ช่วงนี้ที่เพจมีกิจกรรมแจกกระเป๋าไหมพรม แบรนด์ GU จากญี่ปุ่น ด้วยฮะ (ร่วมกิจกรรมได้ถึงวันที่ 19 กพ) ใครสนใจกดตามลิงค์นี้ไปกันเนอะ แจกกระเป๋าจ้าาาา
โอะไฮโยวววววววว สวัสดีคร้าบบบบบบ วันนี้ลุงพักกี้ไม่ได้มาพาไปเที่ยวนะฮะ แต่วันนี้ลุงพักจะมาชวนไปเที่ยวต่างหาก ไปกับรายการ Daisuki Samurai Japan ลุงมีโอกาสได้ไปใช้ชีวิตตามติดรายการนี้อยู่หลายวันอยู่ เราไปดูกันดีกว่า รายการนี้มันเป็นยังไง
Daisuki Samurai Japan จะเป็นรายการท่องเที่ยวญี่ปุ่นแบบง่ายๆ ไม่มีบท เว้ากันสดๆ ซื่อๆ พิธีกรจะมีด้วยกัน 2 คน โดยคุณลุง โอคุโนะซังจะเป็นคนยืนพื้น ก็แหงล่ะแกเป็นคนญี่ปุ่น ยังไงก็ต้องเข้าใจเรื่องญี่ปุ่นดีกว่าเราใช่มั้ย แต่ก็จะมีปัญหาอย่างนึงฮะ คือ แกสื่อสารกับคนไทยไม่ค่อยเข้าใจ เราเลยต้องมีพิธีกรอีกคนเอาไว้รองรับความไม่เข้าใจของแก 555555 ซึ่งในเทปนี้ จะเป็น น้องแอปเปิ้ล เห็นสวยๆอย่างนี้เธอเป็นครูสอนภาษาฝรั่งเศสเลยนะฮะ เอาล่ะครับเทปนี้ เขาจะพาเราไปเที่ยวไหนกัน ตามไปชมกันดีกว่า
เพื่อนๆสามารถติดตาม รายการ ไดซูกิ ซามูไร ทาง Bright TV ทีวีดิจิตอลช่อง 20 ทุกวันเสาร์เวลา 14.30 -15.00 น ในส่วนที่ผมไปทริปทามานะนั้นจะ ออนแอร์วันเสาร์ที่ 18 กพ และ เสาร์ที่ 25 กพ เวลา 14.30-15.00 น
ถ้าใครไม่สะดวกก็ติดตามย้อนหลังได้ที่นี่ฮะ Daisuki Samurai Japan Youtube
เมืองที่เขาและเธอจะพาไปเที่ยวคือ เมือง เมืองทามานะ ยามากะ และ คุมาโมโต้ ของภูมิภาคคิวชูฮะ
จากแผนที่ จะเห็นว่าอยู่ไม่ห่างจากฟูกุโอกะเลย เมืองทามานะ เป็นเมืองหนึงในจังหวัด คุมาโมโต้ การที่จะมาเมืองนี้ได้นั้นวิธีที่สะดวกและเร็วที่สุดคือ รถไฟชินคังเซน เพราะยังไงส่วนใหญ่เราก็ต้องลงเครื่องที่ ฟูกูโอกะ กันก่อน การที่จะไปเมืองต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น เบปปุ ยูฟุอิน นางาซากิ หรือคุมาโมโต้ เราควรซื้อพาสใช้ฮะ เพราะคุ้มที่สุดแล้ว ถ้าจะชินคังเซนต่อขาบอกเลยราคาโหดร้ายมากกก ไปกลับ 1 รอบ ราคาอาจสามารถซื้อพาส 3 วันได้แล้วฮะ พาสที่เราควรใช้ในครั้งนี้คือ Kyushu North Pass แบบ 3 วัน หรือ 5 วัน ผมซื้อกับตัวแทนจำหน่ายที่นี่ฮะ www.kkday.com ช่วงที่ผมไปมีลดราคา 10% ด้วย
จากสถานีฮากาตะ เราสามารถนั่งชินคังเซน มาลงที่สถานีชินทามานะ ได้เลยฮะ ห่างจาก สถานีฮากาตะ 35 นาทีเท่านั้น และ เมืองนี้ถูกเคลมว่าเป็นเมืองออนซ็นที่ใกล้ฟูกุโอกะที่สุด
ถ้าใครไม่สะดวกใช้พาส วิธีการเที่ยวทามานะที่สะดวกที่สุดแบบหมู่คณะ ผมแนะนำเป็นแพคเกจ เช่าเหมารถรายวันพร้อมคนขับและไกด์ 5 ที่นั่งฮะ อันนี้บอกเลยว่าสะดวกกับการเที่ยวเมืองใกล้ๆ ฟูกูโอกะ อย่างเมือง ทามานะ ยามากะ มาก ไม่ต้องเปลืองพาส แถมนั่งได้ตั้ง 5 คน ไปเที่ยวไหนก็ได้ ครอบคลุมภายใน 12 ชั่วโมง คุ้มกว่าเห็นๆ ตกคนล่ะ 500 เอง จากแพคเกจนี้เราสามารถไปเที่ยวเมืองทามานะ และยามากะ แบบไปเช้าเย็นกลับได้เลยฮะ ใครสนใจลองกด www.kkday.com ผมเคยใช้บริการที่ไต้หวันบอกได้เลยว่าดีงามมาก ไปเที่ยวที่ได้สะดวกทุกที
การเดินทางในเมือง ทามานะ ส่วนใหญ่ภายในเมืองก็เดินทางด้วยรถบัสฮะ แต่ถ้าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวบางที ก็ต้องใช้รถยนต์ส่วนตัวไปบ้างนะคร้าบบบบ
เมืองทามะนะมีอะไรน่าสนใจบ้าง
สำหรับผมๆว่า สวนผลไม้ฮะ ผลไม้ของเมืองเมืองนี้อร่อยมากกกก ของขึ้นชื่อเลยก็คือส้มฮะ ก็แหง่ล่ะชิ ผลไม้ขึ้นชื่อของจังหวัดคุมาโมโต้ก็คือส้มนี่แหละฮะ
ส้มที่นี่จะปลูกบนภูเขาฮะ วิวจากสวนส้มสวยเชียว เราสามารถมาเก็บส้มได้นะฮะ มีค่าบริการนิดหน่อย สวนส้มที่ผมมาชื่อ Mizumoto Orange Garden มีค่าใช้จ่ายนิดหน่อย ใครอยากรู้ เดี๋ยวไปดูจากรายการเอานะฮะ บอกรายละเอียดหมดเลย
นอกจากนี้สวนส้มแห่งนี้ยังมีขายบาบิคิวด้วยไม่ได้ขายแบบบุฟเฟ่ต์นะฮะ แต่จะขายเป็นเซ็ตๆ มีหมู กุ้ง เนื้อ และผักสดๆจากไร่ บอกเลยว่า อร้อยยยย อร่อย
นอกจากสวนส้ม ก็เห็นจะมี สวนสตรอว์เบอร์รี่ นี่แหละฮะ ที่ควรจะมาเยี่ยมเยือน เอาจริงๆ ผมว่าน่าเก็บกว่าส้มอีกเนอะ 555555
บอกเลยวามาญี่ปุ่น ต้องหาเวลามามาเก็บและกินสตรอว์เบอร์รี่แบบบุฟเฟ่ต์ดูสักครั้งฮะ บอกเลยว่า อเมสซิ่งมากกกก สตรอว์เบอร์รี่ที่เด็ดสดๆ กินจากต้นนี่มัน สดหวานฉ่ำผุดๆๆๆ พูดแล้วก็น้ำลายไหล
นอกจาก ส้ม และ สตรอเบอรี่แล้ว มะเขือเทศ คือ ผลไม้ที่อร่อยรองลงมาเลย คือ มะเขือเทศ หลายๆคนอาจไม่เชื่อ แต่เวลาไปญี่ปุ่นผมอยากให้ลองชิมมะเขือเทศที่ญี่ปุ่นดูฮะ บอกเลยว่าอร่อย หอม กรอบ และฉ่ำมากกก และมะเขือเทศของเมืองนี้ก็ไม่ทำให้ผิดหวังเหมือนกัน มีโอกาสต้องลองชิมดูฮะ
นอกจากผลไม้แล้ว ออนเซ็นน้ำแร่ธรรมชาติ คือสิ่งที่เมืองนี้ การันตีความดีงามฮะ เอาจริงออนเซ็น จะมีหลายจุดทั่วเมืองเลย แต่ออนเซ็นที่วิวสวยที่สุดของเมืองนี้จะเป็นออนเซ็นบนภูเขาฮะ ชื่อ Kusamakura Onsen ฮะ
ส่วนกลางเมืองก็จะมีออนเซ็นให้ชาวเมืองกับนักท่องเที่ยวมาแช่กันฟรีๆไม่เก็บค่าใช้จ่ายอีกด้วย จุดนี้มีรถประจำทางผ่านด้วยฮะ ขนาดบ่อไม่ใหญ่นะฮะ แต่มีหลายบ่ออยู่นะ แต่ล่ะบ่อเชื่อมต่อกันด้วยทางน้ำเล็กๆ ดีงามมากกก ไม่น่าเชื่อเลยว่ามันจะฟรี
บริเวณนี้จุดที่มีออนเซ็นฟรีนี้ จะมีหลายๆโรงแรมล้อมรอบบริเวณนี้เลยฮะ คิดว่าบริเวณนี้น่าจะเป็น จุดที่มีน้ำแร่ธรรมชาติที่ดีที่สุดของเมืองนี้อยู่อย่างไม่ต้องสงสัย ผมมีโอกาสได้ใช้บริการของ เรียวกังของบริเวณนี้ด้วยเช่นกัน เรียวกังนี้ชื่อ Satsuki Bessou ryokan เห็นว่าเปิดกิจการมา 120 ปี แล้วล่ะฮะ ห้องพักรวมๆกันแล้วมีแค่ 18 ห้อง เท่านั้น ถือเป็นเรียวกังที่เน้นแบบกิจการแบบครอบครัว คอนเซ็ป คือคือ เรียวกังที่ให้ความรู้สึกเหมือนคุณมาบ้านพักตากอากาศของคุณเอง ถึงห้องพักจะมีแค่ 18 ห้อง แต่บอกเลยว่า ทุกอย่าง เหมือนโรงแรม 5 ดาว ของญี่ปุ่นนะฮะ
SATSUKI BESSOU RYOKAN เป็นห้องอาหารหลักของที่นี่ จะเน้นเสริฟอาหารเพื่อสุขภาพ เมนูส่วนใหญ่เน้นไปที่ปลา และผ่านกรรมวิธีการปรุงอย่างน้อยที่สุดเพื่อคงคุณค่าทางอาหารไว้ให้มากที่สุด
และแน่นอนถึงจะเป็นเรียวกังขนาดเล็ก แต่ตามธรรมเนียมของที่พักสไตล์เรียวกังแล้วก็ต้องมีเสริฟ อาหารเย็นแบบ“ไคเซกิ” เซท ซึ่งจะเสริฟมาเป็นเซทใหญ่ๆ แบ่งเป็นอาหารแบบจานเล็กๆหลายๆอย่างในเซ็ท อาหารในเซทของที่ส่วนใหญ่จะปรุงมาจากผลผลิตที่มีชื่อเสียงของพื้นที่ตามฤดูกาลนั้นๆ
มีเนื้อวัวขึ้นชื่อของเมืองคุมาโมโต้ด้วยฮะ เนื้อวัว อาจิไซ ดูลายสิฮะ สวยงาม และอร่อยมาก
อันนี้เซ็ตอาหารเช้าฮะ
ใครมาเที่ยวเมืองนี้ แล้วอยากพักค้างคืนสักคืน ลองเก็บที่นี่ไว้เป็นตัวเลือกดูฮะ เก็บชื่อนี้ไว้นะ Satsuki Bessou ryokan
นอกจากส่วนผลไม้กับออนเซ็นแล้ว เมืองนี้มีอะไรน่าสนใจอีก เราเข้าไปเที่ยวในตัวเมืองกันดีกว่าฮะ
ถ้าเข้ามาในเมืองทามานะ ก็ต้องลอง ทามานะราเม็ง ฮะ เป็นราเม็งที่โรยกระเทียมเจียวหอมๆ น้ำซุปเป็นสูตรพิเศษของเมือง เอาจริงๆ โดยรวม รสคล้ายๆ คุมาโมโต้ราเม็งนะ ก็จะไม่ให้เหมือนกันได้ไง ก็ที่นี่อยู่ในจังหวัดคุมาโมโต้นิเนอะ 5555555
ป.ล. ตัวน้ำซุปของที่นี่จะมีรสแปลกอร่อยกว่าที่อื่น เพราะ ผสมสมองหมูลงไปเคี่ยวด้วยฮะ กินแล้วบำรุงสมอง
กินราเม็งเสร็จแล้วก็ไปเดินเที่ยวกันฮะ เที่ยวในเมืองก็หลายที่ๆน่าสนใจ และจุดต่างๆในบริเวรนี้สามารถเดินถึงกันได้หมดเลย จุดนี้คือ สะพานแว่นตา ที่ขึ้นชื่อ เราไม่ต้องไปถึง นางาซากิ เราก็เจอสะพานแว่นตาได้ฮะ
เขาบอกมาว่า….
Uronkoron Tour (อุรนโครน) กิจกรรมที่ส่งเสริมวิถีการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์เพื่อการพัฒนาสู่ความยั่งยืน โดยรูปแบบของทัวร์เป็นการเดินชมร้านค้าเก่าแก่ ในย่านเมืองเก่า ที่สะท้อนให้เห็นถึงวิถีชีวิต ชาวบ้านในแบบดั้งเดิม สินค้าส่วนใหญ่ในย่านการค้าเก่าแก่แห่งนี้จะเป็นสินค้าพื้นเมืองเฉพาะตัว โดยแต่ละร้านนั้นสืบทอดการทำกิจการมากว่า 50 ปีขึ้นไป ประกอบไปด้วยร้านค้านับสิบร้าน เสน่ห์ของทัวร์นี้คือ เจ้าของร้านเองจะเป็นผู้แนะนำสินค้าในร้านของตัวเองและพานักท่องเที่ยวเข้าดูวิธีทำ อธิบายประวัติความเป็นมาของสินค้าอย่างละเอียด มีสินค้าให้นักท่องเที่ยวทดลองชิมก่อนการตัดสินใจซื้อ เสร็จแล้วจะส่งต่อไปร้านถัดไปจนจบกิจกรรม ภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า Omotenachi
แต่ผมคิดว่า…..
เอาจริงๆนะ ไม่ค่อยอินกับที่เขาอธิบายข้างบน สำหรับผมๆว่ามันคือการชอปปิ้งสินค้าพื้นเมือง จากร้านเก่าแก่ จริงๆมีหลายร้านนะ แต่ร้านที่ผมแนะนำคือ ร้านใบชา ร้านนี้ฮะ ดีงามมาก หอม จนต้องกราบบบบบบ ใครชอบทานชาคุณภาพและราคาไม่แพง ผมว่าที่นี่คือจุดที่ต้องแวะซื้อฮะ และอย่างที่ข้างบนอธิบายไป สามารถทดลองชิมก่อนการตัดสินใจซื้อได้
อันนี้ร้านเหล้าสาเก
อันนี้ร้านยยา จะสังเกตุร้านค้าจะเก่าแก่มาก เพราะเขาอนุรักษ์ไว้
มีร้านคาเฟ่ บรรยากาสดีๆน่ารักๆๆ ด้วยฮะ
อันนี้จัดว่าเด็ด ร้านขนมญี่ปุ่น Kikusuido เปิดทำการมาเป็นเวลากว่า 70 ปี เห็นว่าเป็นร้านขึ้นชื่อของเมืองนี้ เรามาที่นี่ทำมั้ย เราก็มาเรียนทำขนมญี่ปุ่นกันฮะ มีค่าใช้จ่ายนิดหน่อยคนล่ะ ประมาณ 400 บาท ถือเป็นอีกกิจกรรมที่น่าสนใจนะ
เรียนเสร็จแล้ว จะเอาเป็นของฝาก หรือนั่งกินที่ร้านก็ได้เลยฮะ
ที่เที่ยวสุดท้ายของเมืองที่จะแนะนำ คือที่นี่ฮะ Rengein Tanjoji
เขาบอกมาว่า….
วัดแห่งนี้ถือได้ว่าเป็นวัดศูนย์กลางของภูมิภาคคิวชูเลยทีเดียว สร้างขึ้นในสมัยปลายยุคเฮอัน โดยไทระ โนะ ชิเงโมริ เพื่อนมัสการแด่พระโคเอ็น หรือพระมหาโพธิสัตว์โคเอ็น ผู้ซึ่งเผยแพร่ศาสนาและคอยช่วยเหลือประชาชน รวมถึงเป็นผู้ที่แต่ง 1 ใน 3 หนังสือประวัติศาสตร์เล่มสำคัญของประเทศญี่ปุ่นอย่าง ฟุโซเรียคุคิ
ไฮไลต์ของวัดนี้คือ หอระฆังที่มีชื่อเสียง เรียกว่า ‘Hiryo no kane’ นับว่าเป็นหอระฆังที่ใหญ่ที่สุดในโลก ระฆังสูง 4.5 เมตร มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 2.8 เมตร และมีน้ำหนักเกือบ 40 ตัน
แต่ผมคิดว่า….
ผมว่าวัดนี้น่าสนใจตรงที่ เราสามารถร่วมกิจกรรมตีระฆังยักษ์แล้วอธิษฐานได้ฮะ วิธีการตีระฆังก็ดูแปลกไม่เหมือนใคร เหมาะกับการตีกันเป็นหมู่คระ ดูน่าสนุกมาก นอกจากนี้บนยอดเจดีย์ก็วิวสวยมากฮะ เห็นทั้งเมืองเลย
ที่วัดแห่งนี้มี นาเบะหม้อไฟ ชื่อดังอยู่ เป็น ซูโมนาเบะ รสชาติเหมือน กินแกงจืดใส่อุด้งฮะ ที่แปลกคือ เขามีใส่ส้มยูซุ ลงในซุปด้วย หอม อร่อยสดชื่นมากกก
และสุดท้าย ท้ายสุดของเมืองนี้ ถ้าพูดถึง คุมาโมโต้ ก็ต้องลองเนื้อม้าฮะ อันนี้เป็นซาซิมิ รสชาติของเนื้อม้าเป็นยังไงเหรอ…..บอกเลยว่า คล้ายๆเนื้อวัว แต่รสจะหวานกว่า เนื้อจะแน่นกว่าฮะ
มาเที่ยวเมืองทามานะแล้ว ก็ต้องแวะเมืองยามากะด้วยฮะ เมืองใกล้เคียงกัน อันนี้ห้ามพลาดเลย เพราะเมืองยามากะแห่งนี้เป็นเมืองโบราณ อายุร้อยปีที่ยังคงมีชีวิตอยู่ ถ้าเปรียบทาคายม่าคือ ลิตเติ้ลเกียวโต แห่งภูมิภาคชูบุแล้ว ยามากะ ก็น่าจะเป็นลิตเติ้ลเกียวโตของภูมิภาคคิวชูฮะ โดยรวมแล้ว ยามากะ เป็นเมืองท่องเที่ยวสไตล์ Slow life ที่ต้องไปดื่มด่ำกับบรรยากาศแบบญี่ปุ่นแท้ๆจริงๆ เสน่ห์ของเมืองนี้คือการดำรงชิวิตแบบดั้งเดิมของคนญี่ปุ่นที่ยังมีอยู่จริง เรียกได้ว่าเป็นเมืองโบราณที่ยังไม่ตาย นั้นเอง
ถนนบุเซ็นไกโด (Buzenkaido Road) ถนนที่เป็นย่านการค้าของเมืองนี้ แนะนำเลยว่าต้องมา สวยงามและดีงามมากกกกกก
โรงละครยาชิโยสะแห
ป.ล. ที่นี่ ยังถูกใช้เป็นสถานที่จริงขอ
นอกจากนนี้ เมืองนี้ยังเป็นเมืองที่ขึ้นชื่อเรื่องน้ำแร่อีกด้วยเช่นกัน อันนี้โรงอาบน้ำแร่โบราณซากุระยู (Sakura -yu) ที่อยู่กลางเมือง ที่มีอายุเก่าแก่ยาวนากว่า 370 ปี ทีเดียว
อาหารเด็ดประจำเมืองนี้ ก็ไม่พ้นเนื้อม้าอีกเช่นกันฮะ เมนูนี้เหมือนจะเป็น แกงกะหรี่ญี่ปุ่น ทานกับ เนื้อม้า และเทมปุระ
ออกจากตัวเมืองยามากะมานิดเดียวจะมี หมู่บ้านญี่ปุ่นโบราณฮิโกะมินคะมูระ ( Higo Minkamura)
เป็นหมู่บ้านโบราณที่ยังคงหลงเหลืออยู่เพียงไม่กี่แห่งในประเทศญี่ปุ่น ตอนนี้ในหมู่บ้านได้ถูกปรับเปลี่ยนเป็พิพิธภัณฑ์ไปแล้วฮะ ถ้าเข้ามาจะสังเกตได้ว่าบ้านหลายๆหลังเป็นบ้าโบราณจริงๆอายุหลายร้อยปีทีเดียว ภายในจะถูกแบ่งเป็นเรือนหลายๆหลัง เหมือนหมู่บ้าน ๆ นึง
อันนี้เป็นร้านคาเฟ่ + ร้านของที่ระลึก ชื่อ “ไม่มีชื่อ” น่ารักมากกกกกกกกก ผมว่าคนไทยน่าจะชอบร้านนี้กันนะ
ส่วนหลังนี้เป็นบ้านของเศรษฐีชาวนาสมัยก่อน ตอนนี้บูรณะ ซ่อมแซมให้สวยงามเหมือนเมื่อก่อนแล้วฮะ ภายในบริเวณชั้นบนจะมีการสาธิตทำด้ามดาบซามูไรอยู่ฮะ
หลังจากจบจากเมือง ยามากะ เราเข้าเมืองคุมาโมโต้กันดีกว่า จากที่รู้กันเมือกลางปี 2016 เกิดแผ่นดินไหวที่คิวชู และปราสาท คุมาโมโต้ก็ได้รับความเสียหายอย่างหนักทีเดียวจากการประเมินล่าสุดเห็นว่าต้องใช้เวลาซ่อมกันถึง 20 ปีทีเดียว แต่ถึงแม่เราจะเข้าไปเที่ยวภายในไม่ได้ แต่เราก็ยังสามารถเที่ยวรอบๆนอกกันได้อยู่ฮะ จุดนี้คือจุดสุดท้ายที่รายการ Daisuki Samurai Japan จะพาไปชมฮะ ใครอยากดูรายละเอียดแบบลึกๆ ชมที่ในรายการ จัดเต็มให้แน่นอน ครับ
ส่วนผมขอแยกกับรายการไปตรงนี้ บ้ายบาย โอคิโนะซัง แอปเปิ้ลซัง แล้วเจอกันใหม่น้าาาาา ผมขอเข้าเมืองคุมาโมโต้ไปช้อปปิ้งก่อนนะฮะ ใครสนใจที่จะไปเที่ยวในตัวเมืองคุมาโมโต้กันต่อตามผมมาเลยฮะ ผมบอกเลยว่า ในตัวเมืองยังมีอะไรอีกหลายๆอย่างน่าสนใจให้เที่ยวกันฮะ รีวิว เที่ยว คุมาโมโต้
ป.ล. รีวิวคุมาโมดต้นี้จัดทำขึ้นในช่วงต้นปี 2016 เป็นช่วงที่ ปราสาทคุมาโมโต้ยังไม่ได้รับความเสียหาย นะครับ ในปัจจุบัน ปราสาทแห่งนี้ ปิดซ่อมอยู่เป็นเวลา 20 ปี ไม่สามารถเข้าเยี่ยมชมภายในได้