เคยอยากไปเวียดนามมั้ยครับ ?
บอกเลยว่า ชีวิตนี้ไม่เคยมีประเทศนี้อยู่ในสมองเล็กๆฟ่อๆของผมเลย สิ่งที่เคยได้ยินมาคือ คนเวียดนาม ขี้โกง ขี้ขโมย ฉก ชิง วิ่งราว มากมาย ประหนึ่งว่าการฉก ชิง วิ่งราว จะเป็น กี่ฬาที่เป็นหน้าเป็นตาของประเทศ (เอาจริงๆก็จริงแหละ ไปที่โน่น คนก็เตือนกันบ่อยๆ เรื่องฉกโทรศัพท์มือถือ ) แต่ด้วยโชคชะตา หรืออะไรไม่รู้ ทำให้ผมได้มีโอกาสมาเยือนประเทศนี้ ผมมีโอกาสไปสัมผัส (แบบมาเที่ยวกับทัวร์) ในส่วนของเวียดนามกลาง 3 เมือง ฮอยอัน ดานัง และ เหว้ ไดอารี่หน้านี้ ผมไม่ได้มาโฆษณาชวนเชื่อให้ไปตามผมกันนะ แต่ผมแค่อยากมาเล่าว่า ผมไปเจออะไรมาบ้างที่เวียดนาม และเวียดนามในส่วนที่ผมสัมผัสเป็นยังไง (เอาตรงๆนะ เรื่องสถานที่ท่องเที่ยวนี่มหัศจรรย์กว่าที่ผมคิดไว้มาก เคยคิดว่า ไทยเราเป็นหนึ่งใน ตองอู แต่……พอมาเห็นเขาแล้ว โม้ไม่ออกฮะ 555555 แต่เรื่องทะเลบ้านเราสวยกว่ามาก )
ใน 3 เมือง ที่ไปมา ตามความคิดผม เมือง ฮอยอัน น่าจะเป็นอะไรที่ถูกจริตกับ คนไทย มากที่สุด
ฮอยอันเหมือนอะไร ?
ฮอยอันเหมือนหลวงพระบางฮะ คล้ายกันมาก แต่ถ้าจะให้เทียบกับในเมืองไทย ก็คงเหมือนตลาดอัมพวา เหมือนตลาดสามชุก เหมือนเมืองเชียงคาน ผสมๆกัน แล้วไม่เน้นขายของกินฮะ นึกภาพกันออกมั้ยฮะ ถ้าจะให้สรุปฮอยอันคงเป็นเมืองโบราณที่ยังมีที่ชีวิตอยู่ฮะ ฮอยอันถูกยกขึ้นเมืองมรดกโลกเมื่อปี 2542 มีพื้นที่ในส่วนเมืองเก่าประมาณ 2 ตารางกิโลเมตร วัฒนธรรมและสถาปัตยกรรมของที่นี่จะเป็นส่วนผสมระหว่าง เวียดนาม จีน ญี่ปุ่น และ ฝรั่งเศส หลักๆแล้วลักษณะการเที่ยวฮอยอันก็คือ เดินเล่นชมเมืองนั้นแหละฮะ ฟีลลิ่งเหมือนเราเดินทางย้อนเวลากลับไปเมือ 80-100 ปีก่อน บ้านเรือนเขายังไม่ได้เปลี่ยนไปจากเมื่อก่อนเลย วิถีชีวิตอาจเปลี่ยนไป (เปลี่ยนเป็นขายของหลอกนักชท่องเที่ยวหมดแล้วฮะ 555555 ) ส่วนของฝากอะไรผมว่าก็ไม่ต่างกับบ้านเรานะ ไม้ตายของที่นี่คือสะพานญี่ปุ่น เป็นสะพานที่ผสมผสานวัฒนธรรมของทั้ง 3 ชาติเอาไว้ได้อย่างลงตัว
ช่วงเวลาที่ควรมาเที่ยวคือ ช่วงบ่ายแก่ๆเย็นๆ ส่วนอากาศร้อน และ ร้อน ได้อีก เห็นว่า มีน้ำท่วมด้วยในบางปี ประมาณช่วงเดือน 10 อากาศคล้ายบ้านเราฮะ ช่วงหน้าหนาวน่าจะดีกว่านี้
ผมไม่ขออธิบายอะไรมาก เพราะเดินมาเที่ยวเหมือนมากับทัวร์เวลาก็จำกัด ก็เดินวนไป มีอธิบายบางจุดบ้างนิดหน่อย แต่ผมว่าก็ไม่ได้สำคัญ อะไรมากกก สำหรับคน อยากไหว้พระขอพร ก่อนไปถึงตลาดจะมีศาลเจ้าจีน อยู่ฮะ ขอรวย ขอหวย ขอลูก กันที่นี่แหละฮะ เขาว่าศักดิ์สิทธิ์มากกก แต่ขอให้ถูกเทพเจ้านะ เหมือนเราไปไหว้พระขอพรที่วัดเล่งเน่ยยี่ เยาราช ประมาณนั้น
ของที่ผมมองว่าเป็นของฝากขึ้นชื่อของเมืองนี้ คือ โคมประทีป ฮะ
อาหารประจำถิ่นที่ควรลองคือ cao lầu มาฮอยอันต้องกินอะไร คำตอบคือ ก๋วยเตี๋ยว เคาเหลา ครับ เป็น ก๋วยเตี๋ยว ที่หาทานได้เฉพาะในเมืองฮอย
รสชาติเป็นยังไง
อาหารเวียดนามจริงๆ รสชาติกลางมากกกกกกกกกกกกก เรียกว่าไม่ไปไหนสักทาง วนมันอยู่ตรงนั้นแหละ จานนี้ก็เหมือนกัน T__T ขอ พริกป่นได้ม้ายยยยยยย
เหว้
ถ้าจะให้สรุปสั่นๆง่ายๆ เหว้น่าเป็นเมืองโบราณที่ตายไปแล้วฮะ สถานที่ท่องเที่ยวหลักๆ ดูไม่มีชีวิตชีวาอีกต่อไปแล้ว แอบน่าเศร้า น่าหดหูซะมากกว่า ถ้าจะให้เทียบกับในเมืองไทย ก็น่าจะเหมือนอยุธยา หรือ สุโขทัย ที่ยังไม่พังนะฮะ คนที่จะชอบเมืองเหว้น่าจะเป็นคนที่ชอบอะไรที่เกี่ยวประวัติศาสตร์ซะมากกว่า ที่เที่ยวของเมืองเหว้จะอยู่กระจายนิดนึงนะฮะ เที่ยวเองก็น่าจะเหนื่อย ลำบากหน่อย ผมไปแบบทัวร์ก็สะดวกหน่อย ที่เที่ยวหลักๆ ก็จะเป็นพระราชวังเมืองเหว้ และ สุสานต่างๆ เพราะ เมืองเหว้เคยเป็น เมืองหลวงมาก่อนหลายชั่วคน มีกษัตริย์สืบทอดต่อมายาวนานกันหลายพระองค์ จึงมีสุสานมากมายรอบๆเมืองเหว้
สุสานไคดิง เมืองเหว้ ถือเป็นสุสานที่ได้รับการขึ้นทะเบียนมรดกโลกโลกฮะ สวยงามอลังการมาก แต่สุสานก็คือสุสาน อารมณ์มันหดหู่แปลกๆ
พระราชวังเมืองเหว้กับประวัติศาสตร์ที่แสนยาวนาน(มากกกก) กว้างขวางใหญ่โต สวยงาม แต่ดูน่าหดหู่แปลกๆไงไม่รู้
เจดีย์เทพธิดา ริมน้ำหอม (ที่เรียกริมน้ำน้ำหอม เพราะแม่น้ำสายนี้ไหลผ่านป่าที่มีดอกไม้หอมทั้งป่า ก่อนจะมาถึงเมืองเหว้ ) ถือเป็นเจดีย์ที่มีคนมาเที่ยวเยอะมากที่นึงในเมืองเหว้
อาหารของเมืองเหว้
โดยปกติแล้วเมืองเหว้จะเป็นเมืองที่มีรสชาติอาหารจัดกว่าเมืองอื่นๆในบริเวณนี้นะฮะ อาหารที่น่าลองคือ เฝอ(เนื้อ)เมืองเหว้ ปอเปี้ยะเมืองเว้ แต่ร้านที่ไปชิมมานี่บอกเลย รสชาติก็ยังวนเหมือนเดิม มีพริกน้ำปลามั้ยอ่ะ T__T
อันนี้เหมือนข้าวเกรียบเวียดนาม กินกับลาบเวียดนาม แต่ลาบปลาเขารสวนไปวนมาไงไม่รู้ ไม่ไปสักทาง T__T
ดานัง
ถึงจะเป็นเมืองหลักที่มีสนามบิน เป็นเมืองที่ผมสัมผัสเวียดนามครั้งแรก เป็นเมืองที่มีที่เที่ยวมากมาย แต่ผมกลับไม่มีโอกาสได้เที่ยวเมืองนี้ ได้แต่นั่งรถชมเมืองดานังแบบวนไปวนมา จากสายตาที่เห็น ขอสรุปคร่าวๆง่ายๆดังนี้
ดานังในวันนี้ กำลังจะกลายเป็น ลิตเติ้ลมาเก๊า+ภูเก็ตฮะ ดานังมีชายหาดที่ยาวและกว้างมาก ยาวถึง 15 กิโลเลยทีเดียว ในบริเวณนี้ก็จะมีโรงแรมไฮโซขึ้นมากมาย เรียกว่าในไม่ช้าน่าจะขึ้นครบทุกแบรนด์ดังๆล่ะ นอกจากโรงแรมแล้ว ดานังยังมีคาสิโน่สำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติด้วยนะ จะเข้าได้ต้องมีพาสสปอร์ตของคนต่างประเทศเท่านั้น (กันคนในประเทศเข้า เพราะผิดกฏหมาย) ยังไม่พอฮะ ที่นี่ยังมีห้างสรรพสินค้ามากมายหลายที่ทั้งห้างญี่ปุ่น ห้างเกาหลี และกำลังขึ้นอีกหลายห้าง นอกจากนี้ยังมีสวนสนุกอีก ชื่อ French Village Bana Hills สวยงามมาก อีกด้วย เชื่อว่าอีก 3-4 ปีข้างหน้า ดานังน่าจะเป็นคู่แข๋งมาเก๊าและภูเก็ตได้ไม่ยาก
ป.ล. ทะเล เขาสู้เราไม่ได้นะ ทะเลบ้านเราสวยใสกว่ามากกก
ภาพนี้ French Village Bana Hills ภาพจากในเวปฮะ
เอาล่ะครับแล้ว ไปเวียดนามกลางครั้งนี้ผมไปพักที่ไหน ผมพักที่นี่ฮะ Banyan Tree หาด Langco อยู่ระหว่าง เมืองเหว้กับดานัง จากดานังไปนั่งรถไป 45 นาทีฮะ ทำเลของที่นี่อาจเรียกได้ว่า ดูเหมือนจะไม่เหมาะที่จะวางแผนมาเที่ยวเลยเนอะ แต่เดี๋ยวก่อนๆๆๆนะ ที่นี่ให้ชัตเตอร์บัสสำหรับแขกที่มาเข้าพักฟรีฮะ ถ้าจะไปเที่ยวเมือง เหว้ หรือ เมือง ฮอยอัน อันนี้คือ สิ่งที่ดีงามมาก เอามาแก้เกมส์ จุดอ่อนของทำเลได้เป็นอย่างดี
หาด Langco แปลว่าหาดนกกระยางขาว ธรรมชาติมากกกกกกกกกกกก ถึงมากที่สุด เหมือนอยู่ในป่าเลย ประมาณปากทางทางเข้า ยังไม่มีไฟให้เลยฮะ เพราะฉะนั้นเรื่องความสงบ และความเป็นธรรมชาติเรียกว่า เกือบ 100 % ฮะ
หาด Langcoสวยมั้ย ก็สวยนะ แต่อย่ามาเทียบกับทะเลบ้านเรานะฮะ ผมว่าคนละเรื่อง ทรายก็คนล่ะเรื่องเมื่อเทียบกับฝั่งอันดามันนะ ช่วงที่สวยที่สุดของทะเลแถบนี้คือเดือน 7-9 ฮะ โดยเฉพาะเดือน 8 พีคมากกกก เดือน 10 หน้าฝนเขาฮะ
Banyan Tree Lang Co เป็นยังไง
ผมว่าคนไทยส่วนใหญ่รู้จักบันยันทรี กันดีอยู่แล้ว หรูหรา สวยงาม เงียบ สงบ ส่วนตัว นิ่งๆ อารมณ์ประมาณ สาวชาววังแบบแม่พลอยในสี่แผ่นดิน นั้นแหละฮะ ฟีลลิ่งของที่นี่ คล้ายๆกับ Banyan Tree ที่ภูเก็ตอยู่มากกกกก เน้นพูลวิลล่าเป็นหลัก พื้นที่ส่วนกลางอย่างลอบบี้และสระว่ายน้ำหลัก บาร์ ของที่นี่ได้วิวของทะเล และหาดลังโคไปเต็มๆฮะ
ในส่วนเรื่องอาหารเช้า พี่ไทยเราชนะขาดลอยฮะ แต่ที่นี่ก็ไม่ได้แย่นะ ผมถือว่าดีมากกก แต่ของพี่ไทยเราฟินกว่าเท่านั้น ผมชอบอาหารโลคอล (ซึ่งบันยันทรีเน้นเรื่องนี้อยู่แล้ว) กับน้ำอ้อย
หลักๆที่มีให้กินทุกวันคือ ติมซำ สับเปลี่ยน เวียนวนกันไป
อันนี้แพนเค้กเวียดนาม เอาขนมปังฝรั่งเศสอันเล็กมาเข้าเครื่องอัดบี้ แล้วโรยพวกเนื้อแห้งกับซอส รสเหมือนไรดีล่ะ นึกไม่ออกแหะ จะว่าคล้ายข้าวตังหมูหยอง + กับขนมปังหน้าหมู ก็ไม่น่าจะผิดนะ
ส้มตำฮะ รสชาติไม่ไปสักทาง มีทุกรส นะ เผ็ด หวาน เค็ม แต่ทุกรสมาเท่ากันหมดแบบอ่อนๆ ตกลงจะไปทางไหนดีล่ะ
ปอเปี๊ยะเวียดนาม หรือหนมเบื้องญวณ (เวอร์ชั่นของจริง) ไอ้หนมเบื้องญวณที่เรากินในบ้านเรามันเป็นของปลอมฮะ ของจริงเขาหน้าตาแบบนี้ มันเยิ้มมากกกกกกกกกกกก อร่อยมั้ย ผมว่าของบ้านเราอร่อยกว่าฮะ แต่ ออริจินอลก็ไม่เลวร้ายนะ แค่มันไปหน่อยแค่นั้น
เตี๋ยวเวียดนาม ที่นี่เขากินเส้นหนมจีนแทนเส้นเตี๋ยวฮะ ก็อร่อยดีนะ กินกับน้ำซุปต้มผักต้มหมู ส่วนรสน้ำซุป ยังยืนยันคอนเซ็ปเดิม ไม่ไปทางไหนสักทางนั้นแหละ T__T
**** ไอ้นี่สิคือที่สุดของแจ้ล่ะ กาแฟโลคอลเวียดนาม กาแฟเวียดนามคือ ที่สุดของความดีงามทั้งปวง ต้องเป็นกาแฟที่ชงแบบโลคอลด้วยนะฮะ ใครจะซื้อเป็นของฝาก ซื้อกาแฟเท่านั้นฮะ ดีงาม กราบๆๆๆ เชื่อมั้ยฮะ ว่าที่เวียดนามเขาเม้าท์กันว่าสตาร์บั๊ค ดีตลาดกาแฟประเทศนี้ไม่ได้หรอก เพราะกาแฟโลคอลเขาดีกว่า อร่อยกว่ามาก แต่ก็ เห็นว่าตอนที่ไป ทั้งประเทศมีแค่ 3 สาขาเอง
มื้อเช้ามีเสริฟแชมเปญด้วยฮะ
อันนี้เป็นของมื้ออื่นที่ได้ชิมมานะฮะ บอกเลยว่าซีฟู้ดสดมากก แถบเวียดนามกลางค่อนข้างขึ้นชื่อเรื่องซีฟู้ดฮะ แต่…..น้ำจิ้มไม่ผ่านนะ ก็เล่นเอาพริกไปตำกับเกลือแล้วยกมาเสริฟ แค่นั้นจริงๆ รสแบบว่าน้ำตาไหลพราก คือมะนาว น้ำตาลเติมหน่อยมั้ยพี่ เหมือนพี่ตำค้างๆไว้ แล้วเผลอลืมยกมาเสริฟหรือเปล่าอ่ะ น้องกินไม่เป็นอ่ะรสนี้
อันนี้เหมือน ขนมข้าวเหนียวดำบ้านเราฮะ แต่เขาไม่ใส่กะทิกันนะที่โน่น เลือกใส่ใส่โยเกิร์ตรสธรรมชาติแทนกะทิ รสมันก็พอได้นะ แต่ผมกินแล้วมันนึกถึงกะทิบูดอ่ะ T__T
ห้องพักของ Banyan Tree Lang Co เป็นยังไง
ผมว่ามันคล้ายๆกับที่ภูเก็ตมากๆๆๆๆนะ เคยมีคนบอกผมว่า Banyan Tree Phuket มันเก่า แก่มากกกกกก เอาจริงมันแก่จริงมั้ย หลังจากไปบันยันทรี ลังโคมา คำตอบที่ได้คือ ไม่จริงฮะ มันเป็นสไตล์ของ บันยันทรี เอง เปรียบเทียบห้องเริ่มต้นกัน
ส่วนห้องที่อยู่บนภูเขาก็จะประมาณนี้ฮะ วิวสวยงามแท้ แต่ราคาก็นะ แพงระยับพอดู
ในโซนของ บันยันทรี ลังโค ตอนนี้ยังมีอยู่แค่ 2 โรงแรมเองฮะ คือจะมี อังสนาอีกโรงแรมฮะ ตามโปรเจค น่าจะมี 5-7 โรงแรมทีเดียวฮะ โดยส่วนตัวมีโอกาสเดินผ่านอัสนาไปมาแบบแว้บๆวับ โดยรวมแล้วผมว่า อังสนาที่นี่ค่อนต้างสวยกว่าที่ภูเก็ตมากเลยฮะ ห้องพักก็สวยทันสมัยตั้งแต่ห้องเริ่มต้น สระว่ายน้ำก็ออกคอนเซ็ปเดียวกันคือ ลำธารยาวๆ โดยส่วนตัว ผมว่าคนไทยเราน่าจะชอบแนว อังสนา ลังโค มากกว่า บันยันทรี ลังโคนะ
สรุปแบบสั้นๆง่ายๆ
โรงแรมนี้นี้เหมาะกับการมาพักผ่อน ปลีกวิเวก จริงๆ แต่ ถ้าใครเลือกจะมาอยู่แบบหลายวันก็ไม่น่าเบื่อนะ เพราะนอกจากจะมีกิจกรรมหลายๆอย่างในรีสอร์ทแล้ว ก็มีรถรับส่งฟรีไปเที่ยว ฮอยอัน ดานัง และเหว้ ได้อีกด้วย แค่แจ้งให้ที่ลอบบี้ทราบก่อนล่วงหน้า (แต่แอบไกลไปหน่อยนะ 45-60 นาที เลยอ่ะ)
Banyan Tree Pantip