รีวิว Rosewood Luang Prabang

Advertisement

นึกถึงหลวงพระบาง เพื่อนๆนึกถึงอะไรกันฮะ

อยากบอกว่าเมืองท่องเที่ยวทำเงินอันดับ 1 ของ สปป ลาว มีดีหลายอย่างจนคุณจะไม่เชื่อทีเดียวล่ะ ลุงเชื่อว่าใครที่เคยไปเยือนเมืองนี้สักครั้ง จะต้องตกหลุมหลงรักเมืองนี้อย่างแน่นอน

หลวงพระบางขึ้นชื่อลือชาในเรื่อง เมืองที่สุดแห่งความสโลว์ไลฟ์ เรียกว่าเป็นตัวพ่อ ตัวแม่ของฮิปสเตอร์ก็คงไม่ผิด มาๆตามลุงมาลุงจะพาเพื่อนๆไปทำความรู้จักกับเมืองนี้กันดีกว่า เมืองมรดกโลกที่ชื่อว่า…หลวงพระบาง

หลวงพระบาง จากแผนที่หลวงพระบาง เป็นเมืองขนาดเล็กๆ ไม่ใหญ่เลย ใช้เวลาเที่ยวครึ่งวันก็เอาอยู่แล้วฮะถนนเส้นหลักมีแค่เส้นเดียวเท่านั้นเอง บ้านเมืองส่วนใหญ่เป็นบ้านเมืองสไตล์ฝรั่งเศสแค่ 2 ชั้น เหมือนเมื่อร้อยปีก่อน เพราะเมืองนี้เคยถูกยึดครองด้วยฝรั่งเศสมาก่อน

แลกเงินยังไงดี เขาพูดภาษาไทยได้มั้ย

เราสามารถใช้เงินบาทเราได้เลยฮะ แนะนำว่าให้แลกเป็นแบงค์ 20  50 บาทไปจะสะดวกมาก แต่…ถ้าใช้เงินไทยก็จะโดนโขกหน่อย เพราะ 1 หมื่นกีบ เท่ากับประมาณ 35 บาท ถ้าไม่คิดจะใช้เยอะ ไม่ต้องแลกฮะ ใช้เงินไทยคุ้มกว่า จ่ายเพิ่มนิดเดียว ดีกว่าค้างในเป๋าหลายกีบถ้าใช้ไม่หมด แล้วแลกที่ไหนอ่ะลุง เราเอาเงินไทย แลกที่สนามบินที่โน่นเลยฮะ ส่วนภาษาที่ใช้ ภาษาไทยเลยฮะ คนที่โน่น 100 ล่ะ 80 ภาษาไทยดีมาก 20% ที่เหลือ ภาษาไทยดีปานกลาง สรุป พูดภาษาไทยได้ทุกคน 5555

ลุงเคยไปหลวงพระบางมา 4 รอบล่ะ ถามว่าอะไรคือทำให้อยากไปหลวงพระบางมากที่สุด

ตำหลวงพระบางร้านป้าติ๋ม ใครจะกินอะไร ไม่กินอะไรก็ได้ในหลวงพระบาง ลุงไม่ห้าม แต่ ตำหลวงพระบางร้านป้าติ๋ม ต้องกินเท่านั้น นี่คือคำสั่ง!!! ราคาจำแน่นอนไม่ได้ แต่น่าจะจานล่ะ 15000 กีบ คุ้มค่าทุกบาทที่จ่ายไปแน่นอน บอกเลยว่าแทบยกจานเลียเลย อร่อยโครตตตตต พวกกระดูกหมูทอด แหนมทอดก็อร่อย แต่ยังเป็นรอง ตำหลวงพระบาง ใครกลัวเหม็นปลาร้า ให้หยุดมโนเดี๋ยวนี้ บอกเลยว่าปลาร้าป้าติ๋มกินได้ ไม่เหม็น คนไม่กินปลาร้าก็กินได้

ทำเลที่ตั้ง อยู่หน้าวัด หนองศรีคูณเมือง กลางเมืองเลย

เดินเล่นชมเมืองถ่ายรูปเล่นหลวงพระบาง

เอาจริงๆในเมืองไม่ค่อยมีอะไรนะ ไปมา 4 ครั้ง ก็แทบไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไป เหมือนเวลาของเมืองนี้มันโดนหยุดไว้ แหล่งช้อปปิ้งจริงๆจังๆก็ไม่ค่อยมี มีงานสินค้างานศิลปะบ้างนิดๆหน่อย แต่เมืองมันอาร์ท มันฮิป มันน่ารัก มันควรมา มันเหมาะกับการมาถ่ายรูปเอาไปลงโซเชียลมากๆเลย

วัดเชียงทอง

สำหรับลุงแล้ว ไม่มาที่นี่ถือว่ามาไม่ถึง หลวงพระบาง วัดเชียงทองขึ้นชื่อเรื่องสถาปัตยกรรมที่ประดับด้วยกระจกสีรอบอุโบสถฮะ เรียกว่าไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง มีค่าเข้าประมาณ 20000 กีบ

มุมที่ไม่ควรพลาดด้วยประมาณทั้งปวง จะไม่ถ่ายมุมไหนก็ได้ แต่มุมนี้เท่านั้น มุมบังคับ  ไปแล้วต้องก็หาให้เจอน้าาาาา เจอแล้วก็ถ่ายซะ บอกเลยว่าใครถ่ายก็สวย ก็หล่อหมดจริงๆ

ตลาดมืด – ตลาดเช้า หลวงพระบาง

ตลาดมืด เป็นถนนคนเดินหลวงพระบางแต่เปิดทุกเย็นนั้นแหละ เป็นแหล่งชอปปิ้งกลางเมือง ที่ใหญ่ที่สุด สินค้าส่วนใหญ่ก็ขายเสื้อผ้า งานอาร์ท สินค้าพื้นบ้าน เอาตรงๆนะ ลุงคิดว่าเดินถนนคนเดินเชียงใหม่ม่วนกว่าเยอะเน้อ

ตลาดเช้าเป็น….ตลาดสด ก็ตลาดสดเหมือนบ้านเรานั้นแหละ อะไรที่ตลาดสดมีที่นี่ก็มีอย่างนั้นแหละ เพียงแต่จะมีอาหารแปลกๆบ้าง ไปเดินดูหน่อยก็โอเคนะ ไปบ้านเมืองเขาไม่อยากรู้เหรอ เขากินเขาขายอะไรกันตอนเช้าๆ

พระธาตุภูสี

พระธาตุภูสีอยู่ตรงกลางเมืองเลยฮะ อยู่ตรงข้ามพิพิธภัณฑ์หลวงพระบาง จุดนี้ถือเป็นจุดชมวิวของเมืองหลวงพระบางฮะ มีค่าขึ้นที่ประมาณ 20000 กีบ คนสูงอายุ อาจเที่ยวที่นี่ลำบากหน่อยนะครับ เดินขึ้นเขาอย่างเดียวบันไดเยอะมากกกก คุ้มมั้ยที่จะขึ้นไป บอกตรงๆตัวพระธาตุไม่เท่าไหร่ แต่วิวและจุดถ่ายรูปก็ไม่อยากให้พลาดกัน เวลาที่เหมาะที่สุดคือตอนพระอาทิตย์ตกดินฮะ ซึ่งคนล้านแปด ถ้าไม่เน้นถ่ายรูปไปชมวิวช่วงพระอาทิตย์ตกดินสวยสุดจริงๆฮะ แต่ถ้าอยากถ่ายรูปเซลฟี่ ไปเวลาไหนก็ไปเถอะ แต่หลีกเลี่ยงตอนพระอาทิตย์ตกดินนะ

ชมพระอาทิตย์ตกริมน้ำโขง

ลุงแนะนำว่าประมาณ 17.30-18.00 น เตรียมตัวไปเดินชมพระอาทิตย์ตกริมน้ำโขงกันฮะ จุดที่ลุงไปชม จะเป็นท่าเรือที่อยู่หลังพิพิธภัณฑ์พอดิบพอดีเลย สวยไม่สวยดูกันเอาเองเนอะ

ตาด(น้ำตก)กวางสี

อันนี้ก็ไม่อยากให้พลาด แต่มันออกจากตัวเมืองไป 45 นาที วิธีไป ไม่เหมารถไปก็ต้องซื้อทัวร์ฮะ เช่ารถขับไปเองก็ได้นะ แต่ทางมันจะแปลกๆ  ใช้เวลาเที่ยวครึ่งวันก็กลับแล้วล่ะฮะ บอกเลยว่าคุ้มค่ามากที่จะไป ไม่ไปแล้วจะเสียใจ T__T ฮือๆๆๆ ไปเถอะ มันสวยมากกก อยากให้ไป น้ำตกนี้มีจุดเล่นน้ำด้วยนะฮะ เอาชุดไปเล่นน้ำได้

ใส่บาตรข้าวเหนียว  

เขาจะเริ่มใส่กันประมาณ 6 โมงฮะ อย่าไปคาดหวังว่าจะสวยงาม ดูรักษาวัฒนธรรมอันดีงามไว้ ความเป็นจริง ดูฉุกละหุก วุ่นวาย และแปลกๆดีฮะ แอบสงสารพระท่านแบกข้าวเหนียวร้อนๆ และ หนักมว้าก หลายโลไว้ในบารต นักท่องเที่ยว(จีน)ใส่กันเยอะมาก เซลฟี่กันเยอะมาก แถมใส่แต่ข้าวเหนียว พระท่านจะฉันท์ขาวเหนียวอย่างเดียวไม่ได้มั้ย T__T

แต่จะมีหลายจุดที่หลบนักท่องเที่ยวได้อยู่นะฮะ แนะนำว่าไปจุดที่นักท่องเที่ยวน้อยๆ ดูสงบ สวยงาม และดูเป็น วัฒนธรรมอันดีงาม ที่ควรรักษาไว้จริงๆ ลองถามทางโรงแรมที่พักดูฮะ

มาคราวนี้ลุงมาพักที่โรงแรมนี้ฮะ โรงแรมที่ดีติดอับดับต้นๆของเมืองหลวงพระบาง rosewood luang prabang

Rosewood คืออะไร โรงแรมกี่ดาวเนี้ยะ ไม่เห็นรู้จักเลย

Rosewood คือรีสอร์ทโครตหรูจากอเมริกา ฐานะสูงส่งราชนิกูลเทียบเท่า four season และ mandarin oriental มีจุดขายเรื่องการสัมผัสการพักผ่อนเหนือระดับที่แตกต่าง โดยจะเน้นที่เรื่องบริการเป็นพระเอก

ถ้าถามลุงว่า Rosewood ใกล้เคียงโรงแรมไหนมากที่สุด คำตอบน่าจะมีโรงแรมเดียวคือ four season เท่านั้น เพราะ Rosewood เน้นเรื่องสัมผัสความเป็นโลคอล ธรรมชาติ และการบริการเหนือระดับเป็นหลัก ไม่ต่างจาก four season ที่เห็นจะต่างแบบเห็นได้ชัดๆคือ ตัวโรงแรมของ Rosewood เป็นดีไซด์โฮเทลมากกว่า four season นั้นเอง

Rosewood luang prabang เป็นโรงแรมขนาดเล็ก มีแค่ 20 กว่าห้องเองฮะ ถึงจะเป็นโรงแรมแค่ 20กว่าห้องแต่โรงแรมนี้ใช้คนออกแบบระดับโลกอย่าง bill bensley ใครที่อยู่ในวงการโรงแรมจะรู้ว่า คนนี้ตัวท๊อปเลย ค่าตัวแพงมว้ากกกกกกกก แพงแบบไม่ธรรมดา

Rosewood luang prabang ถูกวางคอนเซ็ปให้เป็นบ้านพักตากอากาศของผู้มีอันจะกินท่ามกลางธรรมชาติที่งดงาม ร่วมถึงยังมีห้องพักประเภทลักซูรี่เต็นท์แคมป์ ที่เดียว ในหลวงพระบางด้วยฮะ เราไปดูบรรยากาศ โดยรวม ของโรงแรมกันดีกว่าฮะ

ที่นี่ใช้การออกแบบสไตล์โคโรเนียลของหลวงพระบาง + ศิลปะวัฒนธรรมพื้นบ้าน + จินตการสุดล้ำของพี่ bill แกฮะ ทุกอย่างรวมกันแล้วก็ระเบิดตู้มมาเป็นโกโก้ครั้นช์ เอ้ย!!! Rosewood luang prabang ด้วยคอนเซ็ปบ้านพักตากอากาศทำให้พื้นที่ลอบบี้มีขนาดเล็ก และ รวมไปกับห้องอาหารของที่นี่ฮะ

สระว่ายน้ำมีขนาดไม่ใหญ่มากฮะ โดยรวมถือเป็นจุดเป้าสายตาของส่วนรวมไปสักนิด แอบดูไม่ค่อยไพรเวทสักเท่าไหร่

ข้อดีที่เป็นข้อหลักเลย นอกจากพี่บิลจะออกแบบให้แล้ว ที่นี่ยังมีน้ำตกธรรมชาติเป็นของตัวเอง ไหลผ่านกลางรีสอร์ทด้วย ทำให้ที่นี่เป็นรีสอร์ทที่ไม่เหมือนใคร และไม่มีใครเหมือนฮะ

พื้นที่ลอบบี้กับห้องอาหารหลักของโรงแรมใช้ร่วมกันฮะ เช้าสาย บ่าย เย็น เราสามารถทานอาหารได้ที่นี่ฮะ

เรามาพูดถึงอาหารเช้ากันก่อนล่ะกันเนอะ เนื่องด้วยเป็นรีสอร์ทขนาดเล็ก อาหารเช้าจึงเสริฟเป็นอลาคาร์ตบุฟเฟ่ต์เท่านั้น

ความคิดเห็นส่วนตัว โดยรวม อาหารฝรั่งที่นี่อร่อยกว่าอาหารลาวนะฮะ ใครจะสั่งสิ่งใดยึดอาหารฝรั่งเป็นหลักเน้อ เชื่อลุงนะแล้วจะดีเอง 55555

อาหารเช้าเสริฟที่ห้องเลยได้มั้ย ฟรีป่าว

ธรรมดามีค่าใช้จ่ายนะฮะ แต่ แขกที่มาในโอกาสพิเศษ เช่น ฉลองครบรอบแต่งงาน ขอแต่งงาน วันเกิด หรืออื่นๆที่พิเศษๆ แขกสามารถขอเสริฟอาหารเช้าที่ห้องพักได้ฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายฮะ แต่ต้องรีเควสล่วงหน้าเน้อ ถ้าใครไปในช่วงโอกาสพิเศษ ลุงแนะนำให้ลองรีเควสมาทานทีห้องเลยฮะ ใครพักห้อง Hilltop Tent ก็จะได้ทานอาหารเช้ากับวิวสวยๆไปด้วย อันนี้ถือว่าดีงามมากกกกกก

พูดถึงห้อง Hilltop Tent ลุงขอพูดถึงห้องนี้เลยล่ะกัน เพราะถ้าถามว่าห้องพักแบบไหนที่เป็นซิกเนเจอร์ของที่นี่ Hilltop Tent นี่แหละฮะที่เป็นหน้าเป็นตาให้ที่นี่เพราะ เป็นรีสอร์ทเดียวในหลวงพระบางที่มีห้องพักประเภท Luxury Tent Camp

Hilltop Tent (75 ตรม) ถือเป็นห้องที่แพงสุดของที่นี่ จุดขายหลักคือ วิวสวยมาก พื้นที่ใช้สอย กว้างขวางใหญ่พอๆกับห้องระดับพูลวิลล่าเลย อุปกรณ์เครื่องใช้ทันสมัยมีให้ครบครัน แอร์ ตู้เย้น โทรศัพท์ wifi เรียกว่าไม่ลำบากเลยฮะ หรูหรามากจริงๆ ถ้ามีโอกาส งบพอจะถึงก็ควรมาลองสัมผัสประสบการณ์แบบนี้สักครั้งนึง

คำเตือน ห้องพักส่วนใหญ่ถึงจะเป็นประเภทเดียวกัน สีของห้องพักจะไม่ค่อยเหมือนกันฮะ โดยส่วนตัวลุงชอบห้องสีฟ้าน้ำทะเลนี่แหละ ลุงว่าเซฟสุด สวยทุกห้อง ทุกระดับ ใครจะพักรีเควสสีนี้ไว้ก่อนฮะ แล้วค่อยไปขอดูหน้างานอีกทีว่าจะเปลี่ยนสีอื่นมั้ยถ้าห้องว่าง

ตามคอนเซ็ปของโรสวู้ด แขกทุกคนสามารถเป็นบาเทนเดอร์ได้ ในห้องพักจึงมีอุปกรณ์ และส่วนผสมของค๊อกเทลมากมายตั้งให้อยู่ ซึ่งแน่นอนไม่ฟรีฮะ ที่ฟรีจะเป็น ชา กาแฟ น้ำผลไม้ น้ำอัดลม ขนมทานเล่นในขวดโหล 3 ใบให้ฮะ

อเมนนิตี้ ตัวที่เป็นแชมพู สบู่เหลวน่าจะเป็นของแบรนด์ ดูไม่น่าสนใจเท่าไหร่ แต่ตัวนี้น่าสนใจกว่ามาก และเป็นสบู่ก้อนอัญชัญสินค้าสปาของทางลาวฮะ ใช้แล้วดี๊ดี ปลื้มมมมมม

แขกผู้เข้าพักทุกคนจะได้รับหมวกฟรีนะเป็นของขวัญ ทางโรสวู้ดมอบให้แขกทุกคน จะใส่ไว้ในตู้เสื้อผ้า หยิบมาใช้แล้วเอากลับบ้านได้ด้วยฮะ ไม่ต้องคืนนะ ระหว่างเข้าพัก ช่วงเทิร์นดาวน์ก็จะมีขนมมาเสริฟมีของขวัญเล็กๆมาเซอร์ไพร์ด้วย อย่างเคสของลุงเขาเห็นว่าเป็นตากล้องมีถือกล้องทั้งวัน เขาก็เอาผ้าเช็ดเลนส์มาวางให้เป็นของขวัญก่อนนอน น่ารักมากเรื่องนี้ ใส่ใจรายละเอียดจริงๆ

ข้อเสียมีมั้ย Tent Camp เนี้ยะ เอาตรงๆเลยเนอะถึงจะหรูหรา ไฮโซยังไงก็มีข้อจำกัดไม่เหมือนห้องพักในอาคารหรอกฮะ ยกตัวอย่าง ผนังห้องเป็นผ้าใบ ไม่อาจเก็บเสียงใดๆเลย และด้วยความที่เป็น Tent Camp วิวมุมสูง ทำให้ตัวห้องพักอยู่สูงขึ้นไปประมาณนึง การเดินทางไปห้องพัก สามารถไปด้วยวิธีการเดินเท่านั้น ใช้เวลาเดินจากลอบบี้เดินขึ้นเขาไปประมาณ 7 นาทีฮะ (ใครมีปัญหาเรื่องไขข้อ เข่า ไม่แนะนำห้องนี้ฮะ )

ป.ล.ภาพทางเดินขึ้นห้องพักระดับ Tent Camp

Water Fall Pool (75 ตรม) ใครอยากใกล้ชิดน้ำตกต้องพักห้องนี้ฮะ

ส่วนตัวชอบห้องนี้นะ ธรรมชาติมาก มากสุดๆ หน้าหนาวคงชื่นใจมาก แนะนำห้องสีฟ้าๆเขียวๆเท่านั้น ลุงเห็นห้องสีขาวไม้ไผ่สานแล้วบอกเลยไม่โดนใจอย่างแรง ย้ำ แนะนำ สีฟ้าๆเขียวๆ นะฮะ

ข้อเสียคือ ห้องนี้มีขนาดเล็กไปสักนิดนะ เพราะพื้นที่ส่วนใหญ่เอาไปทำระเบียงกับสระหมด เลยทำให้ห้องนอนเหลือเล็กนิดเดียว

ห้องพักในตึกจะมีอยู่ 2 แบบ ฮะคือ ห้องแบบ Riverside และแบบ Suite โดยจะแบ่งเป็นชั้นบนและชั้นล่าง ความต่างคือชั้นล่างใกล้น้ำตกกว่าฮะ

ที่ตึกนี้จะมีห้องรับแขกอยู่ 2 ห้องฮะ แขกทุกคนสามารถมาใช้บริการที่นี่ได้ฮะ

Suite (91 ตรม) ห้องนี้เป็นห้องที่ใหญ่ที่สุดของโรงแรมฮะ เพราะมันคือ 2 ห้อง Riverside รวม เป็น 1 ห้องฮะ โดยจะแบ่งห้องนึงเป็นห้องนอนและห้องน้ำ อีกห้องเป็นห้องทานอาหารและห้องนั่งเล่น ห้องสวีทถือเป็นอีกห้องที่การตกแต่งสวยงามไม่แพ้ห้องไหนเลย อย่างที่บอก รีเควสสีฟ้าเขียวเนอะสวยมากกกกก ลุงเคยเห็นห้องสีเหลืองแล้วแอบสว่างไปนิด สีนี้สวยกว่า

อย่างที่บอกไปห้องพักมีหลายสี แนะนำแอบรีเควสสีไปก่อนเนอะ อันนี้ห้องสีดำ มันก็สวยไปอีกแบบ แต่ลุงว่าสีฟ้าสวยกว่ามั้ยอ่ะ หรือเพื่อนๆว่าไง

ห้องเริ่มต้น Riverside ขนาดเล็กมาก เมื่อเทียบกับราคาที่จ่ายไป ห้องมีขนาดแค่ 48 ตรมเอง ห้องนี้ลุงไม่แนะนำเนอะ ถ้ามาพักแล้วแนะนำว่าพักสวีทขึ้นไปเลยจะดีกว่า มาแล้วก็อยากให้ประทับใจ

Villa (67 ตรม) เป็นห้องที่ใกล้ส่วนกลางมากที่สุด ใครขี้เกียจเดินต้องห้องนี้ฮะ ถามว่าสวยมั้ย ส่วนตัวลุงก็ชอบนะ ห้องนี้โทนสีสว่างสบายตา ลุงเคยเห็นแต่สีนี้แบบเดียว ห้องนี้เป็นวิลล่า 3 อยู่ติดกับ Elephant Bar ฮะ

Elephant Bar

เพิ่งได้รับการปรับปรุงใหม่ ทำตาข่ายนอนกลางลำธารเก๋กู้ดมากกกกกกก แนะนำว่าใครมาหลวงพระบาง แวะมาถ่ายรูปเช็คอินชิลล์ๆกันได้นะ อาหารเครื่องดื่มราคาไม่แพง เริ่มต้นประมาณ 250 บาท++

The Great House ห้องอาหารส่วนกลาง ของที่นี่ พาชมบางส่วนไปแล้ว อันนี้เป็นแบบภายในอาคาร เช้าสายบ่ายเย็น หาทานที่นี่ฮะ ที่นี่รับแขกนอกด้วยนะ อย่างที่บอกไปส่วนตัวลุงว่าที่นี่ทำอาหารฝรั่งอร่อยกว่าอาหารลาว แนะนำสั่งอาหารฝรั่งแนอะ

อันนี้อาหารลาวที่ทานมา ( ย้ำอีกที อาหารเครื่องดื่มราคาไม่แพง เริ่มต้นประมาณ 250 บาท++ รับแขกนอกด้วยจ้า)

หร่อนส้ม รสชาติเหมือนเย็นตาโฟหมูผสมกับแกงกะทิใส่ไข่ปลา รสแปลกๆ งงๆ ไม่ใช่ไม่อร่อยนะ แต่ไม่เคยกิน ไม่ค่อยถูกจริต แหะๆๆ

ปิ้งปลา เป็นปลาแม่น้ำที่ทาเครื่องเทศประเภทสมุนไพร แล้วเอาไปย่างกับไฟฮะ เสริฟมาไม่มีน้ำจิ้มให้เสียใจ แต่ปลาสดมากนะ อร่อย

ตำหลวงพระบาง เออ…..ของป้าติ๋มอร่อยกว่าอ่ะ แหะๆๆๆ

ข้าวตังลาว (อามูส บุช ของว่างแจกฟรี) ทานกับซอสมะเขือเทศโฮมเมดอร่อยดีอันนี้

ปอเปี๊ยะทอด เมนูนี้เหมือนอาหารเวียดนามเลย อร่อยฮะ สั่งได้เลย เป็นไส้ผัก วุ้นเส้นนะ

สเต็กเนื้อ อร่อยมากฮะ ไม่มีอะไรติ แต่….มีดที่หั่นสเต็กนี่แบบว่า เห็นแล้วนึกถึงมีดหมอผีเลย ดีไม่มียันต์เขียนที่มีดด้วย หรือว่าเนื้อฟันแทงไม่เข้า เลยต้องใช้มีดหมอมาให้หั่นแทน 55555

สุดท้ายล่ะ Sense Spa ใครจะใช้บริการสปา ก็มาเป็นแบบเต็นท์แคมป์นะ หลักๆสปามีด้วยกัน 2 แบบ คือ นวดลูกประคบ กับนวดม้ง ขอพูดถึงนวดม้งก่อน นวดม้งคือการไปเชิญ หมอชาวบ้านเผ่าม้งจากบนภูเขามานวดให้ ถ้าจะนวดต้องจองล่วงหน้าฮะ

นวดลูกประคบ เป็นการใช้วิถีชีวิตเก่าของคนพื้นบ้านมาทำเมนูสปา ข้าวสวยสุกร้อนๆคือสูตรที่ภรรยาชาวลาวจะปะคบให้สามีเวลากลับมาจากไถนาหรือทำสวน ลูกประคบที่นี่จะทำเองเลยฮะ สดๆ ถ้าเราจองสปา ทางห้องสปาจะถามว่าเราอยากไปเก็บสมุนไพรมาทำลูกประคบเองมั้ย หรือจะให้ เทอราปิส ไปเก็บมาให้ จากนั้น เทอราปิส จะนำส่วนผสมทั้งหมดมาตำ ผสมกับข้าวสุก แล้วมัดเป็นลูกประคบไปนึ่งให้เราใช้ฮะ

ถามว่าที่นี่นวดดีมั้ย บอกเลยนวดดีมากกกกก ไม่ใช่ดีเพราะนวดแล้วลุงหลับนะ แต่นวดแล้วจับเส้นเป็นฮะ ไม่ได้นวดแบบลูบๆไล้ๆขอไปที คือเขารู้ว่าตรงไหนต้องนวดยังไง ตรงไหนเราตึงมาก เขาก็จะเน้นให้ ให้ 9 คะแนนเต็มเลยฮะเรื่องนวด เทอราปิส คนลาวใจเย็น นวดสบายมาก

สรุปปิดท้าย

ถ้าจะให้พูดถึงที่นี่ อันดับแรก คงต้องยกให้เรื่องบริการเป็นที่ 1 ส่วนตัวว่าที่หลวงพระบางบริการยังไม่ได้เนี้ยบเท่าที่ภูเก็ตนะ แต่ ที่หลวงพระบาง มีเสน่ห์ที่ภูเก็ตไม่มี ยกตัวอย่างเช่น ความซื่อ ความใจดี ใจเย็น ของคนลาว ทำให้บริการของ Rosewood luang prabang อยู่ในระดับที่ดีมากๆฮะ ส่วนเรื่องตัวโรงแรม สวยงามตามสไตล์ผลงานชิ้นโบว์แดงของ bill bensley ฮะ แต่คนที่ไปพักอาจต้องทำความเข้าใจสักนิดว่า ที่นี่ไม่ใช่โรงแรมขนาดใหญ่เวอร์วังอลังการ แต่คอนเซ็ปมันคือบ้านพักตากอากาศของผู้มีอันจะกิน หลายๆอย่างมันเลยไม่ได้ดูอลังอย่างที่ควรจะเป็น แต่ที่นี่จะเน้นเรื่องดีเทล และการเลือกใช้ของดีในการตกแต่งแทน

Leave a Reply