5 จุดเช็คอินน่าเที่ยวบนเกาะสีชัง กับโรงแรม Somewhere Hotel Koh Sichang

คุณมาเกาะสีชังครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ ?

ผมจำได้เป็นอย่างดีเวลาเด็กๆ ถึงเวลาไปเช้งเม้ง (ไหว้บรรพบุรุษ) แถวชลบุรี ที่บ้านก็จะพาแวะเที่ยวเกาะสีชังด้วยบ่อยๆ แต่เนื่องด้วยผมเป็นคนสมองปลางทองมาก ความทรงจำในวัยของผม จึงจำอะไรที่เกาะสีชังไม่ได้สักกะอย่าง (บางทีก็สงสัยนะว่าตัวเองสมองปลาทองหรือความจำเสื่อมกันแน่ T__T)  เพราะฉะนั้น เรามารื้อฟื้นความทรงจำในวัยเด็กกันดีกว่า เราไปเกาะสีชังกันเนอะ

มีเงิน 760 บาทก็เที่ยวเกาะสีชังได้สบายๆ จริงเหรอ ( ถ้ามีเพื่อนมาช่วยหารค่ารถสกายแล้ปยิ่งถูกเข้าไปใหญ่เลย)

การเดินทางมาเกาะสีชังแบบไม่มีรถโดยสารส่วนตัว สรุปค่าใช้จ่ายดังนี้

ค่ารถตู้ไปศรีราชา ไปกลับ 200 บาท ( ก่อนอื่นขึ้นรถตู้จากอนุสาวรีย์ชัยมาลงที่โรบินสันศรีราชา  2 ขั่วโมง )

ค่ามอไซด์ไปท่าเรือไปกลับ 60 บาท ( จากนั้นนั่งต่อวินมอไซด์มาลงที่ท่าเรือ 15 นาที)

ค่าเรือไปกลับ 100 บาท ( เรือจะออกทุกต้นขั่วโมง กะเวลากันดีๆนะฮะ ใช้เวลาเดินทางไปเกาะ 30-45 นาที )

ค่ารถสกายแลปเหมาเที่ยว 1 วัน 250 บาท/คัน นั่งได้ 4-5 คน (เหมาเที่ยวทั้งวัน รับส่งตั้งแต่ท่าเรือเลยฮะ)

ค่าขนมและอาหารเที่ยงคนล่ะ 150  บาท (ค่าอาหารบนเกาะไม่แพงนะ ก๋วยเตี๋ยว 20 บาท ยังมีอยู่เลย 7-11 ก็มี)

สำหรับคนที่นำรถยนต์ส่วนตัวมา+++ สามารถไปนำรถไปจอดที่ โรงแรมแคนทารี่ ศรีราชาได้นะครับ แล้วจะมีรถมาส่งที่ท่าเรือ

เที่ยวเกาะสีชัง ต้องไปเที่ยวไหนกันบ้างน้ออออ เพื่อนๆบางคนอาจจะยังไม่รู้เนอะ มาๆๆ ตามผมมาเลยฮะ ผมขอมาร์กจุดเช็คอินไว้ให้เพื่อนๆตามรอยกันดีกว่า ขอเรียกภาระกิจนี้ว่า ” 5 จุดเช็คอินน่าเที่ยวบนเกาะสีชัง “

จุดแรกที่อยากแนะนำให้มาเช็คอิน คือ ที่นี่ฮะ  พระราชวังจุฑาธุชราชฐาน พระราชวังฤดูร้อนบนเกาะเพียงแห่งเดียวในประเทศไทย ผมไม่แปลกใจเลยว่าทำมั้ยรัชกาลที่ 5 ท่านทรงเลือกสร้างพรระราชวังฤดูร้อนขึ้นที่นี่ อยากให้เพื่อนๆลองมาสัมผัสด้วยตัวเองสักครั้งแล้วจะรู้พระราชวังแห่งรักนี้มีอะไรน่าสนใจมากกว่าคุณคิดจริงๆ

“ใครที่อยากเติมความหวานให้ชีวิตยามเช้า ให้ชวนกันมารับแสงแรกของตะวัน ณ ปลายสะพานอัษฏางค์แห่งรักนี้”

ถึงแม้ สะพานอัษฏางค์ จะถือเป็นไฮไลท์ที่ การท่องเที่ยวโปรโมท สำหรับการมาเยือน เกาะสีชังแห่งนี้ แต่ พระราชวังจุฑาธุชราชฐาน ก็ยังมีอีกเรื่องราวอีกมากมายให้เราได้เรียนรู้ รับประกันได้เลยว่าคุณจะประทับใจในหลายๆจุดของพระราชวังแห่งนี้

จุดเช็คอินที่ 2  คือที่นี่  หาดถ้ำพัง หรือ  (อ่าวอัษฎางค์) หาดที่สวยที่สุดของเกาะสีชัง เราสามารถมาทานอาหาร หรือ เล่นน้ำที่หาดนี้ได้ น้ำใสน่าเล่นมากฮะ

จุดเช็คอินที่ 3  คือที่นี่ ไหว้พระขอพร ที่ศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่ คนบนเกาะนับถือเจ้าพ่อเขาใหญ่กันมากฮะ เคยมีคนถูกรางวัลที่ 1 หลังจากไหว้เจ้าพ่อเขาใหญ่ด้วยครับ เห็นว่าซื้อกับคุณยายที่ขายลอตเตอรี่บริเวณตีนเขา

จุดเช็คอินที่ 4 ชมแสงสุดท้ายที่จุดขมวิวช่องเขาขาด ถือเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยที่สุดของเกาะสีชังฮะ

จุดเช็คอินที่ 5 ชิมเค้กอร่อยๆจากแคนทารี่คาเฟ่ ที่โรงแรมซัมแวร์ ถึงแม้จะอยู่บนเกาะสีชังแต่เราก็สามารถหาขนมเค้กอร่อยๆจากร้านคาเฟ่คุณภาพจากตัวเมืองศรีราชาทานได้ด้วยเช่นกันนะฮะ แถมราคาก็ไม่มีบวกเพิ่มใดๆเลยด้วย

สำหรับคนที่อยากค้างแรมบนเกาะสีชังก็มีที่พักหลายราคาอยู่นะครับ เห็นว่ามีราคาเริ่มต้นตั้งแต่ราคา 500 เป็นต้นไป แต่วันนี้ผมขอมาแนะนำโรงแรมใหม่บนเกาะแห่งนี้ที่เรียกว่า พักแล้วรู้สึกสบายเหมือนนอนโรงแรมคุณภาพเจ๋งๆเลยล่ะ โรงแรมนี้มีชื่อ Somewhere Hotel Koh Sichang ที่ว่าหมือนนอนโรงแรมคุณภาพก็เพราะ ที่นี่ดูแลและบริหารงานโดยโรงแรมคุณภาพคับแก้วอย่างแคนทารี่และเคปที่มีสาขาอยู่ทั่วประเทศนะสิครับ แต่ด้วยขนาดของโรงแรมนั้นที่มีขนาดเล็กเพียง 20 ห้องเท่านั้น คอนเซ็ปของที่นี่จึง ไม่ได้ดูเหมือนโรงแรมทั่วไป แต่กลับให้อารมณ์เหมือนบ้านพักตากอากาศของเจ้าของโรงแรมที่อยากเปิดให้เพื่อนๆญาติๆได้มาพักผ่อนกันมากกว่าจะเป็นโรงแรมแบบจริงจัง

ทำเลของโรงแรม อยู่ไม่ไกลจากพระราชวังจุฑาธุชราชฐาน ให้ฟีลลิ่งบ้านใกล้วังนั้นเอง จากโรงแรมเดินเท้าไปวังแค่ 10 นาทีเท่านั้น (เดินไปก็ได้อีกฟีลลิ่งนะฮะ ได้เห็นวิถีชีวิตของชาวเมืองเกาะสีชัง ระหว่างทางจะเจอหลายร้านอาหารน่าสนใจอยู่หลายร้าน  แต่ชาวเมืองที่นั้นแนะนำว่าถ้าอยากลองอาหารจานด่วนราคาน่าคบหาและอร่อย ให้ลอง เจ๊เล็กท่าวัง ร้านอยู่หน้าวังพอดีเด๊ะ)

มาครับๆๆๆ เรามารื้อบ้านพักตากอากาศของตระกูลเกษมกิจกันดีกว่ามีอะไรน่าสนใจบ้าง  ขอเริ่มจากลอบบี้ หรือส่วนต้อนรับแขก เนื่องจากห้องพักมีแค่ 20 ห้องเท่านั้น ลอบบี้จึงมีขนาดเล็กน่ารักกระทัดรัด  เวลคัมดริ้งเป็นน้ำส้ม  (รสชาติเบสิค ขอไม่รีเฟอร์ถึง)

ส่วนกลางก็มีสวนขนาดเล็กน่ารักอยู่ สามารถเอาไว้จัดงานอีเว้นท์ งานแต่ง งานเลี้ยงแซยิด ขนาดเล็กได้เป็นอย่างดี เสียดายไม่มีมานั่งให้บริเวณนี้เลย ตัวอาคารทางเดิน เลือกใช้ขาวเป็นหลัก และตัดด้วยสีฟ้าและเทา ทำให้ดูสะอาด สบายตา

ไฮไลท์ของส่วนกลางน่าจะเป็นสระว่ายน้ำนี่แหละฮะ ขนาดไม่ใหญ่ แต่ก็โอเคมากเลยนะ ทั้งเกาะสีชังน่าจะมีแค่ 2 โรงแรมที่มีสระว่ายน้ำเท่านั้น สระว่ายน้ำจะถูกแบ่งเป็น 2 สระ (สระเด็ก กับสระผู้ใหญ่) ผมชอบบรรยากาศช่วงกลางวันมากกว่ากลางคืนฮะ

เอาล่ะครับเราเข้าไปชมในอาคารที่พักกันดีกว่า อาคารเป็น อาคาร 2 ชั้น แบ่งเป็นชั้นล่ะ 10 ห้อง

ห้องพักเหมือนกันทุกห้องเลยฮะ อาจต่างกันเรื่องการตกแต่งนิดๆหน่อยๆ ห้องที่ควรรีเควสคือห้องติดบันไดฝั่งซ้ายจากในรูปข้างบนนี้ (ถ้าจำไม่ผิด 205 นะ)  ห้องจะมีด้วยกัน 2 สี ฟ้าขาว กับ ขาวเขียว ผมได้พักห้องฟ้าขาวฮะ โทนชอบผมเลย ลักษณะห้องค่อนข้างใหญ่นะมีพื้นที่ใช้สอยมาก เรียกว่า มินิสวีทก็คงไม่ผิด การตกแต่งไม่เน้นหรูหราตามสไตล์โรงแรม แต่ เน้นให้ดูอบอุ่นและน่ารัก มุ้งมิ้ง ให้ฟีลลิ่งเหมือนมาพักบ้านพักตากอากาศจริงๆ แต่มีอุปกรณ์เครื่องใช้ภายในโรงแรมมีครบให้ทุกอย่างภายในห้องพัก

เรื่องวิวอาจไม่ได้วิวทะเลเต็มๆนะฮะ เพราะติดหลังคาบ้านหลายหลังพอดี แต่ถ้ามองจากที่นอนจะดูโอเคกว่าที่ระเบียงนะ

ห้องน้ำเป็นแบบนี้ ไม่มีอ่างเลยสักห้อง

อเมนนิตี้ เหมือน ของโรงแรมเครือ แคนทารี่ฮะ

ห้องอาหาร ถือเป็นจุดสุดท้ายที่จะพามาชมกัน (โรงแรมเล็กมากกกกกก มีพื้นที่เท่านี้เอง) ห้องอาหารตกแต่งโทนฟ้าขาว ดูสบายตา ฟีลลิ่งิย่างที่บอก ไม่ค่อยเหมือนโรงแรมสักเท่าไหร่ ยังคงคุมคอนเซ็ปเหมือนบ้านพักตากอากาศซะมากกว่า

เราไปดูอาหารเช้ากันฮะ  อาหารเช้าอาจจะไม่ได้มีเยอะเยอะมากมาย เนื่องด้วยโรงแรมมีแค่ 20 ห้องเอง คงไม่สามารถจัดไลน์บุฟเฟ่ต์อลังการได้ แต่บอกเลยว่า คุณภาพคับไลน์นะฮะ เพราะโรงแรมเครือแคนทารี่ นี่ขึ้นชื่อเรื่องอาหารเช้าที่คุ้มค่าเกินราคามาแต่ไหนแต่ไรล่ะ

มุมสลัด

มุมขนมปัง (ครัวซองอร่อยอ่ะ)

มุมผลไม้และ ฟรุ๊ตสลัด

มุมชีส ซีเรียล โยเกิร์ต

มุมอาหารร้อน

ไส้กรอกหมู ขวาบนอร่อยมาก

สเตชั่นไข่ และอาหารทำใหม่ๆ จะอยู่ในครัว สามารถสั่งได้จากเมนูนี้ฮะ

ไข่ต้มยางมะตูม ถือเป็นเมนูที่ไม่เหมือนโรงแรมไหนๆ ผมว่าน่าจะแอดเมนูนี้เข้าอาหารโรงแรมกันได้แล้วเนอะ ไข่ต้มสไตล์ไทยๆ กินกับน้ำยำ หรือ พริกน้ำปลา ฟินแท้

เข่้าๆแบบนี้  ใครชอบ ข้าวต้มหมูสับร้อนๆ บ้างฮะ ยกมือขึ้น

อันนี้เมนูโปรดผมเลย เส้นหมี่ผัดเต้าหู้ อร่อยมากกกกก มีเบิ้ล (เมนูนี้เป็นมังสะนะฮะ แต่อร่อยมากกกกก  เต้าหู้ดี้ดี) อาหารหมดเท่านี้แหละฮะ

ส่วนใครอยากเลือกทานอาหารมื้อื่นๆในโรงแรม บอกเลยว่าอาหารถูกมากกกก อาหารพวก ข้าวกระเพราไข่ดาว ปลาทอดกระเทียมไข่ดาว ราคาประมาณ 80-100 บาทเอง อาหารแพงสุด น่าจะ 350 บาทเองนะ สเต็กพอร์คชอป ยังแค่ ร้อยกว่าบาทเอง

บรรยากาศมื้ออื่นๆ จะเปลี่ยนการเซ็ตอัพโต๊ะนิดๆหน่อยๆ โดยรวมยังคล้ายเดิม

เรื่องรสชาติอาหารบอกเลยว่าอร่อย คุณภาพคุ้มราคานะฮะ เพราะใช้คุณภาพและรสเดียวกับโรงแรมแคนทารี่ เมนูบางตัวก็เป็นเมนูเดียวกับแคนทารี่เลย

อันนี้ข้าวหน้าปลาพระพง กระเทียมพริกไทย อร่อยมากกกกกก ราคาก็อย่างที่บอกประมาณ 100 นึง

สปาเก็ตกี้คาโบนาร่า ราคา 100 นิดๆ เช่นกัน

ข้าวอบกับซีฟู้ดย่าง ก็ 100 นิดๆอีกเช่นกัน

พิซซ่านี่ใช้สูตรเดียวกับแคนทารี่เลยฮะ อร่อยมากกกกก ราคาก็ไม่แพงด้วย

สเต็กเนื้อราคา 200 นิดๆ

ฟิชแอนด์ชิฟ ราคา 100 นิดๆ

เครื่องดื่มค๊อกเทลก็มีนะฮะ สำหรับที่นี่ เพราะมีบาร์ขนาดเล็กอยู่ด้วย แก้วนี้ เชอร์ลีย์ เทมเปิ้ล (Chirley Temple) เป็นม๊อกเทล ไม่มีแอลกอฮอล์ นะฮะ รสชาติ เปรี้ยว หวาน ซ่า

สรุปปิดท้ายกันสักนิด

เอาแบบสั้นๆง่ายๆ ตอนนี้เกาะสีชังมีโรงวแรมสไตล์บ้านพักตากอากาศมาตรฐานคุณภาพโรงแรมเครือเกษมกิจแล้ว ใครที่อยากไปเที่ยวเกาะสีชัง แต่ติดปัญหาเรื่องที่พักว่ากลัวจะไม่ดี หรือไม่สะดวกสบายเหมือนที่ฝั่ง ปัญหานี้จะไม่มีที่เกาะสีชังอีกต่อไปฮะ ส่วนเรื่องราคา ช่วงนี้ราคาไม่แพงนะ ตกประมาณ 1700 บาท/คืน พร้อมอาหารเช้า เรียกว่าใครๆก็สามารถจับต้องได้ไม่ยากอย่างแน่นอน