากที่สำรวจมาคือ รวมๆแล้วพื้นที่กว้างขวางพอดู แถมใหม่มาก ลุงคิดว่าเพิ่งจะรีโนเวทเสร็จมาสดๆร้อนๆเลย
จุดขายอันดับ 2 คือ ที่นี่ฮะ สระว่ายน้ำสระนี้ CocoVida Pool ฮะ ลุงชอบมาก มี 10 ให้ 10 มี 100 ให้ 100 วิวสวยมากกกกกก สระว่ายน้ำไม่ลึกมากฮะ สระเด็ก 1.30 เมตร สระผู้ใหญ่ 1.45 เมตร สระนี้จะเป็นสระผู้ใหญ่และสระเด็กประกบกันอยู่ เป็นสระสายแฟมมิลี่สายกิจกรรม ที่วิวสวยไม่แพ้รีสอร์ทไหนๆ ลองมาดูกัน รับประกันความพอใจกับสระว่ายน้ำสระนี้ วิวนี้ เห็นเพื่อนๆในเพจ มากันหลายคนก็ชอบกันทุกคนเลยฮะ
ป.ล. ถ้าใครอยากจะมาถ่ายรูปมาสัก 8.30 น.ไม่มีคนถ่ายรูปโล่งเลย ได้รูปสวยแน่นอน
โรงแรมจะมีสระว่ายน้ำ 2 สระ สระนี้เป็นสระใหญ่ สระหลัก ชื่อ Malati Pool ใหญ่กว่าสระ CocoVida เกือบ 2 เท่า เรื่องวิวสระนี้สู้ฝั่งโน้นไม่ได้เลยนะ แต่เป็นสระที่แขกมาใช้บริการเยอะมาก ( เชื่อว่าจะมีดี น่าจะเล่นน้ำสนุกกว่าแน่นอน) แต่โดยส่วนตัวลุงชอบบรรยากาศชอบวิวสระ CocoVida มากกว่านะ
จากภาพนี้จะเห็นได้ว่า บริเวณหน้าหาดของโรงแรมกับโรงแรมถูกเชื่อมกันด้วยทิวสน ดูแล้วค่อนข้างธรรมชาติมาก ไม่ได้มีการตัดแต่งต้นสนให้โล่งเพื่อรับวิวใดๆเลย ถือเป็นรีสอร์ทที่รักษาธรรมชาติแบบเดิมๆไว้ได้เป็นอย่างดี ส่วนข้อเสียต้นสนอาจบังวิวหน้าหาดไปบ้าง เลยทำให้เห็นวิวทะเลไม่ค่อยชัด
เอาล่ะฮะ เราไปเดินเล่นสำรวจที่หาดที่สระกันซะนาน เดินจนดำกันหมดแล้วเราพาไปเช็คอินกันที่ลอบบี้ดีกว่ามั้ย มามะ มามะ ตามลุงมา
ในระหว่างรอเช็คอิน ลุงขอเล่ารายละเอียด คร่าวๆของโรงแรม ให้ฟังแล้วกันเนอะ เดิมทีโรงแรมนี้เป็นโรงแรมอินเตอร์เชนในเครือ แมริออท ชื่อ เชอราตัน ฮะ โดยพื้นฐานของเชอราตันแล้วถือว่าเป็นโรงแรมที่สายครอบครัวเน้นความเรียบง่ายและการบริการที่อบอุ่นเป็นเรื่องสำคัญ ต่อมาได้มีปรับเปลี่ยนแบรนด์จากเชอราตันมาเป็นดุสิต ธานี
ถึงแม้จะเปลี่ยนแบรนด์ไปแล้วแต่ทางโรงแรมก็ยังเก็บข้อดีหลายๆอย่างของอินเตอร์เชนแล้วมาผสานเข้ากับบริการ 5 ดาวของดุสิตฯ ทำให้โรงแรมนี้ เป็นโรงแรมที่มีมาตรฐานเทียบเท่าโรงแรมอินเตอร์เชนเมืองนอก แต่มีบริการที่แสนอบอุ่นสไตล์ไทยเพิ่มขึ้นมาจากเดิมด้วย
มาๆ เช็คอินกันก่อนฮะ เวลคัมดริ้งเป็นน้ำตะไคร้ฮะ หอมชื่นใจทีเดียว (เสียดายแอบหวานไปนิด) ถ้าไม่นับเรื่องสถานที่ ลุงบอกเลยว่าเรื่องที่ประทับใจลุงที่สุดคงจะเป็นบริการนี่แหละ บอกเลยว่า ดีงามสไตล์ดุสิตผสมเชอราตัน ตั้งแต่ครั้งแรกที่สัมผัสจริงๆ
ป.ล. ตอนเช็คอินแอบรู้สึกไฮโซมาก เพราะใช้ไอเพดในการกรอกข้อมูลการเช็คอิน เท่าที่จำได้ มีน้อยโรงแรมมากที่ใช้การเช็คอินไฮโซแบบนี้ ประทับใจเลย
พื้นที่ส่วนใหญ่ของโรงแรมค่อนข้างกว้างขวางทีเดียว บรรยากาศภายในจะเป็นรีสอร์ทโล่งๆโปร่งๆ มีสระบัวขนาดใหญ่ลากผ่านกลางรีสอร์ท ทำให้เวลาเข้าพักให้ความรู้สึกแบบ 2 อารมณ์ มีทั้งแบบสวนเขตร้อน และบรรยากาศริมทะเล รวมกันในรีสอร์ทเดียว
ห้องพักเป็นยังไง เก่ามั้ย รีโนเวท มั้ย ?
ทางโรงแรมเพิ่งจะรีโนเวทก่อนเปลี่ยนมาบริหารโดยดุสิตฯ โดยรวมห้องพักดีไซน์ไม่เก่า ไม่เยินนะฮะ สวย สบายตา และสะอาดมาก แต่อาจไม่ได้ ดูใหม่กิ๊กๆแบบเพิ่งรีโนเวทมา
ห้องนี้เป็นห้องระดับสวีทฮะ สำหรับลุงห้องนี้มีดีที่ห้องน้ำฮะ โอ่โถงกว้างใหญ่มากกกกกก แต่เสียดาย วิวก็เห็นทะเลแว้ปๆอีกเช่นเดิม ทั้งที่อยู่ใกล้ทะเลมากกกกกกกก
DFiT Wellness ฟิตเนสสร้างใหม่ของโรงแรม
ถ้าไม่พูดถึงสิ่งที่รีโนเวทแบบแทบจะสร้างใหม่เลยของโรงแรมคงจะไม่ได้ DFiT ถือเป็นส่วนที่ได้รับการปรับโฉมไปมากที่สุดของโรงแรมเลยก็ได้ฮะ นอกจากจะขยายแล้ว ยังปรับลุคฟิตเนสให้เป็นสปอร์ตคลับย่อมๆเลยก็ว่าได้ ใครสายออกกำลังกาย บอกเลยว่ามีปลื้มแน่นอนฮะ
ภายใน DFiT จะมีห้องรับรอง ล๊อกเกอร์ สตีม ซาวน่าให้ครบเลยฮะ
ส่วนตัวห้องฟิตเนสในห้องแอร์ก็จะมี ขนาดใหญ่โตกว้างขวาง สามารถจัดคลาสออกกำลังกาย ได้เลยล่ะ
ส่วนโซนโอเพ่นแอร์ก็จะมีเวทีมวย โซนออกกำลังกลางแจ้ง โซนซ้อมมวย และ สนามแบต ( เออ….มีเยอะเกินฟิตเนสไปมาก )
กิจกรรมหลักที DFiT ยกให้เป็นไม้เด็ดคงจะเป็นเรื่องมวย และ การดูแลในเรื่องการเทรนสำหรับลดน้ำหนักฮะ ให้ความสำคัญขนาดมีแพคเกจห้องพักรวมกับคลาสมวยไทย 3-21 วัน เริ่มต้นที่ 4 วัน 3 คืนที่ 19,900 บาท ใครสนใจสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ อินบ๊อกของโรงแรมนะฮะ Dusit Thani Krabi Beach Resort
Linger Longer Spa เอาจริงๆถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของ DFiT ถึงแม้จะไม่ได้อยู่ในแอเรียเดียวกัน โดยรวม บรรยากาศสวยงาม ห้องสปากว้างขวาง ใช้ได้เลย ส่วนเรื่องทรี้ทเม้นท์ไม่ได้ลองฮะ ลุงตอบไม่ได้ แต่เชื่อว่ามาตรฐานของดุสิต สปาที่นี่น่าจะดีเลยนะ เห็นมีโปรโมชั่นพิเศษทุกเดือนเนอะ ใครได้ลองแล้วมาบอกลุงด้วยดีไม่ดีฮะ
Mangosteen’s Restaurant ห้องอาหารเช้าของโรงแรมฮะ โดนส่วนตัว จุดนี้คือจุดเดียวที่ลุงแปลกใจนิดๆ เพราะธรรมดาอาหารเช้าของเครือดุสิตจะจัดหนักจัดเต็มมาก โดยเฉพาะเรื่องอาหารไทยนี่กราบเลยฮะ แต่จากที่สัมผัสมา ที่นี่เน้นอาหารแบบโรงแรมอินเตอร์เชนเป็นหลัก ทางโรงแรมให้เหตุผลว่าเพราะแขกส่วนใหญ่ของเราเป็นคนต่างชาติ ทางโรงแรมเลยต้องปรับอาหารให้สอดคล้องกับแขกที่พักฮะ
ถามว่าอาหารเช้าไม่ดีเหรอ คำตอบคือ มันก็ดีตามมาตรฐานโรงแรมที่ 4-5 ดาวที่ควรจะมีนะ มีครบทุกอย่างแหละ แค่ผิดจากสิ่งทีเคยเจอจากแบรนด์ดุสิตที่อื่นๆเท่านั้นฮะ
ไฮไลท์คือ แพนเค้กรูปการ์ตูนฮะ น้องที่ทำ ทำเก่งมาก เราสามารถสั่งทำได้หมดเลยฮะ ถ้าน้องรู้จัก พวก น้องหมา น้องแมว น้องก็ทำได้ฮะ แอบเห็นมา น่ารักมาก
ถ้าเป็นมื้ออื่นๆ ที่ห้องอาหารนี้เขาจะเด่นเรื่อง อาหารอินเดียฮะ เอาตรงๆ ลุงไม่ถนัดเลยนะอาหารชนชาตินี้ เพิ่งเคยกินจริงๆจังก็ครั้งนี้แหละ มีโอกาสได้ลองมา 3 แกง ราคาตกถ้วยล่ะ 200-300 กว่าบาท++
1 แกงถั่ว (อันนี้ถ้าจำไม่ผิด มีเสิร์ฟในอาหารเช้าด้วย) อันนี้ก็พอกินได้ฮะ มันๆแปลกๆ รสชาติไม่เลวร้าย ลองทานในอาหารเช้าดูก็ได้ฮะ
2 แกงไก่ย่างสไตล์อินเดีย ใครอยากกินแกงอินเดียแนะนำอันนี้ เป็นแกงไก่ย่างสไตล์อินเดียที่รสชาติไก่เคียงแกงไทยมาก อร่อยเลยฮะ
3 แกงชีสสไตล์อินเดีย (แกงสีเขียว) จานนี้หนักสุด เพราะส่วนตัวเป็นคนไม่กินชีสด้วย เลยไปกันใหญ่ ถามว่ารสชาติเป็นยังไง รสชาติไม่เลวร้ายนะ มันๆ มีกลิ่นเครื่องเทศแปลกๆนิดๆ ในแกงจะมีชีสเป็นก้อนๆใหญ่ๆเลย
4 ส่วนแป้งนานต้องสั่งเพิ่มต่างหากฮะ ทานกับแกงเข้ากันได้เป็นอย่างดี ส่วนตัวนะ คิดว่ากินกับข้าวก็โอนะ เพราะส่วนตัวชอบกินข้าวราดแกง
Limoncello ห้องอาหารที่ดีที่สุด
Limoncello เป็นห้องอาหารอิตาเลี่ยนฮะ ความคิดเห็นส่วนตัวคิดว่าห้องอาหารนี้เป็นห้องอาหารที่ดีที่สุดในโรงแรมฮะ วิวทะเลก็ชัดสุด บรรยากาศก็สวยงาม มีทั้งห้องแอร์ และโซนรับอากาศธรรมชาติ เปิดเฉพาะช่วงเย็นๆเท่านั้น ส่วนราคาอาหาร ที่นี่น่าจะเป็นห้องอาหารที่ราคาแพงสุดนะ เราไปดูบรรยากาศกันก่อนดีกว่า
ราคาอาหารจะเริ่มที่ประมาณ 500 กว่า++ ฮะ ขอออกตัวไว้ก่อนเลยว่า ไม่ถนัดอาหารชาตินี้พอๆกับอาหารอินเดียนะ เพราะฉะนั้นอย่ามายึดเอาอะไรกับลุงเนอะเรื่องรสชาติเนี้ยะ ส่วนตัวชอบกินอาหารไทยกับอาหารญี่ปุ่นเท่านั้นฮะ
1 ชีส scamorza ย่าง จานนี้ราคา 590++ เป็นคนไม่ทานชีส ถามว่าอร่อยมั้ย ตอบไม่ได้ฮะ แต่น่าจะอร่อยเนอะสำหรับคนชอบทานชีส
2 สปาเก็ตตี้ ลิงกวินี ทะเล ซอสเพสโต้ 590++ โดยรวมรสชาติโอเคนะ แต่ติดรสกลางๆไปสักนิดคิดว่าคงทำแบบออริจินอล รสเลยไม่ได้จัดจ้าน ส่วนซีฟู้ดสดดีฮะ
3 พิซซ่า พาร์ม่าแฮม 540++ จานนี้คุ้นชินลิ้นมากที่สุด เป็นพิซซ่าที่อบมาได้สวยมาก (สวยมากจริงๆ) รสชาติต่างจากพิซซ่าฮัทแบบคนล่ะเรื่อง คิดว่า น่าจะทำสไตล์ออริจินอลทางเมืองนอก
4 ขนมหวาน เป็นขนมหวานอิตาเลี่ยนสไตล์ออรินอล ชื่อ Zabaglione ราคา 410++ เป็น เป็นคัสตาร์ดที่ทำแบบโฮมเมดสไตล์อิตาเลี่ยน ทำจากไข่แดง น้ำตาล และ ไวน์ ทานกับไอติมกาแฟและสตอเบอรี่สด
Cocovida Bar อยู่ติดกับ สระ Cocovida เป็นบาร์สไตล์ทะเล้ ทะเล โทนสีขาวๆ โดนส่วนตัว ชอบบรรยากาศบาร์ที่นี่นะฮะ ตกแต่งโทนสีสบายตา และฟีลลิ่งไม่ได้พิธีการอะไร ให้ฟีลคล้ายๆคาเฟ่ฮะ เสียดายโอเพ่นแอร์ไปหน่อยแอบร้อนนิด
อาหารที่มีโอกาสได้ลองทานคือ เบอร์เกอร์เนื้อวากิวฮะ อร่อยใช้ได้และให้มาเยอะมากกกก ( ราคาน่าจะ 400 กว่าบาท++ ) เสิร์ฟมาพร้อมกับเฟรนช์ฟราย หรือเคอรี่ฟราย (ลุงเลือก เคอรี่ฟราย เพราะไม่ค่อยมีโรงแรมไหนทำสักเท่าไหร่) โดยรวมอร่อยใช้ได้ทั้งคู่เลยนะ
Malati Pool Bar พูลบาร์ริมสระว่ายน้ำหลักฮะ อาหารเครื่องดื่มเมนูจะคล้ายๆ Cocovida Bar มีโอกาสได้ลองอาหารสุขภาพ โปเก้โบล์ (มันคือข้าวยำฝรั่งที่มีส่วนผสมหลักเป็นปลาดิบแบบญี่ปุ่น) รสชาติใช้ได้นะ แต่อยากได้น้ำสลัดญี่ปุ่นราดแทนน้ำสลัดครีมจุง (ราคาก็ประมาณ 400 กว่าบาท++)
Malati ห้องอาหารไทยของที่นี่ เป็นห้องอาหารที่ใกล้หาดที่สุด เสียดายไม่มีแอร์ ถามว่าที่กินมาทั้งหมด อาหารห้องอาหารไหนอร่อยสุด คำตอบคือห้องอาหารนี้แหละฮะ ได้ลองกุ้งผัดสะตอไป คือ หร่อยแรงงงง แพร่บๆๆ อยากกินอีก 5555555
สรุปปิดท้ายสักนิด
ด้วยดีไซน์ของอาคารเลยอาจทำให้รู้สึกว่าโรงแรมเก่าไป ไฮไลท์หลักของที่นี่ลุงให้ เรื่องหาดให้มาอันดับ 1 ส่วนเรื่องบริการให้อันดับสองแบบคะแนนเบียดกันมาเลย เป็นรีสอร์ทที่อยู่แล้ว สบายตา สบายใจ เหมาะกับการมาพักผ่อนจริงๆฮะ ใครจะมาพักผ่อนกระบี่แบบไม่ออกไปไหน แนะนำฮะ