Avani Atrium Bkk คือ โรงแรมลูกพี่ลูกน้องของ อนันตรา ฮะ ถ้าอนันตราเปรียบเสมือนคนอายุประมาณวัย 40-50 อวานีจะเป็นคนวัยประมาณ 25-35 ฮะ เพราะฉะนั้นดีไซด์ของอวานีจึงดูสดชื่น สดใส กว่าอนันตรา (แต่ไม่กิ้งก่องแก้ว) จุดขายของโรงแรมคือวิวป่าตึกสวยๆกลางเมือง ในราคาประมาณ 2000 นิดๆฮะ แต่วันนี้ผมไม่ได้มาพูดเรื่องโรงแรมนะฮะ เพราะเคยพูดไปแล้ว แต่ผมจะมาพูดถึงร้านอาหาร BaniHana ห้องอาหารญี่ปุ่นสไตล์เทปันยากิ ที่ไม่ค่อยจะมีให้ได้เห็นกันสักเท่าไหร่
BeniHana คือ ห้องอาหารญี่ปุ่นระดับพรีเมี่ยมที่เน้นเรื่องเทปันยากิเป็นตัวชูโรง ที่ตั้งอยู่ในโรงแรมเครืออนันตราฮะ โดยใน กทม จะมีด้วยกัน อยู่ 2 สาขาเท่านั้น คือที่อนันตราริมน้ำ และ ที่ Avani Atrium แห่งนี้ แต่ด้วยความที่ Avani เป็นโรงแรมที่ ดูลุคยังและทันสมัยกว่า อนันตรา ห้องอาหาร BeniHana ของที่นี่จริงถูกเนรมิตให้ดูน่าสนใจไม่เสียชื่อแบรนด์ อวานี่ ถึงแม้ห้องอาหารแห่งนี้จะเป็นห้องอาหารญี่ปุ่นแท้ๆ แต่การตกแต่งกลับเลือกใช้ความเป็นไชนีสโอเรียลทอลแต่งเติมสีสันให้กับห้องอาหารได้อย่างน่าประทัปใจทีเดียว เราไปดูบรรยากาศโดยรวมของห้องอาหารกันดีกว่า
ป.ล. แมงกะไซด์ที่อยู่หน่้าห้องอาหารไม่ได้มีไว้จอดโก้ๆเกร๋ๆนะฮะ แต่เอาไว้ให้แขกที่มารับประทานอาหารได้ร่วมลุ้นชิงโชคกันฮะ
เทปันยากิ คืออะไร แปลตรงๆตัวได้ตามนี้ครับ เทปัน = กระทะ ยากิ = ย่าง หรือจะเรียกว่าการย่างบนกระทะร้อนนั้นเอง
วิธีการทานแบบเทปันยากิ ก็คือการที่แขกทุกคนนั่งล้อมรอบตัวเชฟ และ เชฟก็จะปรุงสดใหม่ที่อย่างเสริฟแขกทีล่ะคนที่นั่งตรงหน้า โดยเชฟแต่ล่ะคนก็จะมีลูกเล่น ในการย่างไม่เหมือนกันฮะ เรียกว่าได้ทั้งอร่อยปาก และ พร้อมสนุกสายตาไปกับโชว์การปรุงอาหารแบบพิเศษนั้นเอง
ไม้ตายเทปันยากิของ BeniHana คืออะไร ?
คำตอบก็คือการเลือกใช้วัตถุดิบเกรดพรีเมี่ยม นำเข้าจากประเทศญี่ปุ่นครับ อย่างอันนี้คือ ฮิดะ วากิว ( 1 ใน 3 เนื้อเทพที่อร่อยที่สุดในประเทศญี่ปุ่น นำเข้าจากเมืองกิฟุ ภูมิภาคชุบุฮะ)
เนื้อชนิดนนี้จะมีลักษณะเป็นลายหินอ่อน รสชาตินุ่มละมุนละลายในปาก และไม่มีกลิ่นสาปของเนื้อเลยฮะ
หอยเชลยักษ์จากฮอกไกโด คงไม่ต้องบอกเนอะว่า มันอร่อยขนาดไหน
นอกจากนั้นยังมีเนื้อสตว์ อาหารทะเล และ ผักสดๆ คุณภาพเยี่ยมของไทยเราเสริฟด้วยครับ อันนี้ปลา Yellow Fin Tuna
โดยเมนูเทปันยากิก็จะมีหลากหลายรูปแบบ จะเป็นเซ็ต ในเซ็ตก็จะมี ซุป+เทปันผักและกุ้ง+สลัด และ ข้าว ฮะ
โดยจะทานคู่กับ น้ำจิ้ม 3 แบบ
Ginger Sauce ซอสสไตล์ญี่ปุ่น
Chili Sauce เอันนี้เผ็ดน่าจะปลื้มสำหรับคนไทย
Mustard Sauce มัสมาร์ตฮะ หอมๆนิดๆ ส่วนตัวเฉยๆกับซอสนี้
ส่วนใครที่ไม่นี้ด เทปันยากิ ที่นี่ก็มีเมนูอาหารญี่ปุ่นแบบอลาคาร์ต (แบบจานเดี่ยวๆ) ให้เลือกทานด้วยครับ
ขอแนะนำเมนูนี้ก่อนเลยเป็นจานแรก เพราะถือเป็นไม้ตายของออร์เดริฟทีเดียว “สลัดปลาเงิน” พอชั่นไม่เล็กเลย รสชาติอร่อยทีเดียว ( ที่ญี่ปุ่น นิยมทานปลาเงินกันฮะ เพราะเป็นปลาที่อร่อยจริงจัง)
หรือจะเป็นซาซิมิ ที่หั่นมาชิ้นโตๆหนาๆ และสดได้โลว์มาก
ส่วนใครชอบทานข้าวปั้น ผมแนะนำมาเมนูพวกมากิฮะ มีหลากหลายรูปแบบมาก อย่างตัวนี้ถือเป็นตัวที่ดูคุ้มค่าสุด เพราะจัดหนักมาทั้งปลาแซลม่อน ปลาทูน่า และไข่กุ้ง
ส่วนใครชอบปูอลาสก้า หรือปูทาระบะ ต้องลองเมนูนี้ฮะ ปูอลาสก้าผัดพริกไทยดำสไตล์ญี่ปุ่นฮะ
ส่วนของหวานผมเฉยๆนะ เทมปุระกล้วยและไอศครีมวนิลลา แทกเจอร์กล้วยที่ทอดแตกต่างจากที่อื่นพอควรฮะ แต่ พอกินแล้วรสชาติก็คล้ายๆกันไม่ค่อยต่าง
ส่วนใครไม่นี้ดอาหาร อยากจะแวะมาดริ้งมาคุยกันก็ไม่เลวเลยนะ ร้านบรรยากาศโอเค มีบาร์ให้นั่งด้วย
เมนูนี้ โมฮิโต้ ชาเขียว ( เนื่องจากเป็นคนไม่ทานแอลกอฮอล์ จึงไม่ขออนุญาติไม่วิจารณ์เครื่องดื่มในส่วนนี้นะฮะ )
ส่วนเมนูนี้ Benihana Punch
สรุปปิดท้ายกันสักนิด
อาหารอร่อยมั้ย คำตอบคืออร่อย
บรรยากาศร้านดีมั้ยคำตอบคือดี
บริการดีมั้ย คำคอบคือดี
ถามว่าแพงมั้ย คำตอบก็คือแพงนิดนึงฮะสำหรับพวกวัตถุดิบนำเข้า
เซ็ตเทปันยากิทั่วไปจะเริ่มต้นที่ประมาณ 600++ บาท ส่วนอาหารทั่วไป อาหารทานเล่นเริ่มต้นที่ ประมาณ 200++ ค่าน้ำ น้ำเปล่าเริ่มต้นที่ประมาณ 50++
ดูแล้วมีความอยากกิน??
BeniHana น่ากินมากสมกับที่ริวิวจริงๆค่ะ ด้วยห้องอาหารญี่ปุ่นระดับพรีเมี่ยมดีไซน์ล้ำสมัยและถึงแม้ว่าอาหารราคาแพงแต่ก็คุ้มค่าที่ได้กินวัตถุดิบนำเข้าจากประเทศญี่ปุ่นโดยไม่ต้องเสียค่าตั๋วเครื่องบินไป แถมยังสามารถดูเชฟทำอาหารได้อย่างน่าตื่นเต้นอีกด้วย