`เที่ยวมัลดีฟส์เดือนไหนสวยที่สุด
ช่วงที่มัลดีฟส์สวยสุดจะเหมือนภูเก็ตบ้านเรานี่แหละ จะเป็นช่วง มค-เมษา ฮะแต่ถ้าไม่ได้ช่วงพีค ช่วงไฮ มัลดีฟส์จะสวยมั้ย เอาจริงๆ มัลดีฟส์เป็นหมู่เกาะที่ไม่มีภูเขาเลย ทำให้เวลาฝนตก มักจะผ่านไปได้เร็ว ฝนตกห่านึงไม่เกิน ชม ฮะ ( ถ้าไม่เจอพายุเข้านะ ถ้าเจอพายุเข้าก็ทั้งวันนั้นแหละฮะ)
ทะเลมัลดีฟส์สวยเหมือนกันหมดทุกที่มั้ย
ถ้านับเรื่องน้ำใสอย่างเดียวนะ สวยเหมือนกันแทบทุกที ทุกเกาะเลยฮะ แม้แต่น้ำทะเลที่หน้าสนามบินก็สวยใสตอแหลมากมาย คนที่ที่มัลดีฟส์เคยบอกลุงว่า ที่นี่เขาไม่ได้แข่งเรื่องความใสของน้ำ เพราะทุกทีมันก็ใสเหมือนกันหมด เขาแข่งกันที่บริการ อาหารและความสมบูรณ์ของปะการังฮะ
เที่ยวมัลดีฟส์แพงมั้ย
ในภาพจำของเราอาจมองว่ามัลดีฟส์แพงมาก จับไม่ไหวหรอก แต่พอเอาเข้าจริงๆ ทริปนึง ถ้าเราไปเที่ยวสัก 3 วัน 2 คืน พักรีสอร์ทดีๆหน่อย ที่ไม่ได้นั่งซีเพลน รวมหมดทุกอย่าง ทั้งค่าที่พัก+ อาหารทุกมื้อ+ตั๋วเครื่องบิน(พักห้องติดหาด) น่าจะตกคนล่ะประมาณ 35000 บาท เป็นทริปที่ไปเพื่อพักผ่อนใช้ชีวิตหรูหรามหาเห่าสักครั้งนึง (ไม่ได้ไปใช้ชีวิตเที่ยวลุยๆกินง่ายๆอยู่ง่ายๆเนอะ) ถ้าเราไปรีสอร์ทที่ต้องนั่งซีเพลน จะต้องเพิ่มอีกคนล่ะประมาณหมื่นนิดๆฮะ
ไปมัลดีฟส์จองตั๋วเองหรือไปกับทัวร์ดีกว่า
บอกเลยว่าแล้วแต่เราเลย ถ้าเราจองรีสอร์ทไปเองแบบรวมหมดทุกอย่าง ทางรีสอร์ทก็จะมารอเราตั้งแต่หน้าประตูสนามบินเลย ทุกอย่างสะดวกสบาย ง่ายมากๆๆๆๆๆๆ ไม่ต่างจากทัวร์เลย ยิ่งได้พักรีสอร์ทที่เป็นรีสอร์ทไทยก็จะได้ภาษีดีกว่า รีสอร์ทต่างชาติ เพราะ รีสอร์ทคนไทย อาหารคืออร่อย พนักงานคนไทยก็เยอะ ดูแลสไตล์รีสอร์ทในไทย เราไปเมืองนอกแต่มีคนไทยคอยช่วยเหลือเราในเรื่องต่างๆก็สบายใจ บอกเลยว่า ไม่มีใครจะเข้าใจเราดีเท่าคนในชาติเราเองจริงๆฮะ ทั้งเรื่องกิน และเรื่องอยู่
ป.ล. ไม่ได้หมายนความว่า รีสอร์ทที่ไม่ใช่คนไทยจะไม่ดีนะฮะ แต่เขาไม่ได้เข้าใจเราขนาดนั้น จากที่เคยไปพักรีสอร์ทที่ไม่ใช่คนไทยมา ลุงจะปัญหา 2 เรื่อง คือ รสชาติอาหารที่ไม่ไหวจะเคลียร์จริงๆ และ การบริการที่เขาจะไม่ค่อยเข้าใจความคิดเราสักเท่าไหร่ฮะ
มามัลดีฟส์ครั้งนี้ลุงมาพักที่นี่ฮะ Centara Grand Island Resort & Spa Maldives รีสอร์ทแบรนด์ไทยแท้ ที่มีพนักงานคนไทยมากกว่า `40 ชีวิตอยู่ในรีสอร์ท เรียกว่ามีคนไทยคอยช่วยเหลือซัพพอร์ทเราในทุกแผนกของรีสอร์ทเลย
Centara Grand Island Resort & Spa Maldives เป็นรีสอร์ทขนาดกลางๆฮะ ไม่ใหญ่ ไม่เล็กฮะ ข้อดีของเกาะนี้คือ ค่อนข้างมีพื้นที่หาดค่อนข้างเยอะ และพื้นที่เกาะที่เป็นพื้นที่น้ำตื้นค่อนข้างเยอะด้วย ทำให้แขกที่มาพักไม่รู้สึกอึดอัดเลยเมื่อมาใช้ชีวิตที่หาด ถ้านับหาดทั้งหมด รวมๆน่าจะมีด้วยกันถึง 5-6 หาด แล้วก็สวย บรรยากาศดีทุกหาด เราสามารถพบ ลูกปลาฉลามหูดำได้ทุกหาดและเจอได้แทบทุกเวลา เลยฮะ
ถามว่าลุงประทับใจอะไรมากที่สุดในรีสอร์ทนี้ ที่ชอบมีด้วยกัน 3 เรื่อง 1 ชอบอาหารไทยมาก อร่อยแบบที่ทานที่เมืองไทยเลย มื้อเช้าก็ยังมีอาหารไทยดีๆให้ทานด้วย 2 บริการแบบไทยโดยคนไทยจริงๆ คือเราไปเที่ยวเมืองนอกสิ่งนึงที่ทำให้เราอบอุ่นใจเป็นพิเศษคือการได้ใช้ภาษาไทยคุยกับคนไทยนี่แหละ แฮปปี้มากๆ 3 ปลาสวยๆ เยอะมาก โดยเฉพาะฉลาม ปลากระเบน เจอกันแบบง่ายๆเลย แถมเจอได้ทั้งวันที่หาดเลยฮะ
ส่วนที่รู้สึกว่าไม่ค่อยชอบคือ การจะมารีสอร์ทมีตัวเลือกเดียวที่ต้องนั่งซีเพลนมาเท่านั้นฮะ คือ ซีเพลนมันก็เป็นประสบการณ์ที่ดีมากๆ ถ้ามามัลดีฟส์มันก็ควรนั่งนิ คือมันดีแหละ แต่มันแพง ต้องจ่ายอีกคนล่ะหมื่นกว่าบาทเพื่อเดินทางมารีสอร์ทนี่แหละ ( ถ้าใครไปพักที่ centara ras fushi ก็เดินทางด้วยสปี้ดโบ๊ทได้ฮะ ประหยัดกว่า)
เรามาเริ่มรีวิวจากลอบบี้ของโรงแรมกันก่อนเลยเนอะ ลอบบี้จะอยู่กลางทะเล ถือเป็นพื้นที่ส่วนกลางที่ให้ฟีล วอเตอร์วิลล่า กลางทะเลมากที่สุด
อย่างที่บอกไปว่ารีสอร์ทมีพนักงานคนไทยมากกว่า 40 ชีวิต และมีอยู่ในแทบทุกแผนกและทุกจุด เมื่อมาถึงรีสอร์ทชครั้งแรก เราจะพบกับพนักงานคนไทยมาคอยช่วยเหลือเราอย่างน้อย สอง สามคนฮะ สิ่งนี้คือทำให้เราอุ่นใจเลย ว่าการเช็คอินของเราจะไม่มีปัญหา และจะมีคนคอยช่วยเหลือเราอย่างแน่นอน
เมื่อเช็คอินเสร็จสรรพ พนักงานก็จะพาเราไปที่ห้องพักที่เราจองมา ซึ่งลุงก็ขอเขาไปดูห้องพักมา 4 แบบ ขอเริ่มจาก บีชวิลล่ากันก่อน
เอาจริงๆบีชวิลล่าเป็นห้องพักที่ลุงชอบมากที่สุดนะ เอาจริงๆคนไทยส่วนใหญ่ก็ชอบกันหมดแหละ เพราะรีสอร์ทในไทยไม่ค่อยมีนะที่เดินออกจากห้องแค่แลบลิ้นก็ถึงชายหาดถึงทะเลเลย แต่น่าแปลกพอมามัลดีฟส์ทุกคนพุ่งไปวอเตอร์วิลล่ากันหมด ลืมบีชวิลล่ากันไปเลย
ห้องที่ลุงจะพาไปดูเป็นห้องสำหรับครอบครัวฮะ เป็นห้องที่ดีที่สุดของห้องฝั่งโซนบีชฮะ 2 BR Beach Villa with Private Pool ข้อดีของห้องโซนนี้คือ มีชายหาดให้เดิน มีทรายให้เล่น มีน้ำตื่นๆให้ว่ายน้ำเล่นฮะ (ห้องเริ่มต้นก็จะคล้ายๆแบบนี้ฮะ แค่ไม่มีสระและห้องเล็กลงครึ่งนึง แต่มีสองชั้นเหมือนกันฮะ)
Deluxe Overwater Villa King เป็นห้องพักระดับ `2 ของที่นี่ เป็นห้องสำหรับคนที่ต้องการนอนกลางน้ำ แต่ไม่อยากได้สระส่วนตัว เพราะยังไงก็โดดลงทะเล ไปดำดูปะการังอยู่แล้ว ห้องโซนนี้มีจุดขายที่ดำดูปะการังง่าย แต่ว่ายไปหาดไกลมากๆๆๆๆๆ
Premium Deluxe Sunset Overwater Villa with Pool King ถือเป็นห้องที่ขายดีที่สุดของรีสอร์ท เพราะโดยรวมทุกอย่างลงตัวสุด ขนาดก็กำลังดี วิวก็ดีฮะ ถ้าถามว่ามีสระไว้ทำมั้ย ยังไงก็ลงว่ายที่ทะลอยู่แล้ว เอาจริงเอาไว้ใช้ตอนลงทะเลไม่ได้ฮะ เช่นตอนกลางคืน อะไรแบบนี้ (แต่ส่วนตัวก็ว่าสระไม่ค่อยจำเป็นเลยนะ)
Family Overwater Villa เป็น วอเตอร์วิลล่าสายแฟมิลี่ ฮะ เพราะมีระเบียงไม้กั้นในทุกจุดเพื่อความปลอดภัยของเด็ก (เพื่อนบลุงบอกว่า ไม่เหมือนมัลดีฟส์เลย เหมือนบางปูมากกว่า 55555 ) จุดขายจองห้องนี้คือความใหญ่โตฮะ นอนได้ 4 คนแบบสบายๆ มีสองห้องนอนด้วยฮะ
อาหารเช้าโรงแรมดีมั้ย
ขอออกตัวก่อนเลยฮะว่า ถ้าไปพักรีสอร์ทที่ไม่ใช่แบรนด์ไทย คุณอาจจะไม่เจออาหารเช้าดีๆแบบนี้แน่นอนฮะ ลุงเคยไปมัลดีฟส์มาสามครั้ง พักแบรนด์ไทย 2 ครั้ง บอกเลยว่าอาหารเช้ารีสอร์ทแบรนด์คนไทยดีทั้งสองที่ๆเคยพักมาเลย ส่วนรีสอร์ทแบรนด์โลคอลของมัลดีฟส์ 2 รร ที่เคยพักมาอาหารก็ไม่ได้แย่นะ แค่ไม่อร่อย แล้วก็มีอะไรไม่รู้แปลกๆ กินได้บ้างไม่ได้บ้าง เขาคงเน้นทำให้ฝรั่งที่ไม่ค่อยสนใจในอาหารเช้าทานรึเปล่าน้อ อาหารเช้าของที่นี่จะเสริฟเป็นบุฟเฟ่ต์ที่ห้องอาหาร Reef ฮะ
นอกจากบุฟเฟ่ต์แล้ว ห้องอาหาร Reef ยังเป็นอีกมุมที่เป็นโซนเทปันยากิซ่อนอยู่ด้วย จะเปิดบริการช่วงเย็นๆฮะ
บริเวณห้องอาหาร Reef ถือเป็นศูนย์รวมของกิจกรรมทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น Coral Bar and Lounge ห้องสมุด ห้องสันทนาการกิจกรรมต่าง รวมไปถึง สระว่ายน้ำหลักของรีสอร์ท
ช่วงเย็นๆของทุกวัน จะมีโชว์ใให้อาหารปลาฮะ เด็กๆชอบกันมากๆ ขนาดเราเองเห็นก็ยังอดตื้นเต้นไม่ได้จริงๆ
คิดส์คลับ ก็จะอยู่ในบริเวณโซนนี้ด้วยเช่นกันฮะ
ชายหาดในบริเวณนี้ ช่วงค่ำของบางวันก็จะมีกิจกรรม ดูหนังที่ชายหาดด้วยฮะ
ช่วงที่ไปเป็นช่วงปลายเดือนมกรา เป็นช่วงที่มีแพลงตอนเรืองแสงค่อนข้างจะเยฮะ ทำให้มีโอกาสได้มาเดินดูหลายๆวันติดเลยฮะ สวยมาก
ส่วนอีกกิจกรรมอื่นๆในบริเวณนี้ที่อยากแนะนำ (มี คชจ เพิ่มเติ่มนะ) คือกิจกรรมชมปะการังและปลาด้วยเรือท้องกระจกฮะ ถามว่าปะการังสวยมั้ย ส่วนตัวปะการังคือทั่วไปมาก แต่ปลาเยอะสวยๆแปลกๆเยอะฮะ เด็กๆน่าจะชอบนะ เหมือนสน็อค เกอริ่งแต่หัวไม่เปียกฮะ
ห้องอาหารอื่นๆของรีสอร์ทที่มีบริการ ก็จะมีห้องอาหารอิตาเลี่ยน Azzuri Mare ที่นี่จะเป็นห้องอาหารที่ใกล้ลอบบี้ที่สุด ถ้าจะให้แนะนำ อาหารที่มัลดีฟส์ คิดอะไรไม่ออกสั่งปลาไว้ก่อนฮะ ปลาทูน่าก็ได้ฮะ เพราะปลาที่มัลดีฟส์คือสดมากๆๆๆๆๆ แลัวราคาไม่แพงฮะ เพราะถ้าเป็นอาหารทะลอื่นๆ พวกกุ้ง หอย ปู หรือพวกเนื้อสัตว์บก ราคาจะสูงกว่าเพราะต้องนำเข้าหมดเลยฮะ
Azzuri Mare ถือเป็นห้องอาหารที่ บริการดีมากๆ ให้ฟีล 5 ดาวสุดๆ
ห้องอาหารสวนบัว ถือเป็นห้องอาหารที่ลุงชอบมากสุด เป็นห้องอาหารไทยในต่างแดนที่รสชาติไทยแท้ ออริจินอลเลย ทั้งน้ำพริก ทั้งต้มยำ รสชาติเหมือนเราทานสวนอาหารสมัยเด็กๆ บริการที่นี่จะเป็นฟีลบริการแบบไทยฮะ ถามว่าลุุงชอบเมนูไหนสุด ขอแนะนำเป็น ปลาทอดยำมะม่วง ฮะ อร่อยมากๆ เชฟหลักที่ดูอาหารที่นี่ก็เป็นเชฟคนไทยด้วยฮะ
ห้องอาหาร เดอะคลับ เป็นห้องอาหารพิเศษ ที่จ่ายเงินทีเดียว จะได้ทาน 4-5 มื้อ เรียกว่าเหมาอาหารทั้งวันจะเหมาะกว่า ฟีลคล้ายๆห้องคลับตามโรงแรมไทย แต่จะได้มื้อกลางวัน และ มื้อเย็นมาด้วยฮะ
อาหารเช้าที่นี่จะเน้นเสริฟแบบบุฟเฟ่ต์อลาคาร์ตฮะ
อาหารมื้ออื่นๆก็จะเป็นเซ็ตเมนูให้เราเลือก ส่วนใหญ่เป็นอาหารอิตาเลี่ยน แต่ถ้าใครอยากเปลี่ยนเป็นอาหารไทย ก็สามารถรีเควสได้เช่นกันฮะ
นอกจากอาหารแล้ว ก็จะมีพื้นที่ส่วนพิเศษและสระว่ายน้ำพิเศษให้แขกที่มาใช้บริการได้ใช้แยกจากแขกทั่วไปฮะ
ปิดท้ายเรื่องในรีสอร์ทกันที่ สปา ถามว่าสปาเมืองนอกดีมั้ย เอาจริงๆส่วนตัวไม่ค่อยคาดหวังกับสปาเมืองนอกนะ คือมันนวดได้ไม่ค่อยเหมือนที่เมืองไทยหรอก แต่ที่นี่ไม่ใช่ ที่นี่คือนวดดีมากๆๆ นวดดีแบบไม่ต่างจากที่เมืองไทยเลย อาจด้วยพนักงานที่สปามีคนไทยอยู่เกินครึ่ง แถมก็คัดพิเศษมากันมาจากเมืองไทยเลยฮะ ทั้งบริการ ฝีมือนวด และ บรรยากาศ ดีเหมือนสปา 5 ดาว ที่เมืองไทยเลย แฮปปี้เลย
ปิดท้ายรีวิวนี้ ที่เรื่องการเดินทาง มารีสอร์ทเนอะ และแน่นอนว่า Centara Grand Island Resort & Spa Maldives เดินทางมาด้วยซีเพลนเท่านั้นฮะ ที่นี่ห่างจากเกาหลักประมาณ 30 นาที จะมีคชจเพิ่มประมาณคนล่ะหมื่นนิดๆฮะ
ถามว่าซีเพลนดีมั้ย มันได้อีกบรรยากาศที่เราไม่ค่อยจะได้เจอฮะ ประสบการณ์แปลกใหม่ ถ้ามีโอกาสได้นั่งสักครั้งก็ถือว่าโอเคนะ ถ้าเราจองซีเพลนกับทางรีสอร์ท ถ้าเวลายังพอมีก่อนขึ้นเครื่อง เขาจะพาเราไปใช้บริการห้องรับรองของซีเพลนก่อนเดินทางด้วยฮะ อาหารคือทั่วไปฮะ แต่เครื่องดื่มเยอะใช้ได้
ปิดท้ายที่สายการบินที่ลุงเดินทางจาก กทม มา มัลดีฟส์ ลุงเดินทางมากับแอร์เอเซียฮะ ค่าเสียหายไปกลับ ตกประมาณ 11000 บาท ต่อคนฮะ ตอนแรกก็คิดจะจองบางกอกฯนะ แต่ราคาเกือบสองหมื่นสู้ไม่ไหวเด้อ
