รีวิว Mövenpick BDMS Wellness Resort Bangkok

ทำเลที่ตั้ง….อยู่เส้นถนนวิทยุ หลังเซ็นทรัลแอมบาสซี่ หรือ โรงแรมปาร์คนายเลิศ เดิม ฮะ

วันนี้ชวนเพื่อนๆ มาสำรวจโรงแรมที่จ้าของเป็นเครือเดียวกับ รพ.กรุงเทพ กันบ้างฺฮะ เรามาดูกันว่ามีอะไรน่าสนใจและจะต่างจากโรงแรมทั่วไปยังไงบ้าง

จากที่สังเกตมา ตัวโรงแรมมีความเหมือนโรงแรมปกติทั่วไปๆฮะ โรงแรมได้รับการรีโนเวทมาจากโครงเดิมของปาร์คนายเลิศ มีการปรับเปลี่ยน รีโนเวทไปในหลายๆจุด แต่บางจุดก็ยังใช้ของเดิมอยู่ ซึ่งอาจดูเก่าไปบ้าง แต่ที่รู้สึกได้มากกว่าเรื่องสวยงามและใหม่คือ ความสะอาด โรงแรมดูสะอาดสะอ้าน ไปในทุกจุด ทั้งห้องพัก ห้องอาหาร และส่วนกลาง ทุกจุดดูสะอาด สบายตา ไปหมด

เมื่อเข้ามาในโรงแรม เราจะเจอจุดนี้ก่อนฮะ BITTERSWEET ลอบบี้บาร์ของโรงแรม

เคาร์เตอร์เช็คอินก็จะอยู่ในบริเวณนี้ด้วย เวลคัมดิ้งจะเสริฟเป็นชาผลไม้เย็นๆ ชื่นใจ

ช่วงเวลา 16.30 – 17.30 ทาง BITTERSWEET จะเสริฟ บุฟเฟ่ต์ชอคโกแลตให้แขกฟรีฮะ ได้ลองชิมแล้วประทับใจ โดยรวมคือ ไม่ค่อยหวาน เมนู ไอเทม อาจมีไม่เยอะ แต่เลือกใช้ของดี รสชาติอร่อย มาเสริฟ เห็นถึงความตั้งใจในการทำ

จุดนี้คืออยู่ตรงข้าม BITTERSWEET ถือเป็นจุดที่เป็นลอบบี้หลักของโรงแรมฮะ ทางด้านซ้ายของลอบบี้จะมีคลับเลาจน์อยู่ด้วยฮะ ช่วงที่ไปพักห้องไม่ได้รวมสิทธิคลับไว้เลยบอกไม่ได้ว่าเขาเสริฟอะไรยังไงบ้าง ขออภัยด้วย

ส่วนทางด้านซ้ายของลอบบี้ จะเป็นห้องอาหาร NOURISH ถือเป็นห้องอาหารหลักของโรงแรมเลย เช้า เที่ยง เย็น สามารถทานอาหารได้ที่ห้องนี้ ชอบที่เพดานสูงมาก โปร่งๆ โล่งๆ สบายๆ คือรู้สึกโรงแรมนี้สะอาดดีจังในทุกจุดเลย ทำมั้ยก็ไม่รู้

อาหารเช้าดีมั้ย อาหารเช้าเราก็จะทานที่ห้องนี้ฮะ คือต้องเข้าใจก่อนว่า ถึงที่นี่จะเป็นโรงแรมในเครือโมเว่นพิค แต่เจ้าของคือโรงพยาบาลเนอะ อาหารเช้าก็เลยออกมาแนวสุขภาพจ๋าอยู่ไม่น้อย ยกตัวอย่างมีสลัดบาร์ที่ดูจริงจัง มีเนยจากพืช มีเคาร์เตอร์น้ำผลไม้แยกกากที่ดูจริงจัง และที่สำคัญ ซ่อนสเตชั่น เบคอน ไส้กรอกไว้ในสเตชั่นไข่(เราต้องขอกับพนักงานสเตชั่นไข่ให้เขาหยิบให้) เมนูที่ลุงคิดว่าเด็ด คือ ก๋วยเตี๋ยว สลัดบาร์ และโกโก้ร้อน ฮะ

มื้ออื่นๆจากที่ได้ชิมมา อย่างแรกที่สัมผัสได้คือ อาหารจัดจานสวย มาตรฐานโรงแรม 5 ดาว อาหารดูเฮลตี้หน่อยๆเหมาะกับสายสุขภาพ ราคาอาหารก็ตามมาตรฐานโรงแรม 5 ดาว เมนูที่ชอบ คือ พอร์คชอป ฮะ ย่างหมูมานุ่มกำลังดี นุ่ม หอม อร่อย ส่วนผัดไทยแอบติดหวานไปหน่อย ส่วนสเต็กแซลม่อนส่วนตัวว่าเนื้อปลาแอบสุกเกินไปนิดนะฮะ ในส่วนขนมได้ชิมสองตัว แนะนำ สตรอเบอรี่ทีรามิซุ ฮะ (อีกเมนูคือ มูสเนยถั่ว)

RIM KLONG CAFE คาเฟ่ริมคลองของโรงแรมฮะ ตั้งอยู่ด้านนอกจากลอบบี้โรงแรม เมนูที่ดูต่างจากคาเฟ่ อื่นๆ คงจะเป็น เครื่องดื่มที่ผสมเวย์โปรตีนพิเศษของทาง BDMS ด้วยฮะ เรื่องรสชาติต้องยอมรับว่าอร่อยสู้สมูตตี้ธรรมดาไม่ได้ฮะ แต่ก็เป็นรสชาติที่ไม่แย่นะ

ห้องอาหาร คำหอม (ห้องอาหารจากเชฟเอียน) ถือเป็นห้องอาหารไม้ตายของที่นี่ แนวคิดของห้องอาหาร ”คำหอม” คือการผสานความคิดสร้างสรรค์เข้ากับวัตถุดิบธรรมชาติที่มีคุณภาพที่ดีที่สุด และมีประโยชน์ต่อสุขภาพ ในขณะเดียวกันยังคงรากเหง้าของสูตรอาหารไทยดั้งเดิมเอาไว้ ทุกจานมีประวัติและเรื่องราวของความเป็นไทย ที่สะท้อนถึงความกินดีอยู่ดีของไทยอีกด้วย (แปลง่ายๆว่า ใช้วัตถุเกรดพีเมี่ยม แต่ ปรุงด้วยรสชาติไทยแท้แบบดั่งเดิม)

บรรยากาศ ห้องอาหารดีมากๆฮะ มีความลักชูฯ มีความทันสมัยและวินเทจ ผสมกันได้อย่างลงตัว

อาหารและการจัดเสริฟทุกสิ่ง ได้รับการคิดและหาข้อมูลมาอย่างดี ทุกอย่างก็เลยมีเรื่องราว ทุกอย่างมีที่มาที่ไป มีคำอธิบายในทุกการเสริฟ ยกตัวอย่างน้ำที่จะเสริฟจะเสริฟเป็นน้ำหมักสมุนไพรและผลไม้ ตอนเสริฟเราสามารถเลือกได้ว่าจะผสม สมุนไพรและผลไม้ อะไรลงไปบ้าง

วันที่ไปทาน ของว่างทานเล่น ก่อนมื้ออาหารจะเป็น ค้างคาวเผือก ขอไม่เล่าเนอะ สตรอรี่มาเต็ม อธิบายชัดถ้อยชัดคำ กระจ่างมากมาย อาหารมีทั้งราคาปกติ และ ราคาแพงมากขึ้นอยู่กับวัตถุดิบที่ใช้ปรุง ยกตัวอย่าง ถ้าเป็น แกงล็อบสเตอร์ ราคาก็จะจานล่ะพันกว่าบาท แต่ถ้าเราสั่งข้าวผัดรถไฟ ก็จะตกประมาณ สองร้อยกว่าบาท หรือ ปูหลนก็สามร้อยกว่าบาท ขึ้นกับเราเลยฮะ ถ้าเลือกสั่งเมนูธรรมดาปกติ มาทาน 2-3 คน งบ 1500 ก็เอาอยู่นะ แต่ถ้าเลือกสั่งเมนูไฮไลท์ก็จะหลายพันหน่อย

อาหารส่วนใหญ่รสชาติไม่ได้จัดจ้านฮะ รสจะผู้ดีๆหน่อย ยกตัวอย่างของเผ็ด ก็จะเผ็ดเบาๆพอให้รู้ว่าเมนูนี้เผ็ด เมนูไหนเค็มก็จะเค็มเบาๆ

เมนูไม้ตายของที่นี่ “แกงล็อบสเตอร์ใบยี่หร่า” กุ้งล็อบสเตอร์ผัดแกงแดงแบบฉบับคำหอม เสริ์ฟพร้อมใบยี่หร่าทอดกรอบ

แสร้งว่ากุ้งลายเสือ กุ้งลายเสือย่างถ่านเสริ์ฟกับยำปลาเก๋า (จัดอยู่ในหมวดน้ำพริกเครื่องจิ้ม) 

หลนเนื้อปู เสริฟพร้อมผักและผลไม้สด + เนื้อ(ออสซี)ย่างกอและ เนื้อพรีเมี่ยมย่างกะทิและพริกแกงใต้

ทะเลผัดกะปิ และ ข้าวผัดรถไฟ (มังฯ)สองเมนูนี้ ราคาไม่แพงนะ รสขาติดีทั้ง 2 เมนูเลย

ปิดท้ายด้วย ลอดช่อง เปียกปูนสด ที่เวลาจัดเสริฟก็สโมกควันเทียนมาด้วย รสชาติหวานนิดนึงฮะจานนี้

จบเรื่องอาหารกันไป เราไปดูพื้นที่ส่วนกลางกันบ้าง พื้นที่ส่วนกลางหลัก ก็จะเป็นสระว่ายน้ำฮะ มีสระเดียว ขนาดกำลังดี แอบเสียดาย ว่ามีเสียงรบกวนจาก อาคารที่ก่อสร้างใกล้ๆ เห้นว่าจะเป็น Aman นะ

สปาก็อยู่ในบริเวณนี้ด้วยฮะ ใครที่ชอบนวดผ่อนคลาย ก็สามารถมาใช้บริการได้

แต่ถ้าใครอยากสุขภาพดีแบบเห็นผลจริงๆจังๆ ทางโรงแรมก็มีตัวเลือก ดริปวิตามิน ให้ ใช้เวลาประมาณ 1 ชม แล้วมันต่างจากสปายังไง สปาคือเห็นผลจากภายนอกเนอะ ส่วน ดริปวิตามินจะเห็นผลจากภายในฮะ ดริปวิตามิน คือการเติมน้ำเกลือผสมวิตามินซี+วิตามินอื่นๆเข้าสู่ร่างกายโดยตรง เพราะฉะนั้นคือเราจะได้ผลเต็มๆ 100% ต่างจากการกินวิตามินที่จะได้ผลประมาณ 30-50% สิ่งที่เราจะสัมผัสได้หลังการ ดริปวิตามิน ในเรื่องความสดชื่น และผลของวิตามินแต่ล่ะตัวก็แตกต่างกันไป

ทางโรงแรมก็มีหลายสูตรให้เราเลือก ยกตัวอย่าง

  • Beauty booster เติมวิตามินเข้มข้นให้กับร่างกายกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและช่วยให้ผิวกระจ่างใส
  • Metabolism Booster ช่วยเพิ่มการนำไขมันมาเผาผลาญเป็นพลังงาน
  • Anti-Ageing อุดมไปด้วยกรดอะมิโนที่จำเป็นสำหรับการซ่อมแซมและฟื้นฟูเซลล์
  • Antioxidant ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระและลดการอักเสบของร่างกายซึ่งเป็นหนึ่งในสาเหตุความชราของเซลล์
  • Energy booster กรดอะมิโนที่จำเป็นต่อการเผาผลาญ และวิตามินที่ ช่วยเพิ่มการสร้างพลังงานให้และลดอาการเหนื่อยล้า
  • Hangover Remedy เพื่อขจัดแอลกอฮอล์ที่ตับ

ส่วนลุงเลือกลอง Metabolism Booster ช่วยเพิ่มการนำไขมันมาเผาผลาญเป็นพลังงาน ฮะ คนอยากผอมเนอะ จากที่สังเกตหลังจากทำมาคือ ท้องไม่ค่อยอืดนะ เมื่อก่อนท้องอืดบ่อยมาก 55555

ระหว่างให้วิตามิน ทางคลีนิค เขาจะให้เราอยู่ในห้องส่วนตัวฮะ จะแวะเข้ามาดูเป็นระยะๆฮะ

ฟิตเนสจะอยู่ใกล้ๆสระว่ายน้ำฮะ ฟิตเนสใหญ่มากๆๆๆๆ อุปกรณ์เครื่องใช้ทันสมัย

คิดส์โซน ก็จะอยู่มุมนี้ด้วย ส่วนตัวว่าเล็กไปนิดนึงฮะ

เราไปดูห้องพักกันบ้าง ลุงจะพาไปดู ห้องสองแบบเนอะ เริ่มจาก โซนเวสเนส กันก่อน เป็นโซนที่เรียกว่าเงียบมากๆ แทบไม่มีเสียงอะไรเลย แขกโวนนี้เป็นแขกที่ต้องการความเงียบสงบฮะ

ห้องพักที่ลุงได้มีโอกาสพัก Wellness Suite  การตกแต่งอาจไม่ได้ดูหวือหวา ห้องมีขนาดกว้าง อยู่สบาย และ สะอาดมาก ที่ชอบ คือห้องมีลำโพงเปิดเสียงธรรมชาติแบบสปามาให้ด้วย สามารถปรับสีให้เป็นโทนสีที่เราชอบได้ด้วยเพื่อความผ่อนคลาย แบบสปา อันนี้ส่วนตัวว่าดีจริงนะ ชอบ

ห้องนี้มินิบาร์ฟรี แต่ก็อย่างที่เห็นเป็นมินิบาร์แนว สุขภาพเนอะ

เวลคัมฟรุ๊ตไม่มี มีเป็นอาหารว่าง ม้าฮ่อ มาเสริฟแทน อร่อยมากๆๆๆๆๆๆ

ผลิตภัณฑ์อาบน้ำหอมมาก เป็นของยี่ห้อ Yuni กลิ่นหอมมาก

ห้องเริ่มต้น Deluxe ขนาดห้องอยู่ที่ 33 ตรม แต่ดูห้องใหญ่กว่าความเป็นจริงประมาณนึง

ปิดท้ายกับเรื่องของฟรีที่แถมมาให้ตอนเช็คอิน เป็นคูปองสำหรับตรวจร่างกายพื้นฐานฟรีที่ศูนย์สุขภาพ BDMS หน้าโรงแรมฮะ ตรวจด้วยเครื่องมือพิเศษ ไม่ต้องเจาะเลือด ใช้เวลาตรวจประมาณ 15 นาที ทางเราสามารถขอรีเควสพบแพทย์ เพื่อให้แพทย์วิเคราะห์ผลตรวจได้ฟรีด้วยฮะ (ปกติขอพบแพทย์จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม)

ศูนย์สุขภาพ BDMS ไม่ใช่โรงพยาบาลนะ แต่ เป็นสถานที่ดูแลสุขภาพฮะ เน้นเรื่องการดูแล ป้องกัน และ บำบัด มากกว่า ที่จะรักษา (ถ้ารักษาจริงๆจังๆเขาจะส่งไปโรงพยาบาลในเครือ) มีหลายชั้นหลายแผนก แต่ล่ะชั้นก็มีหน้าที่แตกต่างกันไป ดูแลโดยผู้เชี่ยวชาญหลายคนมากๆ แขกที่จะมาใช้บริการที่นี่ได้ ส่วนใหญ่ต้องได้รับการตรวจ และดูแลจากแพทย์ก่อนฮะ แผนกขายดีสุดคือชั้น 6 แผนกทำฟัน ส่วนตรวจร่างกายฟรีของทางโรงแรมจะอยู่ที่ชั้น 3 ฮะ

Leave a Reply