Komagatake Ropeway สถานีโรฟเวย์ที่สูงและยาวที่สุดในญี่ปุ่น
ขึ้นชื่อว่ากระเช้าลอยฟ้า ลุงเชื่อว่าคนไทยเราต้องชอบมากแน่ๆ เพราะเอาจริงๆบ้านเราก็ไม่ได้มีอะไรแบบนี้เนอะ ไปเที่ยวต่างประเทศทั้งทีก็อยากจะขึ้นสักครั้งนี่แหละ ยิ่งวิวสวยๆ ยิ่งขึ้นไปเจอหิมะด้วยแล้ว ยิ่งฟินแนอะ งั้นวันนี้ลุงพามาเที่ยว กระเช้าลอยฟ้า Komagatake สถานีโรฟเวย์ที่สูงที่สุดในญี่ปุ่น
ทำเลที่ตั้ง Komagatake Ropeway ตั้งอยู่ในภูมิภาคชูบุ ( ลงสนามบินนาโกย่าฮะ) อยู่ใกล้ๆเมืองมัตสึโมะโตะ จังหวัดนะงะโนะ นั้นเอง อยู่ห่างจากเมือง มัตสึโมะโตะ ประมาณ 85 กม
จุดเด่น Komagatake Ropeway สร้างขึ้นบนยอดเขา Senjojikiของภูเขา Hokendake (สูง 2,931 เมตร) ในเซ็นทรัลแอลป์ของประเทศญี่ปุ่น ตามสถิติแล้วที่นี่ถือเป็นกระเช้าลอยฟ้าที่ยาวที่สุดในประเทศญี่ปุ่น (950 เมตร) และ ยังเป็นสถานี Ropeway ที่สูงที่สุดของญี่ปุ่น (2,612 เมตร) อีกด้วย
วิวจากสถานีปลายทาง Senjojiki เราจะเห็นเทือกเขาแอลป์ใต้ และยอดภูเขาไฟ Fuji จากตรงนี้ได้ด้วยฮะ
นอกจากวิวที่สวยงามและไม่เหมือนใครแล้ว บนสถานีปลายทาง Senjojiki ก็จะมี คาเฟ่ ร้านอาหาร และ โรงแรมด้วยฮะ ( แปลกใจล่ะซิที่มีโรงแรมด้วย เอาจริงๆคนที่มานอนที่นี่เขามาเพื่อดูดาวกันฮะ การดูดาวเรียกว่าเป็นไฮไลท์ของที่นี่ก็ได้ คนที่นั้นบอกว่า บริเวณพื้นที่แถวๆนี้ เเป็นจุดที่ดูดาวสวยไม่แพ้ที่ไหนๆในญี่ปุ่นเลยฮะ ไม่รู้โม้ป่าวเน้อ)
ส่วนวิวจากคาเฟ่ 2612 (ชื่ออย่างกับสูตรคูณ จริงๆแล้วเขาเอาความสูงของสถานีมาตั้งชื่อฮะ) ก็สวยงามมากจริงๆนั้นแหละ น่าจะเรียกว่าอยู่ในจุดที่วิวสวยที่สุดก็ได้ พนักงานที่นั้นบอกว่า ไฮไลท์ของคาเฟ่ไม่ได้อยู่ที่วิวอย่างเดียว แต่กาแฟที่นี่ก็อร่อยแบบคุณจะแปลกใจทีเดียวเพราะ เขาใช้หิมะจากบนยอดเขามาต้มกาแฟฮะ
หลังจากที่ชิมมา ชิมแบบ อเมริกาโน่ กาแฟดำธรรมดานี่แหละ สรุปว่า หอม อร่อยจริง ไม่ได้โม้เว้ย ไม่เปรี้ยว ไม่ขมเลย เป็นกาแฟที่อร่อยมากจริงๆ (ส่วนห้องอาหารวิวไม่สวยฮะ หันหน้าเข้าภูเขา วิวตันๆ ผ่านไปเนอะ 55555)
ส่วนบรรยากาศรอบนอกจะเป็นแบบนี้ฮะ เราสามารถเดินออกไปดูบรรยากาศได้ เห็นว่ามีเส้นทางเดินแทรคกิ้งด้วยนะ
วิธีการเดินทาง เราสามารถใช้ บัตรรถบัสเหมาจ่าย Shoryudo Highway Bus Pass มาได้ฮะ บัตรราคาเริ่มต้น 7000 เยน ก็สามารถมาถึงได้เช่นเดียวกัน โดยเริ่มจาก เมือง มัตสึโมะโตะ นั่งรถบัสมาลงที่เมือง Komagane (ใช้เวลาประมาณ 2 ชม) จากนั้นก็ต่อรถบัสมาลงที่ Komagatake Ropeway (ใช้เวลาประมาณ 1 ชม) โดยทั้งหมดนี้เราไม่ต้องจ่ายอะไรเพิ่มแล้วฮะ วิธีกลับก็กลับทางเส้นทางเดิมนี่แหละฮะ แต่ดูตารางเวลากลับนิดนึงเน้อ เพราะดูเหมือนว่ารถบัสน่าจะมีแค่ชั่วโมงล่ะคันเท่านั้น
เมื่อมาถึงสถานี Ropeway เราสามารถนำบัตร Shoryudo Highway Bus Pass มายื่นตรงที่ขายตั๋วเพื่อรับส่วนลด 20% จากราคาตั๋วขึ้น Ropeway ได้ด้วยฮะ (ราคาตั๋วเต็มๆไปกลับคือ 2540 เยน สำหรับผู้ใหญ่ และ1260 เยนสำหรับเด็ก)
แล้วเราจะไปเมือง มัตสึโมะโตะ ได้ยังไงล่ะ
แน่นนอนว่าบัตร Shoryudo Highway Bus Pass ราคาเริ่มต้น 7000 เยน ก็สามารถนั่งรถบัสจากเมืองนาโกย่ามายังเมืองมัตสึโมะโตะ ได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมเช่นกัน ว่าแต่เมืองมัตสึโมะโตะมีอะไรน่าสนใจบ้างน้อ ไหนๆก็มาแล้วก็ต้องเที่ยวเมืองนี้กันหน่อยเนอะ
ปราสาทมัตสึโมะโตะ
ถ้าเป็นในตัวเมืองมัตสึโมะโตะเลย คงหนีไม่พ้น ปราสาทมัตสึโมะโตะ นี่แหละ ที่นี่ถือเป็น 1 ใน 5 ปราสาทโบราณที่เป็นมรดกของชาติ ปราสาทมัตสึโมะโตะหรือปราสาทอีกาดำ ถือว่าเป็นปราสาทที่มีความสำคัญต่อการเรียนรู้ประวัติศาสตร์ของญี่ปุ่นอย่างมาก เพราะนอกจากจะเป็นปราสาทที่เก่าแก่ที่สุดของประเทศญี่ปุ่นแล้วปราสาทนี้ยังผ่านการรบ การสงครามมาจริงๆมาด้วยฮะ
ถนนนาวาเตะ หรือ ถนนกบ
ถนนเส้นนี้อยู่ไม่ไกลจากปราสาทเลยฮะ ถือเป็นจุดท่องเที่ยวอีกทีที่น่าสนใจ บริเวณถนนจะมีร้านขายของมากมาย ไม่ว่าจะเป็นร้านขายของที่ระลึก ร้านอาหาร ร้านขายของเก่า ร้านขายขนม ถ้าสังเกตกันจะเห็นว่าถนนเส้นนี้จะมีศาลเจ้ากบและหินแกะสลักรูปกบตั้งอยู่มากมาย เพราะว่าในสมัยก่อนเวลาชาวบ้านเดินผ่านถนนเส้นนี้จะได้ยินเสียงร้องของกบร้องดังกังวาลมาจากแม่น้ำ(ข้างๆถนนนี่แหละ) แม่น้ำข้างๆนี้จึงถูกตั้งชื่อว่า “คาเอะรุ” (กบ) ซึ่งพ้องเสียงกับคำว่า “คาเอะรุ” ในภาษาญี่ปุ่น ที่แปลว่ากลับบ้าน กบจึงสื่อความหมายถึงการเดินทางกลับบ้านอย่างปลอดภัย นั้นเอง
สวิสแลนด์แดนญี่ปุ่น คามิโคจิ
ส่วนที่เที่ยวรอบนอกเมืองมัตสึโมะโตะ เอาที่มีชื่อเสียงในหมู่คนไทยมากที่สุดตอนนี้ ก็จะคงหนีไม่พ้นที่นี่ฮะ Kamikochi คนไทยต่างเรียกที่นี่กันว่า สวิสแลนด์ญี่ปุ่น น่าเสียดาย Shoryudo Highway Bus Pass ราคาเริ่มต้น 7000 เยน สามารถเดินทางมาได้ถึงแค่ตัวเมือง มัตสึโมะโตะ เท่านั้น ถ้าเราอยากจะไปเที่ยว Kamikochi เราสามารถซื้อตั๋วรสบัสไปเที่ยวแบบไปเช้าเย็นกลับเพิ่มเติมได้ฮะจากสถานีรถบัส