รีวิว หลวงพระบาง 2567 Angsana Maison Souvannaphoum

Advertisement

อยากรู้กันมั้ยฮะ หลวงพระบาง  หลังจากโควิดผ่านไป มีอะไรเปลี่ยนไปบ้าง

หลวงพระบาง ถือเป็นเมืองท่องเที่ยวที่ทำเงินอันดับ 1 ของ สปป ลาว เรียกว่าเป็นอีกเมืองโปรดของคนไทยหลายๆคนเลยนะ ไปกี่ครั้งก็จะเจอคนไทยมาเที่ยวที่นี่ไม่เคยขาด หลังจากยุคโควิดผ่านไปที่นี่ก็ผ่านการเปลี่ยนแปลงไปหลายๆอย่างเช่นกัน มากับลุงเนอะ ลุงจะพามาอัพเดทให้ฟังกัน

ค่าเงิน เคยไปเที่ยวหลวงพระบางตั้งแต่ 10000 กีบ = 45 บาท แต่ตอนนี้เหลือ 20 บาท = 10000 กีบ ตอนนี้ไปเที่ยวหลวงพระบางอะไรๆก็ถูกลงไปหมดเลยนะ จ่ายค่าอาหาร ค่าขนม แบบ ไม่ต้องคิดเยอะคือ ถูกกว่าเมื่อก่อนเกินครึ่งเลย ( ยกเว้นค่าโรงแรมกับค่ารถที่ปรับตามเรท US ) แต่เราไม่จำเป็นต้องไปแลกเงินลาวไว้ใช้นะ เพราะเราสามารถใช้เงินบาทเราได้เหมือนอยู่ที่เมืองไทยเลยฮะ ทางโน้นเขาจะยึดเรท 20 บาท = 10000 กีบ แนะนำว่าให้แลกเป็นแบงค์ 20 หรือ 50 บาทไปใช้จะสะดวกที่สุดฮะ  ( ถ้าใช้แบงค์ใหญ่ไป เวลาทอน เขาจะทอนเป็นเงินกีบกลับมาฮะ )

การเดินทาง เมื่อก่อนการเดินทางมาหลวงพระบาง ก็จะมีรถบัส รถยนต์ส่วนตัว และ เครื่องบินเนอะ ตอนนี้มีอัพเดท รถไฟมาด้วยฮะ แต่สถานีรถไฟไม่ได้อยู่ใกล้ตัวเมืองนะ ห่างออกไป 30 นาทีเลย (ไกลกว่าสนามบินอีก) และค่อนข้างจะจองยาก ในส่วนรถบัสก็ถูกลดบทบาทไปจนทำให้ท่ารถบัส กลายเป็นท่ารถร้างไปอยู่แล้วฮะ ส่วนตัวว่า การเดินทางมาหลวงพระบางจากเมืองไทยที่สะดวกและคุ้มค่าที่สุด ก็ยังคงเป็นเครื่องบินอยู่นะ (ช่วง พย-มค ถือเป็นช่วงที่อากาศดีสุด ใครจะมาเที่ยวหลวงพระบางแนะนำ ช่วงนี้ฮะ)

ในเมืองเปลี่ยนแปลงอะไรไปบ้าง

ด้วยความที่เป็นเมืองมรดกโลกเนอะ (ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรในเมืองได้มากนัก) ทำให้ในตัวเมืองแทบไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไรเลย เหมือนหยุดเวลาไว้ แต่ที่เปลี่ยนไปแบบพลิกชะตา นทท เลย คือการจอดรถฮะ ตอนนี้หลวงพระบางมีให้จอดรถวันคู่ฝั่งนึง วันคี่อีกฝั่งนึง ทำให้ นทท มีโอกาสได้ถ่ายรูปกับตึกสวยๆแบบไม่ติดรถได้สบายๆเลยฮะ ใครอยากถ่ายทั้ง 2 ฝั่ง แนะนำให้มา 2 วันฮะ

เราไปดูเมืองหลวงพระบางแบบไม่มีรถยนต์ ไม่มีมอเตอร์ไซด์มาเกะกะ ขวางหูขวางตากันดีมั้ยฮะ

วัดเชียงทอง

ค่าเข้ายัง 20000 กีบ อยู่ฮะ (แต่เงินไทยเหลือ 40 บาท) ก็ไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปจากเมื่อก่อนนะ อาจมีการซ่อมบำรุงบ้างเป็นปกติ ส่วนตัวก็ว่ายังสวยงามเหมือนเดิม มุมถ่ายรูปยอดฮิต ตรงช่องหน้าต่างที่วิหารน้อยก็ยังถือเป็นมุมที่ลุงชอบมากที่สุด (ส่วนตัวให้มุมนี้สวยที่สุดในหลวงพระบางเลยนะ)

เดินเล่นริมน้ำโขง ช่วงที่ลุงไปมาล่าสุดเป็นช่วงปลายเดือน 9 เนอะ เป็นช่วงน้ำเยอะ พายุแน่นๆเลย น้ำโขงขึ้นสูง ไม่เหลือสันทรายให้เดินเลย ใครมีโอกาสให้ไปช่วง พย ฝนเริ่มขาดช่วงบ้าง น้ำโขงลดลงบ้าง น่าจะทำให้มีสันทรายให้เดินเล่นกันได้ฮะ ถ้ามีโอกาส อย่าลืมไปเดินเล่นชมพระอาทิตย์ตกริมน้ำโขงกันฮะ บรรยากาศดีมากๆ

พระธาตุพูสี จุดชมวิวกลางเมืองหลวงพระบาง ค่าขึ้น 25000 กีบ ( เงินไทย 50 บาท) ก็ยังต้องเดินขึ้นเช่นเดิมฮะ (ไม่เหมาะกับคนแก่อย่างแรง) ช่วงที่ลุงไป นทท แอบบางตามาก คนส่วนใหญ่ชอบขึ้นไปชมพระอาทิตย์ตกที่นี่กันฮะ

ใส่บาตรข้าวเหนียว ถือเป็นอีกจุดที่ได้รับการปรับปรุงอย่างเห็นได้ชัด อาจด้วยเพราะ นทท น้อยลงหรือเปล่าก็ไม่รู้ ทำให้ทุกอย่างมันดูไม่วุ่นวาย ไม่สับสน ไม่ชวนงง เหมือนเมื่อก่อน บางโซนที่ไม่มี นทท มานั่งใส่ ก็ดูงดงามแบบที่ควรจะเป็นจริงๆ (มีโอกาสได้ไปในช่วงวันพระพอดี คนลาวเขาศรัทธาสูงมาก ตื่นมาใส่บาตรกันเยอะมากๆ ช่วงสายๆก็เข้าวัดถวายเพลกันด้วย งานบุญดูครึกครื้นมากๆ)

ป.ล. แอบเห็นป้ายของทางการคอยแนะนำ ทั้งเรื่องการแต่งกาย การถ่ายรูป(เพื่อไม่ให้รบกวนคนอื่นๆ) และ กำกับราคาข้าวเหนียวไว้อย่างชัดเจน

ในส่วนข้าวเหนียวที่คนใส่บาตรกัน เมื่อถึงจุดมุมถนนที่ต้องเดินกลับวัด พระ เณร บางรูปก็สละบางส่วนให้คนยากไร้ที่มาขอตามมุมหัวถนนนะ ใครได้ไปใส่บาตรเช้าก็เหมือนได้ทำบุญอีกต่อในส่วนนี้

ป.ล. ส่วนที่เหลือ ได้ยินว่า ท่านจะเอารวมๆกันแล้วเอาไปหุงใหม่นะ

ตลาดเย็น ถือเป็นจุดที่ลุงชอบน้อยสุด จนถึงขั้นเฉยๆเลยนะ คือ ภาพรวมๆมันดูสวยดีหรอกนะ แต่ของที่ขายนี่สิดูเป็นของแนวโบ้เบ้ แนวโรงงานมากๆ เห็นแล้วก็ได้แต่ร้อง…..เฮ้ออออ มีน้อยร้านมากๆที่เป็นสินค้าพื้นบ้านจริงๆ แอบเสียดายนะที่เสน่ห์ตรงนี้หายไป ทั้งๆที่หลวงพระบาง ขึ้นชื่อเรื่องผ้าไหมลาวมากๆเลยนะ

ป.ล. เดินไปเดินมาก็ยังแอบชอบถนนคนเดินที่ท่าแพที่เชียงใหม่มากกว่า

ตลาดเช้า อันนี้คงเส้นคงวามาก ปูผ้า ปูใบตอง ขายยังไงก็ยังเหมือนเดิม เหมือนเวลาถูกหยุดเอาไว้ไม่เปลี่ยนแปลง เพื่อนที่ไปด้วยกันถึงกับถาม มันจะสะอาดจริงๆ….ใช่มั้ย 55555 ไปเดินดูว่าเขามีอะไรขายบ้างเนอะ ไม่ต้องไปซื้อก็ได้ ในส่วนของกินในตลาดก็มีหลายๆเมนูที่น่าสนใจนะ

แหนมขาว เมนูนี้คล้ายๆ ข้าวเกรียบปากหม้อ+เตี๋ยวหลอดฮะ ไส้เป็นหมูสับผัดกับผักและก็เห็ด เวลากินก็จะมีน้ำจิ้มราด อร่อยนะ ถือเป็นหนึ่งในเมนูอาหารเช้าในตลาดที่อยากให้ลองกัน

บาเก็ตแซนวิช 50 บาท เมนูนี้ชาวอีสาน รู้จักกันเป็นอย่างดีเนอะ ด้วยความที่ลาวเคยเป็นเมืองขึ้นของฝรั่งเศสมาก่อน บาเก็ตแซนวิช สไตล์ลาวก็ถือเป็นอีกหนึงเมนูยอดฮิตในตอนเช้า ไส้ก็จะใส่หมูยอ ไข่เจียว หมูหยอง มะละกอดิบ มายองเนส และ ซอสที่ทำจากมะเขือเทศ

กาแฟประชานิยม ร้านกาแฟเก่าแก่ขวัญใจชาวหลวงพระบาง อยู่ใกล้ๆตลาดเช้า อยากทานอาหารเช้าริมน้ำโขงฟีลโลคอล ราคาน่าคบหา ก็ต้องที่นี่นะ อันนี้ก๋วยจับแบบลาว กับกาแฟเย็น ปาท่องโก๋อีก 2 ตัว ทั้งหมด 90 บาท

มีอะไรแนะนำใหม่ๆบ้างมั้ย ถ้าจะไปเที่ยวหลวงพระบาง

T56 ร้านคาเฟ่เปิดใหม่โซนริมโขง อยู่ใกล้ๆกับร้าน กาแฟประชานิยม เลย บรรยากาศเหมือนร้านอาหารในโรงแรมหรู แถมราคาอาหารก็น่าคบด้วย อย่างอาฟเตอร์นูนทีเซ็ตนี้ ราคา 170000++ ตีเป็นเงินไทยก็ 340++

โจมา คาเฟ่ ตอนนี้มีขยายสาขาเพิ่มมาอีก 1 อยู่ในเมือง แต่ขอพาไปร้านออริจินอลนะ อยู่ใกล้ตลาดเช้า และ รร ที่ลุงพัก Angsana Maison Souvannaphoum อย่างที่รู้กัน ในหลวงพระบางแทบไม่มีร้านอาหารเชนฯอย่าง สตาร์บั๊ค KFC แมคโดนัล ฯลฯ เลย ใครที่อยากได้ฟีล สตาร์บั๊ค ก็คงต้องพึ่งโจม่านี่แหละฮะ (แต่รสชาติไม่ได้นะ 5555 ) ขนมในโจม่าถือว่าไม่แพงอะไรมากนัก ขนม และ กาแฟจะเริ่มต้นที่ประมาณ 30000- 40000 กีบ (60-80 บาท)

ป.ล. ตอนนี้หลวงพระบางแอบ มีร้านกาแฟเชนมาเปิดอยู่สองร้านนะ ร้านแรกคือ คอฟฟี่คลับ อีกร้านคือ คาเฟ่อเมซอน ฮะ เปิดอยู่ตรงข้ามกันเลย ตรงด้านหน้าทางเข้าเมืองเก่า

TAEC พิพิธภัณฑ์งานแสดงผ้าลาว และ ร้านขายของที่ระลึกจากผ้าลาว ถือเป็นที่เที่ยวอีกจุดสำหรับคนชอบผ้าลาวฮะ ที่นี่จะมี พิพิธภัณฑ์อยู่ตรงด้านหน้าทางเข้าเมืองเก่า และจะมีร้านขายของที่ระลึกอยู่ในเมืองด้วยฮะ ใครหาของที่ระลึกจากผ้าลาวที่ดูแบบมีการ คิด คัด และ นำดีไซด์มาใช้ ก็แนะนำที่นี่ฮะ (ราคาก็จะแพงกว่าผ้าพื้นเมืองทั่วไป)

“ออกพบตก หลวงพระบาง” ( Ock Pop Tok  : east meet west ) ให้ 10 เต็มแบบไม่หักสำหรับที่นี่ ศูนย์หัตถกรรม ร้านอาหาร คาเฟ่ ร้านขายของที่ระลึก ริมน้ำ บรรยากาศดีมากๆๆๆ แถมยังมีกิจกรรม workshop ย้อมผ้า ทอผ้า สานพัด ฯ ให้แขกได้ร่วมกิจกรรมด้วย (มี คชจ เพิ่มเติมนะ) ส่วนร้านของที่ระลึกก็เป็นงานฝีมือที่ดูมีคุณภาพและดีไซด์ฮะ สวยและน่าสนใจมากๆ ….ที่สำคัญมีรถรับส่งฟรีจาก รร ด้วย ดี๊ดี (ให้ รร โทรไปบอกที่ร้านให้เขามารับได้) ตัวที่ตั้งของออกพบตกจะอยู่นอกเมืองออกไปเลย ถ้านับจากตลาดเช้า ก็น่าจะห่างไปประมาณ 3 Km

อาหารลาว ที่นี่เป็นรสที่ปรับรสชาติให้เข้ากับ นทท เที่ยวแล้วฮะ ถึงจะไม่ออริจินอล จ๋าๆ แต่ก็ถือว่าอร่อยเลยนะ โดยเฉพาะ ตำหลวงพระบางของที่นี่รสชาติประเสริฐแท้ อร่อยไม่แพ้ป้าติ๋มเลย กราบ อยากให้มาลองกัน

ป.ล. เคล็ดลับของลุงสำหรับการสั่งอาหารลาวนะ ส่วนใหญ่ของทอดคือรอดหมด ใครไม่มั่นใจให้สั่งของทอดไว้ก่อนฮะ

ร้านของที่ระลึกใน ออกพบตก สินค้าดูน่าสนใจมากๆ

ศูนย์หัตถกรรมริมน้ำ บรรยากาศดีมากๆๆๆ มีกิจกรรม workshop ย้อมผ้า ทอผ้า สานพัด ฯ จะมีเรท ครึ่งวันกับเต็มวัน ราคาก็แตกต่างกันไปขึ้นกับว่าจะทำอะไร

รถรับส่งฟรี จะเป็นคันนี้ฮะ

ถ้าใครอยากลองอาหารลาวแบบอร่อย รสชาติที่คนลาวแท้ๆชอบทานกัน แนะนำร้านนี้ฮะ Luangprabang Bio Bamboo ลุงมาหลวงพระบางหลายครั้งก็แอบแปลกใจนะ อาหารลาวมันบ่แซ่บ ไม่ถูกปากลุงเลยอ่ะ มาถึงบางอ้อ ก็วันนี้ ที่ผ่านมาเราไปไม่ถูกร้าน ร้านนี้ชื่อ bio bamboo เป็นร้านที่คนพื้นที่แนะนำไป และต้องมีรถเท่านั้นนะถึงจะมาได้ (แนะนำว่าใครเหมารถไว้ทั้งวันอยู่แล้ว ก็ให้ลองแวะไปทาน) ห่างจากถนนคนเดินประมาณ 3 km ร้านสวย บรรยากาศดี ริมน้ำโขง อาหารอร่อยมากๆอร่อยแบบ เออ…. อันนี้แหละที่เรียกว่าอร่อย

สินสำพิก 90000 กีบ น้ำพริกหมูผัดแห้งๆ รสชาติเผ็ดร้อน จัดจ้าน ทานกับผักลวก

อั่วหน่อ 65000 กีบ หมูสับผสมหน่อไม้ทอด

แจ่วหมากปี 35000 กีบ น้ำพริกหัวปลี รสชาติเผ็ดเล็กๆ ไม่มากฮะ รสออกนัวๆ

จิบสินแดดเดียว 65000 กีบ หมูแดดเดียวทอดงาฮะ ชนะเลิศ

แกงหยวกกล้วย 70000 กีบ ใช้แกนของต้นกล้วยเอามาแกงสไตล์ลาวที่กลิ่นใบหญ้านางและผักชีลาว

เอาะหลาม 90000 กีบ เป็นเมนูพื้นบ้านที่อธิบายยากจังเลย มันมีความน้ำเหนียวๆเหมือนราดหน้านะ รสก็สไตล์แกงลาว แอบนัวๆ อธิบายไม่ถูกเลย 5555 (เป็นเมนูที่ต้องเอาไปทำในกระบอกไม้ไผ่)

จาน ชาม ข้าวของเครื่องใช้ การตกแต่ง ก็ตามชื่อเลยฮะ ไม้ไผ่ล้วนๆ

ตาดกวางสี (น้ำตกที่สวยที่สุดในหลวงพระบาง) มีค่าเข้า ประมาณ 25000-30000 กีบ ไม่รู้จะอธิบายอะไรนอกจากคำว่า “สวย” อยากให้ได้มากัน ถ้ามีโอกาสก็ลองแวะมาเที่ยวกันเนอะ ใช้เวลาครึ่งวันจากตัวเมืองหลวงพระบางฮะ

บ้านพนม (Ban Phanom) ถือเป็นหมู่บ้านชาวไทลื้อที่เคยได้รับเลือกให้ผลิตผ้าทอให้กับทางราชวงศ์ของหลวงพระบางฮะ จุดที่เราอยู่เป็นเหมือนร้านค้าของหมู่บ้านที่รวมสินค้าของทุกบ้านมาไว้ในที่เดียว เราสามารถเลือกซื้อผ้าทอจากฝีมือผ้าทอลาวแบบโบราณได้จากที่นี่แหละ (ผ้าทอที่นี่ค่อนข้างจะราคาน่าคบหากว่าทุกที่ๆไปมาเลยนะ แต่อาจไม่ค่อยสะดวกนัก เพราะ ต้องมีรถเดินทางมาเองฮะ)

หมู่บ้านซางของและหมู่บ้านเซียงเล็ก (The Village of Bang Xang Khong & Ban Xieng Lek) มีความคล้ายๆบ้านพนมที่มีผลิตสินค้าเองทุกบ้าน แต่ที่นี่ เราต้องเดินเข้าตามบ้านแต่ล่ะหลังเอาเองฮะ บ้านแต่ล่ะบ้านก็จะขายของต่างกันไปเช่น งานแกะสลักไม้ ผ้าไหมลาว หรือ กระดาษสา (ต้องมีรถเดินทางมาเองเช่นกัน) ราคาผ้าไหมลาวที่นี่แอบแพงกว่าบ้านพนมนะ

เที่ยวกันมาเยอะมากกกกกก เรามาถึงที่พักของเรากันบ้างฮะ

โรงแรมส่วนใหญ่ในเมืองหลวงพระบางดัดแปลงจากอาคารเก่าเสียส่วนใหญ่ อย่าง บ้าน ร้านค้า โรงพยาบาล หรือ คุก เป็นต้น ห้องพักส่วนใหญ่ก็เลยไม่ได้มีขนาดใหญ่ และ มีห้องมากมายอะไรนัก อย่างที่ลุงพักคราวนี้มีชื่อ Angsana Maison Souvannaphoum (เป็นโรงแรมในเครือ Banyan Tree) ก็จะพิเศษกว่าที่อื่นๆหน่อย เพราะ ดัดแปลงมาจากพระตำหนักของโอรสของเจ้าเมืองหลวงพระบางในสมัยก่อน (ชื่อเจ้าสุวรรณภูมิ) โรงแรมมีห้องพักประมาณ 24 ห้องเท่านั้น

ทำเลของโรงแรมอยู่ในจุดที่อยู่นอกตัวเมืองหลวงพระบางออกนิดหน่อย อยู่ห่างจากตลาดค่ำประมาณ 400 เมตรฮะ อยู่ในระยะที่เดินเข้าไปในเมืองได้สบายๆฮะ

เมื่อมาถึงโรงแรมก็ต้อนรับเราด้วยขนมและเวลค้มดริ้งฮะ จากสนามบินมาโรงแรม เราใช้เวลาเพียงแค่ 15 นาทีเท่านั้นฮะ สนามบินใกล้เมืองหลวงพระบางมากๆๆๆ

พิธี “บายศรีสู่ขวัญ” เป็นพิธีที่คนลาวใช้ เสริมดวง เสริมมงคล ให้กับแขกที่มาร่วมพิธี จะมีการ ผูกเชือกฝ้ายสีขาวรอบข้อมือของแขกผู้มาเยือน พร้อมสวดมนต์และอวยพร ให้กับแขกผู้มาเยือน โดยจะเริ่มที่คนเฒ่าคนแก่เป็นคนผูกก่อนฮะ

ช่วงที่ลุงไปเป็นวันเกิดของแขกพิเศษมากๆท่านนึงของโรงแรมพอดี ทางโรงแรมก็เลยทำพิธี “บายศรีสู่ขวัญ” ให้กับแขกท่านนั้นฮะ ลุงก็เลยมีโอกาสได้ร่วมพิธีด้วย เป็นพิธีที่น่ารักมากๆ

จุดที่เราเห็นนี้คือพระตำหนักของเจ้าสุวรรณภูมิ (เจ้าเคยอาศัยอยู่ที่ตำหนักนี้ฮะ แต่ตอนนี้อยู่ในการดูแลของรัฐบาลลาว ให้ บันยันทรี มาดูแลทำโรงแรมอีกที ) ตอนนี้ชั้นล่างก็จะเป็นที่ตั้งของลอบบี้โรงแรม ห้องอาหาร และ พิพิธภัณฑ์แกลลอรี่ ส่วนชั้นบนจะเป็นห้องพักแบบพิเศษ

ลอบบี้ของโรงแรม แขกทุกคนจะต้องมาเช็คอินที่จุดนี้ฮะ

พิพิธภัณฑ์แกลลอรี่ ห้องนี้เป็นห้องที่บอกเล่าเรื่องชาวหลวงพระบางในยุคสมัยก่อน และก็เป็นที่จัดแสดงของใช้เก่าๆของจ้าวสุวรรณภูมิ ด้วยฮะ

จุดนี้จะเป็นสปา จะอยู่ถัดไปในสวนด้านหลัง สปาที่นี่ใช้มาตรฐานจาก banyan tree academy เคยได้รางวัล Laos’s Best Hotel Spa 2016

สระว่ายน้ำจะอยู่ด้านหลังลอบบี้ฮะ เพิ่งจะได้รับการรีโนเวทใหม่ในปีนี้

อาหารเช้าเป็นยังไง

ที่นี่มีห้องอาหารเดียวเนอะ ชื่อห้องอาหาร Elephant Blanc อาหารเช้าเราก็จะทานกันที่นี่แหละฮะ ส่วนตัวว่าอาหารเช้าไม่แย่นะ แต่ไอเทมเมนูอาจจะดูน้อยไปนิด (เทียบกับโรงแรมในเมืองไทย) อาจด้วยจำนวนห้องที่มีไม่เยอะ ไลน์บุฟเฟ่ต์ก็เลยถูกย่อลงมา เมนูที่ลุงชอบจะเป็น โยเกิร์ตโฮมเมด (ไม่ควรพลาด อร่อยมาก) และข้าวผัดฮะ

พูดถึงอาหารเช้าไปแล้ว เรามาพูดเมนูไม้ตายของห้องอาหารที่นี่กันบ้างดีกว่า เซ็ตอาหารนี้มีชื่อว่า Prince of Lao เห็นเสริฟมาแบบนี้นะ แต่จริงๆเป็นบุฟเฟ่ต์อลาคาร์ตฮะ ใครอยากจะเติมอะไรกี่ครั้งในเซ็ตนี้ได้หมดเลย ราคาจะตกคนล่ะ 250000++ มาคนเดียวก็สั่งได้ฮะ อาหารทั้งหมดก็จะเป็นอาหารพื้นบ้านลาว เมนูก็จะมีตามนี้ฮะ

เอาะหลามหลวงพระบาง • ตะไคร้ยัดไส้หมูสับชุบแป้งทอด • สาหร่ายไค่แผ่นกรอบ • ไข่ข้อม • ซุปผักรวมมิตร • แกงจืดเต้าหู้ไข่ • อกเป็ดสมุนไพร ปรุงเครื่องเทศ • ลาบไก่ สไตล์ลาว • แจ่วบอง • ฉู่ฉี4ปลาหลวงพระบาง • ข้าวเหนียวมะม่วง

ก่อนจะลงมือทาน ทางพนักงานจะมีพิธีล้างมือด้วยน้ำลอยดอกไม้ด้วยฮะ

ส่วนใครไม่อยากทานแบบบุฟเฟ่ต์ ทางห้องอาหารก็มีแบบเซ็ตขันโตกให้ฮะ เมนูก็จะมี แจ่วบอง • เลิ่นส้ม • ไส้อั่ว • สลัดหลวงพระบาง • ไก่ผัดเม็ดมะม่วงหิมพาน

ห้องพักจะถูกแบ่งเป็น 2 อาคาร อาคารแรกเป็นเหมือนเรือนรับรองจะเป็นอาคารที่สร้างขึ้นใหม่ตอนที่เปิดโรงแรม จะมีห้องดีลักซ์ 20 ห้อง หน้าตาเหมือนกันหมด แต่วิวต่างกันไปเนอะ

ห้องที่อยู่ในอาคารหลัก จะเป็นห้องพิเศษที่มีขนาดใหญ่กว่าปกติ ซึ่งจะมีอีก 3 ห้อง ห้องกลุ่มนี้ เป็นห้องที่จ้าวสุวรรณภูมิได้เคยอาศัยอยู่จริงๆฮะ ห้องกลุ่มนี้จะเป็นห้องพักระดับสวีทฮะ Maison Suite , Laos Suite and Champa Suite แต่ล่ะห้องก็จะดูแตกต่างกันไป

สำหรับคนที่อยากใส่บาตรข้าวเหนียวที่หน้าโรงแรมเลย (ไม่ต้องเข้าไปในเมืองเพื่อหาที่ใส่บาตร) ทางโรงแรมก็มีจัดชุดใส่บาตรให้นะฮะ ใส่ได้ประมาณ 15 รูป ( มี คชจ เพิ่มเติม สามารถสอบถามกับทางโรงแรมได้ฮะ )

รีวิวคงจะจบที่ตรงนี้นะฮะ ขอบคุณทุกคนมากๆที่ตามอ่านมาถึงตรงนี้ ยอมรับเลยว่า รีวิวนี้ยาวมากๆๆๆๆๆๆ แต่ลุงก็ไม่อยากตัดให้มันสั้นลง เพราะก็มีหลายๆที่เที่ยว ที่เราอยากแนะนำให้เพื่อนๆได้ลองไปกันจริงๆ หวังว่าข้อมูลในรีวิวนี้จะช่วยให้เพื่อนๆได้ไปเที่ยวหลวงพระบางได้สนุกมากขึ้น ขอบคุณนะคร้าบบบบบ

Leave a Reply