รีวิว Cape Panwa Hotel and Spa

Advertisement
รีวิวโรงแรมเคปพันวา หาดพันวา

ยูฮู้ๆๆๆๆ “ฝรั่งมาภูเก็ตอยากเห็นอารายยยยยยย” ติ๊กต๊อกๆๆๆ คิดออกกันม้ายยยยย คำตอบคือ ” เห็นโหล่วววววว” ไงจ้าาาาา 55555  เอาจริงๆแล้วถ้าเรามาภูเก็ตจริงๆแล้วเราจะนึกถึงอะไรกันบ้างล่ะ หาดทรายสวยๆ ทะเลใสๆและแน่นอนที่สุด รีสอร์ทเริ่ดๆ  งั้นวันนี้ผมก็จะมาแนะนำอีกหนึ่งรีสอร์ทสวยที่เรียกว่าเป็นตำนานเก่าแก่ของภูเก็ตเลยก็ว่าได้ครับ รีสอร์ทแห่งนี้อยู่มาน้านนานนนนนน อยู่มาตั้งแต่ถูเก็ตยังไม่เจริญอย่างทุกวันนี้ เออ!!! ว่าแต่อยู่มานานขนาดนั้นรีสอร์ทจะเก่า เยินนนนไปขนาดไหนแล้วล่ะเนี้ยะ 555555 รีสอร์ทแห่งนี้เพิ่งได้รับการรีโนเวทไปเมื่อไม่นานนี้เองครับ เรียกได้ว่า เป็นการรีโนเวทเปลี่ยนโฉมครั้งใหญ่เลยก็ว่าได้ ถ้าจะเปรียบเป็นคน คงจะเรียกว่าไปยกเครื่องใหม่แปลงโฉมศัลยกรรมใหม่ทั้งตัวที่เกาหลีแดนโสมเลยก็ว่าได้  มาครับ มากับผม ผมจะพาไปสัมผัสความงดงามหลังจากการแปลงโฉมครั้งใหญ่ของที่นี่ Cape Panwa Phuket กัน

ทำเลที่ตั้งจะอยู่สุดปลายเกาะภูเก็ต แถวแหลมพันวาครับ จากที่รู้ๆกัน พูดถึงแหลมพันวา ใครจะรู้มั้ยว่า ถ้าอยากเที่ยวหาดที่สวยที่สุดของแหลมพันวาต้องที่นี่เท่านั้น Cape Panwa Phuket

ป.ล.จากแผนที่จะเห็นได้ว่า เคปพันวากับแคนทารีเบย์ จะอยู่ไม่ห่างกันมากนัก ทางโรงแรมจึงมีรถโพถ้องขับขึ้นลงเขาส่งแขกที่มาพักด้วยครับ ใครอยากขึ้นเขาลงเขาไม่ต้องเดินให้เมื่อยตุ้มนะคร้าบบบ

ก่อนที่ผมจะพาเพื่อนๆไปลั้นลาที่โรงแรมผมขอพาไปชมสถานที่ที่ผมชอบที่สุดของที่นี่ก่อนเลยดีกว่า ชายหาด ทะเล และสองเรา เอ้ย!!! ท่าเรือ ครับ

ช่วงเวลาที่ไปพัก 3 วัน 2 คืน หากใครอยากชมหาดสวยๆแบบนี้ต้องมาที่หาดช่วงประมาณเที่ยงถึงบ่ายสาม ครับ

หากใครอยากเจอน้ำใสๆแบบนี้ 8-10 โมงเช้าเท่านั้นครับ

ท่าเรือคือจุดที่ไม่น่าพลาด เมื่อมาเยี่ยมเยือนที่นี่

ช่วงเวลาที่ผมประทับใจที่สุด คือ ช่วงอรุณรุ่ง เวลาประมาณ 6.30 น ครับ งดงามมากกก ไม่อยากให้พลาดช่วงเวลานี้กันเลย

เอาล่ะครับเราเดินเที่ยวชายหาด ตัวดำ หัวกระเซิง กันมาพอสมควรแล้ว ผมว่าเราไปเช็คอินที่ล๊อบบี้กันดีกว่า

จุดนี้คือจุดเช็คอินลอบบี้ ที่นี่ได้รับการรีโนเวทออกมาใหม่ สวยงามจนจำของเก่าแทบไม่ได้เลยครับ

มาถึงเรือนชานต้องต้อนรับ น้ำท่าต้องพร้อมมมม ไหนล่ะน้ำ มีแต่กระดาษสองใบ อ้อ!!! เวลคัมดริ้งที่นี่ จะเสริฟเป็นวอยเชอร์ที่สามารถไปเลือกรับเครื่องดื่มหลากหลายได้ที่ห้องอาหาร Otter’s Bar สั่งได้กระทั้งเบียร์ และไวน์ เลยนะครับ

บริเวณนี้ถือเป็นลอบบี้สำหรับนั่งเล่น นั่งพักผ่อน เล่นอินเตอร์เน็ตครับ อินเตอร์เน็ตที่นี่จะฟรีเฉพาะพื้นที่ส่วนกลางเท่านั้น ใครอยากเล่นเน็ตฟรี แนะนำให้มาจองที่ตรงนี้ครับ สัญญาณแรงดีไม่มีตก

ด้านหลังของลอบบี้นี้ จะมีจุดจอดรถรางที่จะพาขึ้นลงระหว่างหาดกับลอบบี้ครับ

ด้านใต้ของลอบบี้ส่วนนี้ จะเป็นคิดคลับครับ เราไม่มีเด็กมาด้วย ขอข้ามไปเลยนะครับ

อีกด้านของลอบบี้ จะเป็น ในส่วนของห้องประชุม มีตติ้งรูม

ไหนๆๆ เช็คอินกันเรียบร้อยหรือยางงงงงง  ใครเช็คอินเรียบร้อยแล้ว มาครับส่งกระเป๋ามาเลย เดี๋ยวผมพาไปส่งที่ห้องพักกัน ใครนอนห้องรูมไทพ์ไหนกันบ้าง มาครับๆ

มีใครพักห้องระดับนี้มั้ยครับ Absolute Suite ห้องพักที่สวยที่สุดของ Cape Panwa Hotel and Spa
Phuket

ห้องนี้คือที่แพงที่สุดของที่นี่ชื่อ Absolute Suite พื้นที่ 530 sqm เป็นห้องดูเพล็กสองชั้น พร้อมสระว่ายน้ำส่วนตัว อลังได้อีกนะขอบอก วิวทะเล แบบ 360 องศากันเลยทีเดียว

ห้องนี้เป็นห้องพักชั้นล่างครับ กว้างขวางใหญ่โต เหมาะกับการตั้งวงอะไรสักสามสี่วง

ถึงห้องพักระดับนี้จะมีเพียงแค่สองชั้น แต่ในห้องนี้มีลิฟส่วนตัวให้ใช้กันด้วยครับ เวอร์ได้อีก

สระว่ายน้ำขนาดใหญ่ที่ไม่ใช่เป็นแค่บ่อปลาแช่ ว่ายออกกำลังกายได้จริงๆ แถมวิวอลังได้อีก

ช่วงไฮไลท์ของที่สระนี้ ถือเป็นจุดชมอาทิตย์อัสดงที่แสนงดงามที่สุดด้วยครับ เฮ้ออออ อยากแช่อน้ำที่สระนี้ ชมอาทิตย์อัสดงจังเบยยย

ส่วนใครพักห้อง Cape Suite เชิญทางนี้ครับ พื้นที่ใช้สอย  78 sq.m. ห้องค่อนข้างกว้างขวางเพราะเมื่อครั้งที่รีโนเวทได้ยุบรวมห้องธรรมดาสองห้องเข้าไว้ด้วยกันครับ

ห้องน้ำครับ โซนเปียก โซนแห้ง สุขา อ่างอาบน้ำแยกกันอย่างชัดเจน

ชุดอเมนนิตี้เป็นแบบนี้

ระเบียงห้องจะค่อนข้างยาวและกว้างพอประมาณ มีอ่างจาฯให้ที่ระเบียงด้วย วิวที่ได้ดูจะเห็นทะเลไม่ค่อยชัดไปสักหน่อย

ส่วนห้องของ Cape Signature Suite พื้นที่ใช้สอยการตกแต่งแทบจะไม่ต่างกันเลยครับแต่ ต่างกันที่ระเบียง ที่รับชมวิวกันไปแบบเต็มๆแบบนี้ เห็นแล้วก็กรี้ดดด อยากนั่งชมพระอาทิตย์ขึนจากห้องนี้

ส่วนสำหรับผู้ที่พักห้อง Superior Room เชิญมาทางนี้ครับ ห้องมีขนาดพื้นที่  36 sq.m. ถึงจะเป็นห้องขนาดเล็กสุด แต่ก็ไม่อึดอัดนะ

ส่วนห้องน้ำผมว่า แอบมินิสักกะนิดไปหน่อยล่ะนะผมว่า

หลังจากเก็บข้าวเก็บของกันเรียบร้อยแล้ว ร้อนๆอย่างนี้ผมแนะนำว่าเราไปลงเล่นน้ำที่สระก่อนเลยดีกว่า แล้วค่อยกลับขึ้นมาพึ่งพุงนอนกลางวันตากแอร์เย็นๆบนห้องจะดีกว่ามั้ย สระว่ายน้ำจะอยู่ติดกับลอบบี้ และห้องอาหารอันดามันคาเฟ่ เลยจ้าาา ใครเก็บของเสร็จแล้วเปลี่ยนชุดว่ายน้ำโลดดดด เจอกันที่สระว่ายน้ำน้าาาาา

เอาจริงๆแล้วสระว่ายน้ำที่นี่จะมีอยู่ด้วยกันสองสระสระใหญ่จะอยุ่ติดกับลอบบี้ ส่วนอีกสระจะเป็นสระเล็กอยู่ริมหาดติดกับห้องอาหารไทยบ้านพันวา

ส่วนใครไม่อยากลงเล่นน้ำ แต่อยากหาอะไรอร่อยๆทานแนะนำห้องอาหารที่ห้องอาหารนี้ครับ Café Andaman เช้า สาย บ่าย เย็น และบุฟเฟ่ เราจะหาทานได้ที่ห้องอาหารนี้ล่ะครับ ผมพาเดินชมบรรยากาศห้องอาหารกันก่อนดีกว่า

ใครอยากทานบุฟเฟ่ ผมแนะนำให้ทานเป็นช่วงเย็นๆ มีบุฟเฟ่สเต็กราคาพอคบพอคุยได้อยู่ครับ ราคาจำไม่ผิด 800กว่าๆนี่แหละ ได้โปรดอย่าถามว่าอร่อยมั้ย ยังไม่เคยลองเบย

ส่วนอาหารจานเดียว เท่าที่เคยชิมมา 3 เมนู ข้าวผัดสัปปะรด ข้าวกระเพราะทะเลไข่ดาว ผัดไทย ขอตอบแบบไม่สตรอเบอรี่พันธ์ 80 เลยนะ รสชาติงั้นๆ ทั่วไป ไม่ได้ต่างจากโรงแรมอื่นๆมากมาย

ส่วนอาหารเช้าจัดเป็นบุฟเไลน์ฟ่เสริฟตั้งแต่ 6 โมงครึ่ง  เราไปดูบรรยากาศไลน์อาหารกันดีกว่า มีอะไรน่าสนใจบ้าง

ที่ผมว่าน่าสนใจและแตกต่างจากโรงแรมอื่นๆ คือมีรถเข็นผลไม้ด้วยครับ ไอเดียนี้ น่ารักดีนะ ไลท์ครับ

ส่วนในไลน์ผลไม้แห้งจะมีลูกพรุนให้ด้วยครับ ซึ่งบอกตรงๆ หาทานจากโรงแรมอื่นไม่เคยมีเลยนะ

ส่วนเมนูอื่นๆก็ทั่วไป หลายๆโรงแรมมีเหมือนกัน

ไก่ผัดเม็ดมะม่วง กับ ไก่ย่างเทอริยากิ  อีกหนึ่งเมนูที่เจอบ่อยๆในไลน์อาหารเช้า ที่นี่ทำรสชาติใช้ได้นะ

ข้าวต้มหมูทรงเครื่อง ผมว่าใครชอบอาหารไทยในไลน์บุฟเฟ่ ผมว่าคุณน่าจะมีความสุขกับอาหารเช้าได้นะครับ ส่วนเบเกอรี่ก็ธรรมดาทั่วไป

ชั้นล่างของ Café Andaman จะมีคลับเลาจน์ และฟิตเนสเซนเตอร์อยู่ครับ ใครอยากจะลองใช้บรการแวะมาได้ มีห้องซาวน่าที่ฟิตเนสให้ด้วยครับ

ส่วนห้องอาหาร ที่ผมประทับจิต ประทับใจ และยังไงก็ต้องลองมาชิมดูคือห้องอาหารไทย บ้านพันวาครับ ทำเลจะอยู่ด้านล่างสุดเกือบสุดหาดเลยล่ะ อาหารราคาเริ่มต้นที่ 100 นิดๆ ผมว่าไม่แพงอย่างที่คิดนะครับ รสชาติจะออกเป็นรสคนไทยภาคกลาง รสชาติจะไม่เผ็ดจัดจ้านเหมือนอาหารภาคใต้ จะเน้นรสกลมกล่อมแนว อูมามิ

เมนูที่ห้ามพลาดที่จะชิมคือ ฉูฉี่กุ้ง กุ้งลายเสือตัวใหญ่ๆทอดมาได้กำลังดี ราดด้วยเครื่องแกงฉูฉี่รสกล่อมกล่อม ไม่เผ็ดเกินไปนะ

ปลากระพง ต้มยำแห้ง ปลากระพงทอดกรอบ ราดเครื่องต้มยำน้ำข้นรสเข้มข้น ครบรสครับจานนี้

เนื้อผัดพริกแกง ใครชอบทานเนื้อ แนะนำเมนูนี้เลยครับ อร่อยมากกกกกก ห้ามพลาด เนื้อไม่เหนียว  รสเครื่องแกงกลมกล่อมอร่อยมากกก

ส่วนใครอยากลองอาหาร อิตาเลี่ยน ต้องมาห้องอาหารนี้ครับ Top of the Reef & Otter’s Bar ที่นี่และได้โปรดอย่าถามว่ารถชาติเป็นเยี่ยงไร ยังไม่มีโอกาสได้ชิมคร้าบบบบ

The Light House บาร์รูปทรงหอประภาคารของที่นี่ ช่วงดึกๆจะมีวงดนตรีสดมาเล่นด้วยครับ น่าเสียดายที่นี่จะไม่เห็นวิวอะไร เพราะอยู่ด้านหน้าโรงแรม

ห้องอาหารสุดท้าย ที่อยู่บริเวณชายหาด  Bamboo Bar ใครที่มาเล่นน้ำที่ชายหาดช่วงกลางวัน แต่ขี้เกียจขึ้นมาทานอาหารที่ห้องอาหาร  Café Andaman สามารถหาเมนูอาหารง่ายๆทานได้จากตรงนี้ครับ ไม่ว่าจะเป็น พิซซ่า แซนวิช แฮมเบอร์เกอร์

ปิดท้าย ที่ห้องสปาของที่นี่กันดีกว่า เผื่อใครสนใจอยากทำสปา ลองแวะมาดูกันนะครับ ห้องสปาจะอยู่ด้านหน้าสุดของโรงแรม

สรุปปิดท้ายกันสักนิด

คงต้องยอมรับก่อนเลยว่าเมื่อก่อนนี้ (ก่อนที่จะรีโนเวท) ผมเคยมองข้ามและไม่เคยสนใจที่นี่เลย เนื่องด้วยรู้สึกว่าเก่าและไม่ค่อยน่าสนใจ ดูไม่ค่อยมีอะไรนอกจากชายหาดและท่าเรือ แต่มาถึงวันนี้วันที่ผมได้มาสัมผัสที่นี่ด้วยตัวเอง ผมคงต้องยอมรับเลยว่า ที่นี่มีดีเกินกว่าที่ผมมองข้ามไปจริงๆ ความสวยทันสมัยและดีไซด์ถูกผนึกหลอมรวมเข้ากับบรรยากาศที่อยู่สบายๆอารมณ์อย่างรีสอร์ทในสมัยก่อนทำให้ที่นี่เป็นรีสอร์ทสองอารมณ์แตกต่างแต่ลงตัวได้อย่างไม่น่าเชื่อ มีน้อยโรงแรมมากครับ ที่จะให้ฟีลลิ่งได้แบบนี้

ป.ล. ถ้าสระว่ายน้ำเล็กบริเวณชายหาด ได้รับการรีโนเวทศัลยกรรมให้เป็นสระใหญ่อินฟินิตี้เอจพูลนะจะฟินนาเร่มากเลยนะ….ขอบอก

Leave a Reply