โรงแรมสวยจริงมั้ย ไม่จกตาใช่มั้ย ?
น่าจะเป็นคำถามที่ใครหลายๆคนอยากรู้ คำตอบคือ สวยจริงไม่จกตาฮะ (เมื่อเสร็จเรียบร้อยจริงๆ นาทีที่ไปทำรีวิวยังมีการเก็บดีเฟค และ แต่งเติมสวนอยู่บ้างในบางจุด เห็นว่าจะเสร็จปลายเดือน พย นะ )
อันนี้ขอพูดจากความรู้สึกของลุงก่อนเลยเนอะ โรงแรมนี้มีลักษณะคล้าย วนาเบลที่สมุยมากๆๆๆ แต่เป็นวนาเบลที่ได้รับการแก้ไขจุดเสีย และปรับให้เข้ากับยุคสมัยและเข้ากับคนไทยมากขึ้น หลายจุด หลายๆอย่างมันอาจดูไม่เหมือนบันยันทรีสักเท่าไหร่ มันเหมือนโรงแรมของ AWC ที่มีกลิ่นอายของบันยันทรีฉาบไว้อีกที อย่างที่รู้กัน AWC ทำโรงแรมตอบโจทย์คนไทย คนเอเซียเป็นหลัก ไม่ว่าจะด้วย การตกแต่งที่สวยทันสมัย อาหารเช้าที่ดี และ ความสะดวกสบาย
จบเรื่องที่ลุงบ่นไป ขอลงรายละเอียด ของรีสอร์ท กันบ้าง โรงแรมนี้เป็นโรงแรมสุดปลายหาดทับแขกฮะ โดยมีพื้นที่ติดกับอุทยานแห่งชาติเลย การจะเดินทางมาที่รีสอร์ทจากสนามบิน กระบี่ เดินทางด้วยรถยนต์คือสะดวกที่สุดฮะ ระยะทางประมาณ 40 Km ( ด้านหน้ารีสอร์ทไม่มี ร้านสะดวกซื้อนะฮะ แนะนำว่าก่อนเข้ารีสอร์ทให้แวะร้านสะดวกซื้อก่อนเข้าจะดีที่สุด)
หน้าหาดของโรงแรมค่อนข้างกว้าง มีหลายมุม หลายโซน หลายเหลี่ยม จุดขายของหาดนี้คือวิวเกาะห้องและเกาะผักเบี้ย หรือเรียกง่ายๆว่า วิวป่าเกาะ ฮะ เราไปดูภาพโดยรวมของหน้าหาดกันดีกว่า (หาดนี้ วิวพระอาทิตย์ตกเนอะ )
โรงแรมมีกิจกรรมฟรีอะไรบ้างมั้ย ?
บริเวณหน้าหาดจะมีกิจกรรมฟรีหลายอย่างมากฮะ มีทั้งกิจกรรมฟรีทางน้ำ และทางบกฮะ สามารถสอบถามรายละเอียดกับบันยันทรี โฮส (เลขาส่วนตัวของคุณ) ได้เลย
แต่ที่ลุงประทับใจมากที่สุด คือการพายเรือคายัคไปที่หาดนุ้ยที่อยู่ใกล้ๆรีสอร์ทฮะ พายไปประมาณ 15-20 นาทีเรียบชายฝั่งไปเรื่อยๆ (หาดนุ้ยเป็นหาดขนาดเล็ก ที่ชาวบ้านเขาเอาไว้หลบฝน ถึงจะเป็นหาดเล็กๆ แต่น้ำก็ ใสมาก เหมือนไปเที่ยวเกาะเลยฮะ)
ถ้าอยากไปเที่ยวเกาะ ต้องทำยังไง ไปขึ้นเรือที่ไหน ?
ส่วนใครอยากไปเที่ยวเกาะห้องหรือเกาะผักเบี้ย สามารถขึ้นเรือท่องเที่ยวจากบริเวณหน้าหาดของโรงแรมได้เลยฮะ ในส่วนนี้มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมนะฮะ สามารถสอบถามกับ บันยันทรี โฮส (เลขาส่วนตัวของคุณ)ได้
เอาล่ะฮะ เรากลับมาสำรวจรีสอร์ทกันต่อดีกว่า โดยรวมแล้วถึงพื้นที่รีสอร์ทจะมีขนาดค่อนข้างใหญ่ แต่พื้นที่ส่วนกลางจะกระจุกรวมกันอยู่ในบริเวญมุมล่างทางขวาของรีสอร์ทฮะ เราเริ่มจากไปดูที่สระว่ายน้ำส่วนกลางกันก่อนเนอะ
สระไม่ได้มีขนาดใหญ่โตอะไรมากนะ (อาจเพราะห้องพักทั้งหมดมีสระส่วนตัวอยู่แล้ว) หน้าตาของสระก็จะประมาณนี้ ในช่วงเวลาสามวันที่ลุงอยู่โรงแรม เรียกว่านับจำนวนคนที่มาลงสระนี้ได้เลยฮะ (นับแล้วมี 1 คนถ้วน 55555 ) มาตอนไหนก็ว่างนะ สระว่ายน้ำจะอยู่หน้าห้องอาหาร Naga พอดีเลยฮะ
คิดส์คลับมีมั้ย ?
คิดส์คลับจะอยู่ใกล้ๆสระใหญ่นี่แหละฮะ โดยรวมคิดส์คลับออกแบบมาได้ดี พื้นที่ไม่ใหญ่โต แต่ลงตัวครบครัน มีทั้งในห้องแอร์ สวนน้ำกลางแจ้ง และ ลานกิจกกรรมฮะ
แล้วอาหารเช้าล่ะดีมั้ย ?
อาหารเช้าจะเสริฟที่ห้องอาหาร Naga แต่ด้วยความที่ห้องพักในโรงแรมมีไม่ถึง 80 ห้อง อาหารเช้าก็เลยไม่ได้มีไลน์ใหญ่โตอู้ฟู่ฮะ เป็นไลน์ขนาดกลางๆ ค่อนไปทางเล็กหน่อยๆ แต่ไอเทมที่เลือกลงไลน์อาหารใช้ของดีจริงฮะ ส่วนตัว โดยรวมดูอาหารไม่อู้ฟู่ แต่ไม่ตกมาตรฐาน AWC แน่นอนฮะ เราไปดูบรรยากาศห้องอาหาร Naga และไลน์อาหารเช้ากันดีกว่า
ส่วนใครอยากได้ อาหารเช้าแบบลอยน้ำ จ่ายเพิ่ม 500 บาทเท่านั้นฮะ
แบบไม่ลอยน้ำก็มีนะฮะ สามารถขอรายละเอียดกับทาง บันยันทรี โฮส (เลขาส่วนตัวของคุณ) ได้เลย
ส่วนมื้ออื่นๆที่ลุงว่าคุ้มสุด น่าจะเป็น Afternoon tea set ฮะ ราคา 750 บาท ได้เยอะมาก กิน สองคนอิ่มได้เลยฮะ
อาหารที่ห้องอาหาร Naga แพงมั้ย ?
ราคา เริ่มต้นที่ 160 ++ เป็นเฟรนฟราย แต่บางเมนูก็ราคาแรงจนตกใจเลย อย่างผัดไทกุ้งสด 600++(ได้กุ้งตัวใหญ่ 5 ตัว) ส้มตำยอดมะพร้าวไก่ย่าง 550++ ส่วนเมนูที่ลุงชอบคือ น้ำตกเนื้อฮะ 680++ (ข้อดีของจานนี้ มันคือสเต็กเนื้อที่มาในรูปแบบเนื้อย่างแบบไทย เสริฟพร้อมสลัดผ้กพื้นบ้านไทยที่ทานคู่กับเนื้อน้ำตกฮะ สุดท้าย ราดน้ำยำน้ำตก แทนน้ำสลัดฮะ โดยรวมอร่อยมาก เนื้อดีมาก ถือว่าคุ้มราคา 680++นะ) ส่วนขนม ชอคโก ทรัฟเฟิลก็อร่อยมาก ทาคู่กับไอติมเสาวรส และชอคโกแลตพริก (แต่ราคาโหดไปนิดฮะ 420++)
ทางโรงแรมมี ห้องอาหาร 2 ห้อง คือห้องอาหารหลักชื่อ Naga และห้องอาหารซิกเนเจอร์ของโรงแรม ห้องอาหารไทย Saffron โดยห้องอาหาร Saffron จะต้องขึ้นรถรางไปฮะ
วิวจากบนรถรางฮะ ถือเป็นอีกมุม ที่ไม่ต้องใช้โดรนถ่าย ใครๆก็มาถ่ายภาพมุมนี้ได้ฮะ
ถ้าถามว่า Saffron มีอะไรเด็ด นอกจากอาหารก็คงเป็นโซนที่เรียกว่า Bird Nest นี่แหละฮะ เราสามารถสั่งอาหารจาก Naga หรือ Saffron มาทานตรงนี้ได้นะ (เป็นจุดที่อยู่ตรงกลางระหว่าง สองห้องอาหาร) ช่วงเวลาที่ดีที่สุดของ Bird Nest คือช่วงเวลาพระอาทิตย์ตกดิน ฮะ แนะนำให้จองก่อน เพราะมีแค่ สามรังนกเท่านั้น
ส่วนห้องอาหาร Saffron จะบรรยากาศประมาณนี้ฮะ เปิดเฉพาะช่วงเย็นๆ เท่านั้น
ด้วยความที่อาหารค่อนข้างราคาสูง ระหว่างทานอาหารก็จะมีของทานเล่น เครื่องดื่มต้อนรับ ไอติมล้างปาก ข้าวเกรียบกับน้ำพริก และขนมหวานเล็กๆน้อยๆ เสริฟให้ฟรีฮะ โดยจะไล่เสริฟตามช่วงเวลาที่เราทานอาหารฮะ (แนะนำว่า ไม่ต้องสั่งเยอะฮะ ร้านนี้ คือ อิ่มง่ายอิ่มเร็วมาก ไม่รู้ทำมั้ย อาจด้วยของฟรีทื่เสริฟเราเรื่อยๆหรือเปล่าก็ไม่รู้)
Saffron ถือเป็นห้องอาหารไทยที่ เน้นความพิถีพิถันในการเลือกใช้วัตถุดิบ และ การปรุง อย่างมาก อีกนิดเดียวลุงก็ว่าเป็นอาหารชาววังได้แล้วล่ะ แต่ล่ะเมนูก็จะมีสตอรี่ของมันฮะ โดยเชฟจะมาอธิบายให้เราฟังทุกจาน ว่าเมนูนี้มันเกิดจากอะไร ใช้อะไรปรุงบ้าง และ มีขั้นตอนในการทำยังไง ทำให้เราเข้าใจ ที่มา ที่ไป อาหารที่เรากินอย่างลึกซึ้งฮะ (ฝรั่งน่าจะชอบมาก แต่คนไทยไม่รู้จะชอบมั้ยนะ)
โดยส่วนตัวลุงว่า รสชาติอร่อยนะ ( แต่มันไม่ได้อร่อยแบบรสโลคอลนะ ฟีลมันคล้ายๆกินอาหารชาววัง แค่เมนูที่เสริฟ มันไม่ใช่อาหารชาววังเท่านั้น )
เมนูที่ทางร้านภูมิใจนำเสนอคือ เนื้อตุ่นลำไย (ฟีลมันเหมือน ขาหมูที่ทำมาจากเนื้อวัวฮะ รสจะติดหวานๆเค็มๆนิดๆ ) 900++
ช่อม่วง 420++ ของว่างรวม 900++ ต้มข่าหอยเชลล์ย่าง 480++ กุ้งผัดน้ำพริกส้มซ่า 900++ (กุ้งตัวใหญ่มาก) รสชาติอาหารทั้งหมด คืออร่อยฮะ รสชาติดี รสแอบติดกลางๆ ไม่ได้จัดจ้าน อร่อยแบบ อาหารชาววังฮะ ส่วนราคาก็แพงนั้นแหละ ถามว่า เมนูที่ลงในนี้มีอะไรชอบเป็นพิเศษมั้ย เอาจริงๆ ก็ไม่นะ มันออกแนว เออ อร่อยดีเนอะ แล้วผ่านไป ( อาจด้วยลุงเป็นคนชอบกินอาหารรสจัดด้วยมั้ง เวลาเจออาหารรสกลางๆ เลยแอบเฉยๆ แต่สิ่งที่รับรู้ได้ชัดเจน คือวัตถุดิบดี ตั้งใจปรุงมาก และ บริการดี)
ถ้าถามลุงว่า ให้เลือกกินอย่างเดียวในห้องอาหารนี้จะะกินอะไร ขอตอบว่า ไอติมเมี่ยงคำ ฮะ ให้ 10 เต็มไม่หัก ทั้งหมดที่กินมาในมื้อนี้ยกให้ ไอติมเมี่ยงคำ ชนะเลิศ (แต่ไม่มีในเมนูยังไม่มีขาย แงๆๆๆๆ )
ปรากริมมันม่วง 350++ กะทินัวและดีมาก เสริฟพร้อมไอติมกะทิ ตัวปลากริม จะหนึบ มันๆ อร่อยนะฮะ
สังขยาสามรส 350++ (อันนี้เฉยๆ ครีบูเล่ ไข่ ใบเตย ชาไทย ตัวชาไทยอร่อยสุด)
ห้องอาหารสุดท้าย (จริงๆนะจะเรียกว่าบาร์มากกว่า) เกล็ดแก้ว เป็นห้องอาหารที่ลุงไม่ได้ลองฮะ ช่วงที่สวยที่สุดของเกล็ดแก้วคือช่วงประมาณ หลังพระอาทิตย์ตกไปนิดนึงฮะ
สปาจะอยู่ใกล้ๆกับเกล็ดแก้ว นี่แหละฮะ (เอาจริงๆมันใกล้กันแทบทุกอย่างนะ)
ไฮไลท์ของสปาที่นี่ น่าจะเป็น เรนฟลอเรส สปา
เรนฟลอเรส สปา คืออะไร คำอธิบายง่ายๆ มันคือ Private Hot Spring เหมือนที่ญี่ปุ่นนั้นเอง แต่อันนี้จะเป็นแบบพรี่เมี่ยมขั้นสุด มีบ่อน้ำกลางแจ้ง 3 บ่อ ด้านในบ่อน้ำร้อนอีก 1 มี ซาวน่า สตรีม เครื่องอาบน้ำฝน หัวฉีดน้ำ หลายแบบเพื่อการผ่อนคลาย อุโมงค์น้ำ ทั้งหมดคือ ใช้แบบส่วนตัวไม่ต้องอายใคร จะใช้เดี่ยว ใช้คู่ ใช้กับ เพื่อน หรือใช้แบบครอบครัวก็ได้ฮะ มีเวลาในการใช้ 1 ชม ต่อ รอบฮะ
ฟิตเนส อยู่หลังห้องอาหาร Naga ฮะ ขนาดไม่ใหญ่โตอะไรฮะ
วนดูส่วนกลางไปเกือบทั้งรีสอร์ทล่ะ เหนื่อยหรือยัง เรามาส่วนกลางจุดสุดท้ายของรีสอร์ทกันฮะ ลอบบี้ถือเป็นจุดว้าวอันดับต้นๆของรีสอร์ทเลยฮะ ด้วยที่ตัวโรงแรมอยู่ติดกับเขาหงอนนาค ทางโรงแรมเลยเอาแรงบรรดาลใจจากตำนานเขาหงอนนาคมาใช้ ลอบบี้ และ หลายๆจุดในโรงแรม เลยให้ฟีล ถ้ำพญานาค ทางเดินพญานาค เกร็ดนาค เอาจริงๆ ก็เกี่ยวกับพญานาค ทั้งโรงแรมเลยฮะ
จุดนี้ถือเป็นมุมถ่ายรูปที่คนส่วนใหญ่ชอบมาถ่ายฮะ เป็นมุมที่ว้าวจริง ไม่จกตา (บันไดจุดนี้ถือเป็นตัวแทน ทางเลื้อยพญานาค ฮะ )
ในลอบบี้คือตัวแทนของถ้ำพญานาค หรือ วังพญานาคนั้นเอง เราจะเห็นของตกแต่งเป็น แก้วพญานาคฮะ
เวลคัมดริ้งเป็นน้ำอัญชันผสมน้ำมะม่วง และกล้วยชุบชอคโกแลตเคลือบกาหยี (เม็ดมะม่วงหิมพานต์)
ในจุดที่เช็คอินนี้เราจะเจอกับบันยันทรีโฮส ของเรา บันยันทรีโฮส คืออะไร
บันยันทรีโฮส คือ บัทเลอร์ออนคอลฮะ มีหน้าที่เหมือนเลขาส่วนตัวของเราที่สามารถโทรหาได้ตลอด จะเอาอะไรโทรถาม โทรบอกได้เลยฮะ เดี๋ยวเขาไปหาคำตอบ ไปหาทางแก้ ทางช่วยเหลือมาให้เราฮะ แนะนำติดต่อทางโทรศัพท์ จะง่าย และสะดวกที่สุด หรือจะ ขอไลน์ไว้ติดต่อก็ได้ฮะ ซึ่งบริการเลขาส่วนตัวนี้ คือมีให้ห้องพักทุกระดับเลย
ป.ล. ทางบันยันทรีโฮส จะเตรียมโทรศัพท์ไว้ให้เราไว้ติดต่อกันฮะ เพื่อความสะดวก
เรามาดูห้องพักกันบ้าง อย่างที่บอกไปห้องพักมีไม่เยอะฮะ มีไม่ถึง 80 ห้องเลย ห้องที่มีมากสุดคือห้องพูลสวีท โดยจะแบ่งตามวิวได้ 4 ระดับ พื้นที่ทั้งหมดของพูลสวีทจะอยู่ที่ 99 ตรม ยกเว้นห้อง Deluxe Garden Pool Suite จะมีพื้นที่สวนเพิ่มมาอีกนิด ขนาดจะเพิ่มเป็น 129 ตรม แต่พื้นที่ภายในห้องเท่ากันฮะ เราไปดูวิวจากห้องพักกันก่อนฮะ
Deluxe Pool Suite
Deluxe Garden Pool Suite
Partial Ocean Pool Suite
Premium Ocean Pool Suite
ซึ่งแน่นอน ห้อง Premium Ocean Pool Suite วิวสวยสุด เนื่องจาก ช่วงที่ไปทางโรงแรมยังไม่เรียบร้อยดีนัก ลุงเลยไม่สามารถไปสำรวจห้องวิวที่สวยที่สุดให้ได้ ห้องนี้ C202 ฮะ
และอย่างที่เกริ่นไว้ตอนต้น ทุกห้องภายในตกแต่งเหมือนกันหมดเลย
ถ้าต้องการเสริมเตียง ทางโรงแรมจะเสริมเตียงให้แบบนี้ฮะ ทางเดินฝั่งนึงจะหายไปฮะ
ชากาแฟ ฟรี เอากลับบ้านได้ ตะเกียงน้ำมันหอมจะเปลี่ยนกลิ่นตามวันฮะ แยกอเมนนิตี้เครื่องใช้ชายหญิงคนล่ะกระเป๋า สบู่ แชมพูเป็นของบันยันทรีสปาฮะ ขนมก่อนนอนและของชำร่วย มีมาส่งให้ตอนเปิดเตียงตอนเย็นๆฮะ
ส่วนห้องวันพูลวิลล่าวันเบด ยังไม่มีโอกาสได้เข้าชมเลยฮะ แขกเต็ม เห็นเพื่อนๆที่ไปพักมาบอกว่า ห้องพักโซนแรกๆ วิวจะโดนคิดส์คลับบังนะ แต่ลุงมีโอกาสไปชมห้องพูลวิลล่า 3 ห้องนอนมาฮะ วิวสวยและกว้างขวางใหญ่มาก จริงๆ
จริงๆแล้ว วิลล่า 2 ห้องนอน กับ วิลล่า 3 ห้องนอน สามารถเชื่อมต่อกันได้หมด ใครที่จะจอง เป็นห้องเดียว 5 ห้องนอนก็สามารถทำได้ โดนทางเชื่อมจะอยู่ที่ห้องรับแขก กับทางสวนฮะ
สรุปปิดท้ายสักนิด
ช่วงที่ไปยังเป็นช่วงซอฟโอเพ่นนิ่งฮะ หลายๆอย่างยังไม่เรียบร้อยดีฮะ และก็พนักงานน่าจะยังมาไม่ครบ เนื่องจากโรงแรมยังไม่ได้เปิดบริการทุกห้อง ถ้าถามลุงจากที่สัมผัสมา ลุงว่าเมื่อเสร็จสมบูรณ์ และพนักงานมาครบ จะเป็นโรงแรมลักซูรี่ที่ดีมากโรงแรมนึงบนหาดทับแขกเลยฮะ เรื่องความสวย บอกเลยว่า สวยจริงไม่จกตา เพราะสร้างในปี 2020 เทรนและความชอบของคนในปีนี้ก็ต่างจากเมื่อ 10 ปีที่แล้วไปมากเลย น่าจะถูกจริตกับคนใน พศนี้นะ โทนโรงแรมจะมาในแนวที่ คนเอเซียชอบ ขาว สวย อลัง ทันสมัย มีดีไซด์ฮะ คิดว่านอกจากคนไทยแล้ว คนจีนกับ คนเกาหลี น่าจะชอบมากๆๆๆ เช่นกัน