ใบไม้เปลี่ยนสีที่ญี่ปุ่น คำๆนี้ หลายคนคงจะนึกถึงโซน โอซาก้า หรือ โตเกียว กันเนอะ แต่วันนี้ลุงจะพาไปชม ใบไม้เปลี่ยนสี ในเมืองซัปโปโระ ฮอกไกโด กันฮะ ทริปนี้เที่ยวกันแบบงบไม่บานปลาย เพราะหลักๆ ลุงเที่ยวแต่ในเมืองซัปโปโระเนอะ ถึงจะเที่ยวแต่ในเมืองก็สวยได้ไม่แพ้ใครนะ
**** แล้วเราจะไปชมใบไม้เปลี่ยนสีที่ซัปโปโระ ต้องไปช่วงไหนดีล่ะ อันนี้แนะนำเป็นอาทิตย์สุดท้าย หรือ ปลายอาทิตย์ที่สาม ของเดือน ตุลา ฮะ น่าจะเป็นช่วงที่พีคของใบไม้เปลี่ยนสีที่นี่
สรุป คชจ ทริป ซัปโปโระ ใบไม้เปลี่ยนสี 2024 จ่ายไม่เกิน 3 หมื่นบาท/คน มีอะไรบ้าง
1 ตั๋วไปกลับ AA X ลุงได้มาที่ 13700 ไม่รวมโหลดกระเป๋า ( พอใกล้ๆลุงจะไป ตั๋วราคาลดลงมาอีก เหลือ 12200 เจ็บใจ T__T )
2 ค่าโรงแรม vessel inn sapporo nakajima park 4 คืน รวมอาหารเช้า 6600 บาท พักคนเดียว (จองล่วงหน้า 4-5 เดือน)
3 ค่าเดินทางทั้งทริปเหมารวม 10000 เยน ( 2250 บาท) (ไปกลับสนามบิน นั่งรถบัส ขึ้นลงจากหน้าโรงแรมเลย 2600 เยน ค่าเดินทางไปกลับโอตารุ นั่งรถบัส 1460 เยน ค่าขึ้นเขาโมอิวะ 2100 เยน ที่เหลือค่ารถไฟฟ้า ค่ารถรางเดินทางในซัปโปโระ )
4 เงินที่เหลือเป็นค่ากินนะ ส่วนใหญ่กินแต่หนม 7000 บาท ( แน่นอนว่าใช้ไม่ถึงฮะ ปกติตกใช้วันนึงไม่เกิน 4000 เยน ( 900 บาท) 13700+6600+2250+7000 = 29550-ถามว่าใช้เขียมมั้ย ก็ไม่ได้เขียมอะไรนะ ก็จัดงบหลวมๆ เผื่อไว้นะ มื้อเช้าเราจัดหนักแล้วมื้ออื่นก็เลยกินเบาๆลงบ้าง เดี๋ยวตัวแตกก่อนกลับบ้านฮะ 55555
ป.ล. ทริปนี้ลุงไม่ได้โหลดเป๋านะ เพราะ ไม่ได้ซื้ออะไรมาฝากใคร ลุงไม่ได้มาขิงมาแข่งว่าไปถูกสุดหรืออะไรนะ อันนี้ก็มาแจ้งข้อมูลที่ไปมา ส่วนตัวคิดว่า ไปเที่ยวขอให้ไปแล้วเอาที่เรากับคนไปด้วยโอเค สบายใจก็พอแล้วฮะ (แต่ทริปนี้ไปคนเดียวนะ) ไม่รู้จะถูกสุด จะเก่งสุดไปทำมั้ย เพราะสุดท้าย จะเก่งขนาดไหนก็ไม่มีใครมาให้รางวัลเด้อ
เรามาเริ่มทริปจาก จุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่ลุงว่าสวยที่สุดในเมืองซัปโปโร่ล่ะกัน ที่นี่มีชื่อว่า Nakajima Koen สวนแห่งนี้เป็นสวนสาธารณะ ตั้งอยู่กลางๆค่อนๆไปทางทิศใต้ของเมืองซัปโปโรฮะ ถือว่าเป็นสวนสาธารณะที่ใหญ่ที่สุดในเมืองซัปโปโรเลย สามารถนั่งรถไฟใต้ดินสายสีเขียว 3 สถานีจากสถานีซัปโปโร่เท่านั้นเอง (ออกทางออก 3 เด้ออ้าย ) (ไม่มีค่าใช้จ่ายในการเข้าชม)
จริงๆในสวนมีองค์ประกอบหลายอย่างที่น่าสนใจเนอะ แต่วันนี้เราพูดถึงแค่สวนนี้เป็นสวนที่ชมใบไม้แดงที่สวยที่สุดพอล่ะกันเนอะ ช่วงที่ควรมาเดินเที่ยวคือช่วงเช้าๆเลยฮะ คนน้อยบรรยากาศดี เหมาะกับการเดินเล่น ช่วงที่ลุงมาเดินอุณภูมิ 8 องศา ฮะ (แต่ช่วงบ่ายก็จะได้แสงมาอีกทางสวยเหมือนกันนะว่าไม่ได้)
สิบปากว่าก็ไม่เท่าตาเห็นเนอะ ลุงพาไปดูบรรยากาศความงามรอบๆสวนเลยดีกว่าฮะ สวนจะมีทั้งใบกิงโกะ และ ใบเมเปิ้ลเลยฮะ
จากสวน เรามาต่อกันที่โรงแรมกันต่อฮะ โรงแรมนี้อยู่ใกล้สวน nakajima park มากๆๆ เรียกว่าห่างจากสวนด้วยการเดินเท้า 3 นาทีเท่านั้นฮะ และ โรงแรมนี้เขาก็มีดีที่อาหารเช้าที่จัดเต็มเรื่อง ซาซิมิ มากๆๆๆ ลุงพาไปดูกันเนอะ
รีวิว อาหารเช้า โรงแรม vessel inn sapporo nakajima park
ต้องยอมรับ อาหารเช้าคือดีมาก ดีแบบตะโกน ตรงปกไม่จกตา อยากจะแนะนำให้ไป ถึงจะไม่ได้พักในโรงแรมก็สามารถมาทานบุฟเฟ่ต์อาหารเช้าได้ฮะ หัวล่ะ 2500 เยน จุดขายของอาหารเช้าโรงแรม vessel คือการนำอาหารเช้าแบบท้องถิ่นจากภูมิภาคที่โรงแรมตั้งอยู่มาเสริฟแขก อย่างสาขา ซัปโปโระ จะใช้ ข้าวจากบิเอะ นมจากฮาโกดาเตะ โยเกิร์ตจากนิเซโกะ ไอศครีมจากนิเซโกะ มิโซะ โชยุ ข้าวโพดก็เป็นของขึ้นชื่อจากฮอกไกโด เป็นต้น (เพราะฉะนั้น vessel แต่ล่ะภูมิภาคก็จะเสริฟอาหารเช้าไม่เหมือนกัน เช่นที่ นาโกย่าก็จะเป็นข้าวหน้าปลาไหล ที่คุมาโมโต้ก็จะเป็นเนื้อม้า ไข่ปลา เป็นต้น )
สิ่งที่มีอัพเดทเพิ่มขึ้นมาช่วงนี้ คือ เนื้อวากิว kuroge จากจังหวัด Tsukigata อะไรคือไม้ตายของอาหารเช้าที่นี่ ส่วนตัวว่าคือ ซาซิมิไม่อั้นนี่แหละ ถ้าตัดออกคือจบเลยฮะ ของสดมั้ย สดแบบที่เราจะหากินได้ในตลาดปลาเลยฮะ การันตี กินมาสี่วันไม่มีวันไหนไม่สดเลย (เพียงแต่ที่ตลาดปลาเราอาจจะได้ชิ้นใหญ่และหนากว่า และจะมีบางไอเทมที่เราจะหาทานได้เฉพาะตลาดปลาเนอะ)นอกจากซาซิมิ ควรลองอะไร : เนื้อวากิว ข้าวโพด นม โยเกิร์ต และไอศครีม ป.ล. ยังมีพวกราเม็ง ข้าวหน้าแกงกะหรี่ ซุปแกงกะหรี่ ด้วย แต่ตัดกำลังน่าดู คนไม่ค่อยสนใจกัน
ลุงจองโรงแรมได้คืนเท่าไหร่ โรงแรมญี่ปุ่นเขาคิดราคาเป็นคน ต่างจากที่ไทยเนอะลุงจองคนเดียว ห้องพักรวมอาหารเช้าอยู่ที่คืนล่ะประมาณ 1650 บาท (อาจด้วยค่าเยนที่ลงมาช่วงนี้ ประกอบกับช่วงไปไม่ใช่ช่วงไฮของฮอกไกโด ทำให้ราคาโรงแรมอาจถูกกว่าปกติ) คนที่เคยไปญี่ปุ่นบ่อยๆจะรู้ อยากได้โรงแรมถูกให้จองเนิ่นๆนานๆฮะขั้นต่ำสัก 4-5 เดือนขึ้นไปนิ
การเดินทางไปกลับ vessel inn sapporo nakajima park จากสนามบิน
ถ้ามาจากสนามบิน ให้ขึ้นรถบัส ที่ป้าย 14 ฝั่ง โดเมสติก หรือ ป้าย 84 ฝั่ง อินเตอร์ (ลุงขึ้นตรงฝั่งโดเมสติก ป้ายอยู่หน้าประตูตรงหน้าร้านเทมปุระเทนยะเลย ขามาลุงนั่งสีแดงมาฮะ เหมือนจะมาทุกต้น ชม ตอน นาทีที่ 7 ) ตอนขึ้นไม่ต้องจ่ายตังค์ จ่ายตอนลง (ตั๋วต้องซื้อมั้ย ส่วนตัวว่าไม่ต้องซื้อก็ได้ฮะ จ่ายเงินสดเอาตอนลงได้ฮะ เหมือนกัน) ใช้เวลาประมาณ 70 นาที ต่อเดียวถึงเลย ลงป้ายสุดท้าย ตรงหน้าสวนนาคาจิม่า
ส่วนขากลับ ขึ้นหน้าโรงแรม vessel inn sapporo nakajima park เลยสะดวกมาก แนะนำรอบ 7.45 มาถึง เคาร์เตอร์ AA น่าจะเปิดพอดีนะ (ถ้ามารอบ 6.45 ก็มีเวลาไปต่อแถว cheese snow ที่ สนามบิน ) ป.ล. ค่าตั๋วคือ 1300 เยน ทั้งไปและกลับฮะ รถมีสองสีนะ สีเขียว กับ สีแดง ขึ้นแบบไหนก็ได้ เขาสลับกันมาตามเวลาที่เขาลงไว้ฮะ
โรงแรมจะเช็คอินได้ประมาณบ่าย 2-3 ฮะ บิน AA มา มาถึงหน้าโรงแรมเวลาเช็คอินพอดีเลย ส่วนที่ชอบในโซนนี้คือ เวลคัมดริ้งไม่อั้นตั้งแต่บ่ายสองถึง 4 ทุ่มเลย มีหลายอย่างให้เลือกทานได้ไม่อั้นทั้งร้อนและเย็น อเมนิตี้จัดเต็มไม่มีกั๊กฮะ นอกนั้นก็เหมือนโรงแรมทั่วๆไปของญี่ปุ่นฮะ
ห้องพักก็ถือว่าทั่วไปนะ ตามมาตรฐานโรงแรมทั่วไปของญี่ปุ่นเลยฮะ ห้องขนาดไม่ใหญ่มากอะไร ห้องน้ำแอบดูใหญ่กว่าโรงแรมทั่วไปนิดนึง แต่ที่ชอบที่สุดในห้องคือหมอนฮะ หมอนเป็นสองแบบในใบเดียว ไอเดียดีมาก
สรุป ตัวโรงแรมก็คือทั่วไปฮะ แต่ชนะเลิศที่อาหารเช้าเลยฮะ ลุงเลือกจองที่นี่เพราะอาหารเช้านี่แหละ 5555
ถ้าถามว่านอกจากสวน Nakajima Koen แล้วยังมีจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีในซัปโปโระอีกมั้ย บอกเลยว่าเพียบ ไม่ว่าจะเป็นอุโมงค์กินโกะที่ Hokkaido University (ไม่มีค่าใช้จ่ายในการเข้าชม) Hokkaido University อยู่ด้านหลังสถานีซัปโปโระฮะ เดินไปนิดเดียว
ด้านหน้า ศาลาว่าการเก่าฮอกไกโด (ไม่มีค่าใช้จ่ายในการเข้าชม) ที่นี่อยู่ด้านหน้าสถานีซัปโปโระเลยฮะ เดินไปนิดเดียว เช่นกัน
โรงเบียร์ ซัปโปโระ อันนี้เดินไปจากสถานี ซัปโปโระ ไปได้ฮะ ประมาณ 20 นาที นั่งรถไฟไปก็ใช้เวลาไม่ต่างจากเดินฮะ หรือ ใครไปหลายคนนั่งแท๊กซี่ไปก็ได้ฮะ ประมาณ 5-7 นาที จากสถานี ซัปโปโระ
Ropeway MT Moiwa (อยู่ในซัปโปโระเช่นกัน) ซึ่งสามารถนั่งรถรางจากด้านหลังสวน Nakajima Koen ไปได้เลย (มีค่าใช้จ่ายในการขึ้นกระเช้าไปกลับประมาณ 2100 เยน) ลงรถรางที่สถานี ropeway นทท ส่วนใหญ่เขาชอบไปกันช่วงเย็นๆชมพระอาทิตย์ตกกันฮะ
ป.ล. ถ้าอยากชมใบไม้เปลี่ยนสีที่ ภูเขาโมอิวะ ด้วยความที่เป็นภูเขาอาจต้องมาสักปลายอาทิตย์ที่ 2 ต้นอาทิตย์ที่ 3 ของเดือนตุลานะ ด้วยความที่นี่จะสูงกว่า มันก็จะแดงก่อน
เมืองโอตารุ ส่วนตัวว่าใบไม้แดงเมืองนี้แอบมีไม่เยอะอย่างที่หวัง แต่ก็มาเที่ยว มาเดินเล่น มาเดินกินขนม ก็ถือว่าไม่เลวเลยนะ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชม จากกลางเมืองซัปโปโระ เดินทางสะดวกมาก มีทั้งรถบัส รถไฟ ใช้เวลาพอกันๆ (แต่รถบัสราคาถูกกว่าฮะ) เมืองนี้เหมาะกับการเดินเล่นชิลล์ๆ เหมือนมาเดินถนนเล่นคนเดินกินขนม กินข้าว
ปิดท้ายที่ของฝากกัน ใครมา Hokkaido อย่าลืมซื้อมาชิม
เมื่อก่อนนะ ใครมา Hokkaido ก็ต้องซื้อ royce เป็นของฝาก ไม่ก็ ชีสทาร์ต k หรือ ชีสเค้ก L เจ้าดัง แต่นาทีต้องยกให้เจ้านี่เลยจ้าาา (cheese) snow ขายดีเวอร์ๆๆๆๆ
ป.ล. ต่อแถว 20-30 คนตั้งแต่ร้านเปิด (ส่วนใหญ่เป็นคนญี่ปุ่นซื้อนะ) จะขายดีอะไรเบอร์นั้น ร้านดังๆร้านอื่นมองค้อนกันเลย ลุงซื้อที่สนามบิน เห็นว่าสาขาในเมืองก็ขายดีมากๆๆ แป๊ปเดียวหมดเช่นกัน (ใครมีเวลาแนะนำเดินกินขนมในสนามบินก็ไม่เลวนะ ของกิน ขนมดีๆ อร่อยๆ ไม่น้อยหน้าที่โอตารุเลย เรียกว่าน่าจะมีครบและมีมากกว่าที่โอตารุด้วยฮะ เรียกว่ารวมของดีของอร่อยของทั้งเกาะฮอกไกโดไว้ที่สนามบินเลยฮะ)
อันนี้ ลุงแถมรีวิวโรงแรมในซัปโปโระ ให้อีกทีนะฮะ อันนี้อยู่ใกล้ๆกับย่านทานูกิโคจิ
Raffinato Sapporo โรงแรมนี้ ราคาไม่แพง อาหารเช้าค่อนข้างดี (แต่ไม่มีปลาดิบนะ) น้ำอัดลม ชา กาแฟ ฟรี ตั้งแต่ 15.00-22.00น.
ทำเลที่ตั้ง อยู่แถวย่านทานูกิโคจิ แต่…. แค่อยู่แถวนะ ไม่ได้อยู่ตรง จากโรงแรมเดินไป ดองกี้ ทานูกิโคจิ ประมาณ 7 นาทีฮะ (ข้ามประมาณ 3 ไฟแดง) ใกล้ๆโรงแรมมีร้านสะดวกซื้อหลายร้านอยู่ฮะ เดินไปประมาณ 2 นาที ส่วนสถานีรถไฟก็เดินไกลนิดนึง
ราคา โรงแรมนี้ลุงจองไปราคาประมาณคืนล่ะ 1 พันนิดๆบาทแถมอาหารเช้า
จุดเด่น อาหารเช้าดีจริงนะ เทียบกับราคาที่จ่ายถือว่าไม่แพง แถม ตั้งแต่บ่ายสาม ก็มี น้ำอัดลม ชา กาแฟ(มีเครื่องชงดี กาแฟหลายเมนูมาก) ฟรีถึงสี่ทุ่มเลย เราสามารถซื้ออาหารมานั่งทานที่ห้องอาหารตอนเย็นทานพร้อมกับเครื่องดื่มได้ด้วยฮะ ดีมาก
จุดสังเกต โรงแรมเก่าหน่อยนะฮะ โรงแรมเป็นโรงแรมบิสซิเนสญี่ปุ่นแบบทั่วไป ธรรมดา ไม่ได้หวือหวา น่าจะสร้างมาสักพักล่ะ รูปแบบต่างๆของห้องพัก มันเลยเป็นโรงแรมแบบเมื่อ 10 ปีที่แล้วฮะ แต่เรื่องความสะอาดถือว่าจัดอยู่ในเกณฑ์ดี