นึกถึงหลวงพระบาง เพื่อนๆนึกถึงอะไรกันฮะ ลุงอยากบอกว่าเมืองท่องเที่ยวทำเงินอันดับ 1 ของ สปป ลาว มีดีหลายอย่างจนเพื่อนๆจะไม่เชื่อทีเดียวล่ะ ลุงเชื่อว่าหากใครหลายๆคนได้มีโอกาสไปเยือนเมืองนี้สักครั้ง ก็น่าจะต้องตกหลุมหลงรักเมืองนี้อย่างแน่นอน
หลวงพระบางขึ้นชื่อในเรื่องที่สุดแห่งความสโลว์ไลฟ์ เรียกว่าเป็นตัวพ่อ ตัวแม่ของความสโลว์ไลฟ์ ก็ไม่น่าจะผิด เรามาทำความรู้จักกับเมืองนี้ให้มากกว่านี้กันดีกว่า เมืองมรดกโลกที่มีชื่อว่า…หลวงพระบาง
จากแผนที่หลวงพระบาง เป็นเมืองขนาดเล็กๆ ไม่ใหญ่โตอะไรมากมาย ใช้เวลาเที่ยวครึ่งวันก็น่าจะเอาอยู่นะ ถนนเส้นหลักมีแค่เส้นเดียวเท่านั้นเอง บ้านเมืองส่วนใหญ่เป็นบ้านเมืองสไตล์ฝรั่งเศสแค่ 2 ชั้น เหมือนเมื่อร้อยปีก่อน เพราะเมืองนี้เคยถูกยึดครองด้วยฝรั่งเศสมาก่อน
แลกเงินยังไงดี เขาพูดภาษาไทยได้มั้ย
เราสามารถใช้เงินบาทเราได้เลยฮะ แนะนำว่าให้แลกเป็นแบงค์ 20 50 บาทไปจะสะดวกกว่า ตอนนี้ 1 หมื่นกีบ เท่ากับประมาณ 20 บาท ถ้าไม่คิดจะใช้เยอะก็ไม่ต้องแลกจะดีกว่าฮะ ใช้เงินไทยคุ้มกว่า ส่วนภาษาที่ใช้ ภาษาไทยเลยฮะ คนที่โน่น 100 ล่ะ 90 ภาษาไทยดีมาก 10% ที่เหลือ ภาษาไทยดีปานกลาง สรุป ทุกคน พูดภาษาไทยได้จ้า
ลุงเคยไปหลวงพระบางมาหลายรอบ ถามว่ามีอะไรห้ามพลาดบ้างน้อ
1 ตำหลวงพระบางร้านป้าติ๋ม ตำหลวงพระบาง คือเมนูที่สุดของป้าติ๋มจริงๆนะ ราคาลุงจำแน่นอนไม่ได้ แต่น่าจะจานล่ะ 25000 กีบ มั้ยน้อ เมนูกระดูกหมูทอด แหนมทอดก็อร่อย ส้มตำที่นี่เขาจะใส่กะปิ แป้งนัว และ ปลาร้า (สูตรของหลวงพระบาง กลิ่นไม่แรงเหมือนบ้านเรา)
ทำเลที่ตั้ง อยู่หน้าวัด หนองศรีคูณเมือง กลางเมืองเลย
2 เดินเล่นชมเมืองถ่ายรูปเล่นหลวงพระบาง
เอาจริงๆในเมืองไม่ค่อยมีอะไรนะ ไปมาหลายรอบ ก็แทบไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไป เหมือนเวลาของเมืองนี้มันโดนหยุดไว้ แหล่งช้อปปิ้งจริงๆจังๆก็ไม่ค่อยมี มีงานสินค้างานศิลปะบ้างนิดๆหน่อย
3 วัดเชียงทอง
สำหรับลุงแล้ว ถ้ามาครั้งแรก ก็ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวงฮะ วัดเชียงทองขึ้นชื่อเรื่องสถาปัตยกรรมที่ประดับด้วยกระจกสีรอบอุโบสถฮะ เรียกว่าไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง มีค่าเข้าประมาณ 20000 กีบ
มุมที่ไม่ควรพลาดเลยคือมุมนี้ ถือเป็นมุมบังคับ ไปแล้วต้องก็หาให้เจอแล้วก็ต้องถ่ายด้วย บอกเลยว่าใครถ่ายก็สวย ก็ดูดีหมดจริงๆนะ
ตลาดมืด – ตลาดเช้า หลวงพระบาง
ตลาดมืด เป็นถนนคนเดินหลวงพระบางแต่เปิดทุกเย็นเลยฮะ เป็นแหล่งชอปปิ้งกลางเมือง ที่ใหญ่ที่สุด สินค้าส่วนใหญ่ก็ขายเสื้อผ้า งานอาร์ท สินค้าพื้นบ้าน(เหรอ) เอาตรงๆนะ ลุงแอบคิดว่าเดินถนนคนเดินเชียงใหม่จะดูมีอะไรกว่ารึเปล่าน้อ เห็นของที่ขายเห็นแล้วก็แอบซ้ำไปซ้ำมา ดูเป็นสินค้ามาจากไทย เหมือนสิค้าโบเบ้ยังไงก็ไม่รู้ นิ
ตลาดเช้า ก็คือ….ตลาดสด ก็ตลาดสดปกติเหมือนบ้านเรานั้นแหละฮะ อะไรที่ตลาดสดบ้านเรามีที่นี่ก็มีอย่างนั้นฮะ เพียงแต่จะมีอาหารที่แปลกๆไปบ้าง ลองไปเดินดูหน่อยก็โอเคนะ ไปดูบ้านเมืองเขากิน เขาขายอะไรกันตอนเช้าๆ ก็สนุกดีฮะ
พระธาตุพูสี
พระธาตุพูสีอยู่กลางเมืองเลยฮะ อยู่ตรงข้ามพิพิธภัณฑ์หลวงพระบาง จุดนี้ถือเป็นจุดชมวิวของเมืองหลวงพระบางฮะ มีค่าขึ้นที่ประมาณ 25000 กีบ คนสูงอายุ อาจเที่ยวที่นี่ลำบากหน่อยนะ มีทางเดินขึ้นเขาอย่างเดียว แถมบันไดเยอะมากๆๆ คุ้มมั้ยที่จะขึ้นไป บอกตรงๆตัวพระธาตุอาจไม่สวยเท่าไหร่ แต่วิวและจุดถ่ายรูปก็ไม่อยากให้พลาดกัน เวลาที่เหมาะที่สุดคือตอนพระอาทิตย์ตกดินฮะ ซึ่งคนเยอะมาก ไปชมวิวช่วงพระอาทิตย์ตกดินสวยสุดจริงๆฮะ แต่ถ้าใครไม่ชอบคนเยอะๆ ได้โปรดหลีกเลี่ยงตอนพระอาทิตย์ตกดินนะจ้า
ชมพระอาทิตย์ตกริมน้ำโขง
ลุงแนะนำว่าประมาณ 17.30-18.00 น เตรียมตัวไปเดินชมพระอาทิตย์ตกริมน้ำโขงกันฮะ จุดที่ลุงไปชม จะเป็นท่าเรือที่อยู่หลังพิพิธภัณฑ์พอดิบพอดีเลย บรรยากาศดีไม่แพ้พระอาทิตย์ตกบนพระธาตุพูสีเลย
ตาด(น้ำตก)กวางสี
อันนี้ก็ไม่อยากให้พลาด แต่มันออกจากตัวเมืองไป 45 นาที วิธีไป ไม่เหมารถไปก็ต้องซื้อทัวร์ฮะ เช่ารถขับไปเองก็ได้นะ แต่ทางมันจะแปลกๆหน่อย ใช้เวลาเที่ยวครึ่งวันก็กลับแล้วล่ะฮะ บอกเลยว่าคุ้มค่ามากที่จะไป สวยจริงไม่จกตาฮะ ตรงน้ำตกนี้มีจุดเล่นน้ำด้วยนะฮะ เอาชุดไปเล่นน้ำได้
ใส่บาตรข้าวเหนียว
เขาจะเริ่มใส่บาตรกันประมาณ 6 โมงเช้า แอบไม่อยากให้ไปคาดหวังเรื่องความจะสวยงามความเป็นจริง แอบดู รวดเร็ว ฉุกละหุก วุ่นวายนิดๆ และก็แปลกๆดีฮะ ถือเป็นประสบการณ์ที่แปลกใหม่ดี ค่อนข้างต่าง กับการใส่บาตรที่ไทยที่ดูสบายๆไม่เร่งรีบ
มาถึงที่พักกันบ้าง มาคราวนี้ลุงมาพักที่โรงแรมนี้ฮะ โรงแรมหรูหราติดอับดับต้นๆของเมืองหลวงพระบาง rosewood luang prabang
Rosewood คืออะไร โรงแรมกี่ดาวเนี้ยะ ไม่เห็นรู้จักเลย
Rosewood คือรีสอร์ทโครตหรูจากอเมริกา ฐานะสูงส่งราชนิกูลเทียบเท่า four season และ mandarin oriental มีจุดขายเรื่องการสัมผัสการพักผ่อนเหนือระดับที่แตกต่าง โดยจะเน้นที่เรื่องบริการเป็นพระเอก
ถ้าถามลุงว่า Rosewood ใกล้เคียงโรงแรมไหนมากที่สุด คำตอบน่าจะมีโรงแรมเดียวคือ four season เท่านั้น เพราะ Rosewood เน้นเรื่องสัมผัสความเป็นโลคอล ธรรมชาติ และการบริการเหนือระดับเป็นหลัก ไม่ต่างจาก four season ที่เห็นจะต่างแบบเห็นได้ชัดๆคือ ตัวโรงแรมของ Rosewood เป็นดีไซด์โฮเทลมากกว่า four season นั้นเอง
Rosewood luang prabang เป็นโรงแรมขนาดเล็ก มีแค่ 20 กว่าห้องเองฮะ ถึงจะเป็นโรงแรมแค่ 20กว่าห้องแต่โรงแรมนี้ใช้คนออกแบบระดับโลกอย่าง bill bensley ใครที่อยู่ในวงการโรงแรมจะรู้ว่า คนนี้ตัวท๊อปเลย ค่าตัวแพงมว้ากกกกกกกก แพงแบบไม่ธรรมดา
Rosewood luang prabang ถูกวางคอนเซ็ปให้เป็นบ้านพักตากอากาศของผู้มีอันจะกินท่ามกลางธรรมชาติที่งดงาม ร่วมถึงยังมีห้องพักประเภทลักซูรี่เต็นท์แคมป์ ที่เดียว ในหลวงพระบางด้วยฮะ เราไปดูบรรยากาศ โดยรวม ของโรงแรมกันดีกว่าฮะ
ที่นี่ใช้การออกแบบสไตล์โคโรเนียลของหลวงพระบาง + ศิลปะวัฒนธรรมพื้นบ้าน + จินตการสุดล้ำของพี่ bill แกฮะ ทุกอย่างรวมกันแล้วก็ระเบิดตู้มมาเป็นโกโก้ครั้นช์ เอ้ย!!! Rosewood luang prabang ด้วยคอนเซ็ปบ้านพักตากอากาศทำให้พื้นที่ลอบบี้มีขนาดเล็ก และ รวมไปกับห้องอาหารของที่นี่ฮะ
สระว่ายน้ำมีขนาดไม่ใหญ่มากฮะ โดยรวมถือเป็นจุดเป้าสายตาของส่วนรวมไปสักนิด แอบดูไม่ค่อยไพรเวทสักเท่าไหร่
ข้อดีที่เป็นข้อหลักเลย นอกจากพี่บิลจะออกแบบให้แล้ว ที่นี่ยังมีน้ำตกธรรมชาติเป็นของตัวเอง ไหลผ่านกลางรีสอร์ทด้วย ทำให้ที่นี่เป็นรีสอร์ทที่ไม่เหมือนใคร และไม่มีใครเหมือนฮะ
พื้นที่ลอบบี้กับห้องอาหารหลักของโรงแรมใช้ร่วมกันฮะ เช้าสาย บ่าย เย็น เราสามารถทานอาหารได้ที่นี่ฮะ
เรามาพูดถึงอาหารเช้ากันก่อนล่ะกันเนอะ เนื่องด้วยเป็นรีสอร์ทขนาดเล็ก อาหารเช้าจึงเสริฟเป็นอลาคาร์ตบุฟเฟ่ต์เท่านั้น
ความคิดเห็นส่วนตัว โดยรวม อาหารฝรั่งที่นี่อร่อยกว่าอาหารลาวนะฮะ ใครจะสั่งสิ่งใดยึดอาหารฝรั่งเป็นหลักเน้อ เชื่อลุงนะแล้วจะดีเอง 55555
อาหารเช้าเสริฟที่ห้องเลยได้มั้ย ฟรีป่าว
ธรรมดามีค่าใช้จ่ายนะฮะ แต่ แขกที่มาในโอกาสพิเศษ เช่น ฉลองครบรอบแต่งงาน ขอแต่งงาน วันเกิด หรืออื่นๆที่พิเศษๆ แขกสามารถขอเสริฟอาหารเช้าที่ห้องพักได้ฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายฮะ แต่ต้องรีเควสล่วงหน้าเน้อ ถ้าใครไปในช่วงโอกาสพิเศษ ลุงแนะนำให้ลองรีเควสมาทานทีห้องเลยฮะ ใครพักห้อง Hilltop Tent ก็จะได้ทานอาหารเช้ากับวิวสวยๆไปด้วย อันนี้ถือว่าดีงามมากกกกกก
พูดถึงห้อง Hilltop Tent ลุงขอพูดถึงห้องนี้เลยล่ะกัน เพราะถ้าถามว่าห้องพักแบบไหนที่เป็นซิกเนเจอร์ของที่นี่ Hilltop Tent นี่แหละฮะที่เป็นหน้าเป็นตาให้ที่นี่เพราะ เป็นรีสอร์ทเดียวในหลวงพระบางที่มีห้องพักประเภท Luxury Tent Camp
Hilltop Tent (75 ตรม) ถือเป็นห้องที่แพงสุดของที่นี่ จุดขายหลักคือ วิวสวยมาก พื้นที่ใช้สอย กว้างขวางใหญ่พอๆกับห้องระดับพูลวิลล่าเลย อุปกรณ์เครื่องใช้ทันสมัยมีให้ครบครัน แอร์ ตู้เย้น โทรศัพท์ wifi เรียกว่าไม่ลำบากเลยฮะ หรูหรามากจริงๆ ถ้ามีโอกาส งบพอจะถึงก็ควรมาลองสัมผัสประสบการณ์แบบนี้สักครั้งนึง
คำเตือน ห้องพักส่วนใหญ่ถึงจะเป็นประเภทเดียวกัน สีของห้องพักจะไม่ค่อยเหมือนกันฮะ โดยส่วนตัวลุงชอบห้องสีฟ้าน้ำทะเลนี่แหละ ลุงว่าเซฟสุด สวยทุกห้อง ทุกระดับ ใครจะพักรีเควสสีนี้ไว้ก่อนฮะ แล้วค่อยไปขอดูหน้างานอีกทีว่าจะเปลี่ยนสีอื่นมั้ยถ้าห้องว่าง
ตามคอนเซ็ปของโรสวู้ด แขกทุกคนสามารถเป็นบาเทนเดอร์ได้ ในห้องพักจึงมีอุปกรณ์ และส่วนผสมของค๊อกเทลมากมายตั้งให้อยู่ ซึ่งแน่นอนไม่ฟรีฮะ ที่ฟรีจะเป็น ชา กาแฟ น้ำผลไม้ น้ำอัดลม ขนมทานเล่นในขวดโหล 3 ใบให้ฮะ
อเมนนิตี้ ตัวที่เป็นแชมพู สบู่เหลวน่าจะเป็นของแบรนด์ ดูไม่น่าสนใจเท่าไหร่ แต่ตัวนี้น่าสนใจกว่ามาก และเป็นสบู่ก้อนอัญชัญสินค้าสปาของทางลาวฮะ ใช้แล้วดี๊ดี ปลื้มมมมมม
แขกผู้เข้าพักทุกคนจะได้รับหมวกฟรีนะเป็นของขวัญ ทางโรสวู้ดมอบให้แขกทุกคน จะใส่ไว้ในตู้เสื้อผ้า หยิบมาใช้แล้วเอากลับบ้านได้ด้วยฮะ ไม่ต้องคืนนะ ระหว่างเข้าพัก ช่วงเทิร์นดาวน์ก็จะมีขนมมาเสริฟมีของขวัญเล็กๆมาเซอร์ไพร์ด้วย อย่างเคสของลุงเขาเห็นว่าเป็นตากล้องมีถือกล้องทั้งวัน เขาก็เอาผ้าเช็ดเลนส์มาวางให้เป็นของขวัญก่อนนอน น่ารักมากเรื่องนี้ ใส่ใจรายละเอียดจริงๆ
ข้อเสียมีมั้ย Tent Camp เนี้ยะ เอาตรงๆเลยเนอะถึงจะหรูหรา ไฮโซยังไงก็มีข้อจำกัดไม่เหมือนห้องพักในอาคารหรอกฮะ ยกตัวอย่าง ผนังห้องเป็นผ้าใบ ไม่อาจเก็บเสียงใดๆเลย และด้วยความที่เป็น Tent Camp วิวมุมสูง ทำให้ตัวห้องพักอยู่สูงขึ้นไปประมาณนึง การเดินทางไปห้องพัก สามารถไปด้วยวิธีการเดินเท่านั้น ใช้เวลาเดินจากลอบบี้เดินขึ้นเขาไปประมาณ 7 นาทีฮะ (ใครมีปัญหาเรื่องไขข้อ เข่า ไม่แนะนำห้องนี้ฮะ )
ป.ล.ภาพทางเดินขึ้นห้องพักระดับ Tent Camp
Water Fall Pool (75 ตรม) ใครอยากใกล้ชิดน้ำตกต้องพักห้องนี้ฮะ
ส่วนตัวชอบห้องนี้นะ ธรรมชาติมาก มากสุดๆ หน้าหนาวคงชื่นใจมาก แนะนำห้องสีฟ้าๆเขียวๆเท่านั้น ลุงเห็นห้องสีขาวไม้ไผ่สานแล้วบอกเลยไม่โดนใจอย่างแรง ย้ำ แนะนำ สีฟ้าๆเขียวๆ นะฮะ
ข้อเสียคือ ห้องนี้มีขนาดเล็กไปสักนิดนะ เพราะพื้นที่ส่วนใหญ่เอาไปทำระเบียงกับสระหมด เลยทำให้ห้องนอนเหลือเล็กนิดเดียว
ห้องพักในตึกจะมีอยู่ 2 แบบ ฮะคือ ห้องแบบ Riverside และแบบ Suite โดยจะแบ่งเป็นชั้นบนและชั้นล่าง ความต่างคือชั้นล่างใกล้น้ำตกกว่าฮะ
ที่ตึกนี้จะมีห้องรับแขกอยู่ 2 ห้องฮะ แขกทุกคนสามารถมาใช้บริการที่นี่ได้ฮะ
Suite (91 ตรม) ห้องนี้เป็นห้องที่ใหญ่ที่สุดของโรงแรมฮะ เพราะมันคือ 2 ห้อง Riverside รวม เป็น 1 ห้องฮะ โดยจะแบ่งห้องนึงเป็นห้องนอนและห้องน้ำ อีกห้องเป็นห้องทานอาหารและห้องนั่งเล่น ห้องสวีทถือเป็นอีกห้องที่การตกแต่งสวยงามไม่แพ้ห้องไหนเลย อย่างที่บอก รีเควสสีฟ้าเขียวเนอะสวยมากกกกก ลุงเคยเห็นห้องสีเหลืองแล้วแอบสว่างไปนิด สีนี้สวยกว่า
อย่างที่บอกไปห้องพักมีหลายสี แนะนำแอบรีเควสสีไปก่อนเนอะ อันนี้ห้องสีดำ มันก็สวยไปอีกแบบ แต่ลุงว่าสีฟ้าสวยกว่ามั้ยอ่ะ หรือเพื่อนๆว่าไง
ห้องเริ่มต้น Riverside ขนาดเล็กมาก เมื่อเทียบกับราคาที่จ่ายไป ห้องมีขนาดแค่ 48 ตรมเอง ห้องนี้ลุงไม่แนะนำเนอะ ถ้ามาพักแล้วแนะนำว่าพักสวีทขึ้นไปเลยจะดีกว่า มาแล้วก็อยากให้ประทับใจ
Villa (67 ตรม) เป็นห้องที่ใกล้ส่วนกลางมากที่สุด ใครขี้เกียจเดินต้องห้องนี้ฮะ ถามว่าสวยมั้ย ส่วนตัวลุงก็ชอบนะ ห้องนี้โทนสีสว่างสบายตา ลุงเคยเห็นแต่สีนี้แบบเดียว ห้องนี้เป็นวิลล่า 3 อยู่ติดกับ Elephant Bar ฮะ
Elephant Bar
เพิ่งได้รับการปรับปรุงใหม่ ทำตาข่ายนอนกลางลำธารเก๋กู้ดมากกกกกกก แนะนำว่าใครมาหลวงพระบาง แวะมาถ่ายรูปเช็คอินชิลล์ๆกันได้นะ อาหารเครื่องดื่มราคาไม่แพง เริ่มต้นประมาณ 250 บาท++
The Great House ห้องอาหารส่วนกลาง ของที่นี่ พาชมบางส่วนไปแล้ว อันนี้เป็นแบบภายในอาคาร เช้าสายบ่ายเย็น หาทานที่นี่ฮะ ที่นี่รับแขกนอกด้วยนะ อย่างที่บอกไปส่วนตัวลุงว่าที่นี่ทำอาหารฝรั่งอร่อยกว่าอาหารลาว แนะนำสั่งอาหารฝรั่งแนอะ
อันนี้อาหารลาวที่ทานมา ( ย้ำอีกที อาหารเครื่องดื่มราคาไม่แพง เริ่มต้นประมาณ 250 บาท++ รับแขกนอกด้วยจ้า)
หร่อนส้ม รสชาติเหมือนเย็นตาโฟหมูผสมกับแกงกะทิใส่ไข่ปลา รสแปลกๆ งงๆ ไม่ใช่ไม่อร่อยนะ แต่ไม่เคยกิน ไม่ค่อยถูกจริต แหะๆๆ
ปิ้งปลา เป็นปลาแม่น้ำที่ทาเครื่องเทศประเภทสมุนไพร แล้วเอาไปย่างกับไฟฮะ เสริฟมาไม่มีน้ำจิ้มให้เสียใจ แต่ปลาสดมากนะ อร่อย
ตำหลวงพระบาง เออ…..ของป้าติ๋มอร่อยกว่าอ่ะ แหะๆๆๆ
ข้าวตังลาว (อามูส บุช ของว่างแจกฟรี) ทานกับซอสมะเขือเทศโฮมเมดอร่อยดีอันนี้
ปอเปี๊ยะทอด เมนูนี้เหมือนอาหารเวียดนามเลย อร่อยฮะ สั่งได้เลย เป็นไส้ผัก วุ้นเส้นนะ
สเต็กเนื้อ อร่อยมากฮะ ไม่มีอะไรติ แต่….มีดที่หั่นสเต็กนี่แบบว่า เห็นแล้วนึกถึงมีดหมอผีเลย ดีไม่มียันต์เขียนที่มีดด้วย หรือว่าเนื้อฟันแทงไม่เข้า เลยต้องใช้มีดหมอมาให้หั่นแทน 55555
สุดท้ายล่ะ Sense Spa ใครจะใช้บริการสปา ก็มาเป็นแบบเต็นท์แคมป์นะ หลักๆสปามีด้วยกัน 2 แบบ คือ นวดลูกประคบ กับนวดม้ง ขอพูดถึงนวดม้งก่อน นวดม้งคือการไปเชิญ หมอชาวบ้านเผ่าม้งจากบนภูเขามานวดให้ ถ้าจะนวดต้องจองล่วงหน้าฮะ
นวดลูกประคบ เป็นการใช้วิถีชีวิตเก่าของคนพื้นบ้านมาทำเมนูสปา ข้าวสวยสุกร้อนๆคือสูตรที่ภรรยาชาวลาวจะปะคบให้สามีเวลากลับมาจากไถนาหรือทำสวน ลูกประคบที่นี่จะทำเองเลยฮะ สดๆ ถ้าเราจองสปา ทางห้องสปาจะถามว่าเราอยากไปเก็บสมุนไพรมาทำลูกประคบเองมั้ย หรือจะให้ เทอราปิส ไปเก็บมาให้ จากนั้น เทอราปิส จะนำส่วนผสมทั้งหมดมาตำ ผสมกับข้าวสุก แล้วมัดเป็นลูกประคบไปนึ่งให้เราใช้ฮะ
ถามว่าที่นี่นวดดีมั้ย บอกเลยนวดดีมากกกกก ไม่ใช่ดีเพราะนวดแล้วลุงหลับนะ แต่นวดแล้วจับเส้นเป็นฮะ ไม่ได้นวดแบบลูบๆไล้ๆขอไปที คือเขารู้ว่าตรงไหนต้องนวดยังไง ตรงไหนเราตึงมาก เขาก็จะเน้นให้ ให้ 9 คะแนนเต็มเลยฮะเรื่องนวด เทอราปิส คนลาวใจเย็น นวดสบายมาก
สรุปปิดท้าย
ถ้าจะให้พูดถึงที่นี่ อันดับแรก คงต้องยกให้เรื่องบริการเป็นที่ 1 ส่วนตัวว่าที่หลวงพระบางบริการยังไม่ได้เนี้ยบเท่าที่ภูเก็ตนะ แต่ ที่หลวงพระบาง มีเสน่ห์ที่ภูเก็ตไม่มี ยกตัวอย่างเช่น ความซื่อ ความใจดี ใจเย็น ของคนลาว ทำให้บริการของ Rosewood luang prabang อยู่ในระดับที่ดีมากๆฮะ ส่วนเรื่องตัวโรงแรม สวยงามตามสไตล์ผลงานชิ้นโบว์แดงของ bill bensley ฮะ แต่คนที่ไปพักอาจต้องทำความเข้าใจสักนิดว่า ที่นี่ไม่ใช่โรงแรมขนาดใหญ่เวอร์วังอลังการ แต่คอนเซ็ปมันคือบ้านพักตากอากาศของผู้มีอันจะกิน หลายๆอย่างมันเลยไม่ได้ดูอลังอย่างที่ควรจะเป็น แต่ที่นี่จะเน้นเรื่องดีเทล และการเลือกใช้ของดีในการตกแต่งแทน